โสมแดงรัวกระสุนใส่ทหารแปรพักตร์เจ็บสาหัส ขณะหนีข้ามพรมแดนเข้าเกาหลีใต้

วันที่ 14 พฤศจิกายน 2560 สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า รัฐบาลและกองทัพของเกาหลีใต้กล่าวว่า ได้มีทหารเกาหลีเหนือนายหนึ่งที่แปรพักตร์ได้รับบาดเจ็บสาหัส หลังถูกทหารรักษาการณ์สาดกระสุนใส่ขณะข้ามพรมแดนมายังเกาหลีใต้

โดยนายซู วุค หัวหน้าหน่วยปฏิบัติการภายใต้ฝ่ายเสนาธิการร่วมของเกาหลีใต้กล่าวต่อสมาชิกสภาว่า ทหารแปรพักตร์นายนี้ ได้เร่งเดินทางด้วยการขับรถมายังชายแดนในบริเวณหมู่บ้านปันมุนจอม ภายในเขตปลอดทหารซึ่งมีการป้องกันอย่างแน่นหนา จากนั้นได้จอดรถแล้ววิ่งหนีข้ามพรมแดน ก่อนที่ทหารรักษาการณ์ของเกาหลีเหนือจะพบและระดมยิงใส่ไปกว่า 40 นัด จนกระทั่งในเช้าวันนี้ เราทราบว่าเขาหมดสติและไม่สามารถหายใจเองได้ แต่ตอนนี้ได้ช่วยชีวิตให้รอดแล้ว

นายซูยังกล่าวว่า แพทย์สนามได้ถอนกระสุนออกจากร่างทหารนายนี้ได้ 5 นัด ยังเหลืออีก 2 นัด พร้อมกับระบุว่า การหนีข้ามพรมแดนของทหารนายนี้ราวกับถอดมาจากภาพยนตร์ไม่มีผิด โดยทหารนายดังกล่าว หนีเข้าหลบกำบังหลังสิ่งก่อสร้างของเกาหลีใต้ในเขตความมั่นคงร่วมซึ่งอยู่ในเขตปลอดทหาร

จากนั้น กองบัญชาการสหประชาชาติหรือยูเอ็นซี ได้แถลงแยกว่า ทหารเกาหลีใต้และสหรัฐฯ กลัวว่าทหารเกาหลีเหนือจะยิงใส่อีก จึงตัดสินใจคลานไปหาทหารรายนี้และช่วยเหลือเขาออกมา อีกทั้งจะมีการดำเนินการสืบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นด้วย

อย่างไรก็ตาม กองทัพเกาหลีใต้ได้กล่าวว่า ขณะนี้ทางเกาหลีเหนือยังไม่มีการกล่าวถึงเรื่องทหารนายนี้ รวมทั้งไม่ได้รับการบ่งชี้ถึงความเคลื่อนไหวที่ผิดปกติแต่อย่างใด

ด้านนายซง ยัง มู รัฐมนตรีกลาโหมเกาหลีใต้ กล่าวว่า นี่เป็นครั้งแรกที่ทหารเกาเหลีเหนือได้ยิงเข้าใส่พื้นที่ความมั่นคงร่วมฝั่งเกาหลีใต้ และได้กระตุ้นให้สมาชิกสภาบางคนเรียกร้องให้ทหารเกาหลีใต้ยิงโต้กลับด้วย ซึ่งนายมูน ซัง กยุน โฆษกกระทรวงกลาโหมเกาหลีใต้ กล่าวว่า ปฏิบัติการทหารใดๆในพื้นที่ความมั่นคงร่วมจะดำเนินอยู่ภายใต้คำสั่งของกองบัญชาการสหประชาชาติหรือยูเอ็นซีซึ่งนำโดยสหรัฐฯ

ส่วนอาการของทหารเกาหลีเหนือแปรพักตร์รายนี้ นายซูกล่าวว่า ได้ถูกนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของยูเอ็นซีไปยังศูนย์ปฏิบัติการซึ่งในขณะนี้แพทย์กำลังพยายามช่วยชีวิต โดยพบว่าเครื่องแบบที่สวมใส่เป็นทหารระดับชั้นผู้น้อย แม้ยังไม่ทราบข้อมูลว่าทหารนายนี้มาจากไหนและอะไรคือความตั้งใจที่ทำให้ตัดสินใจหนีข้ามพรมแดน แต่คณะกรรมการหยุดยิงของยูเอ็นได้แจ้งไปยังกองทัพเกาหลีเหนือเกี่ยวกับทหารนายนี้ว่ากำลังทำการยื้อชีวิต

ทั้งนี้ มีชาวเกาหลีเหนือตัดสินใจแปรพักตร์ในทุกปีกว่า 1 พันคน โดยส่วนใหญ่เดินทางผ่านจีน และอีกวิธีที่ไม่ค่อยทำกันคือข้ามพรมแดนเข้าพื้นที่ปลอดทหารที่ทอดแนวตามเส้นขนานที่ 38 ซึ่งแบ่งเกาหลีออกเป็นเหนือ-ใต้หลังทำข้อตกลงหยุดยิง และทั้งสองประเทศยังอยู่ในภาวะสงครามระหว่างกันจนถึงทุกวันนี้

ที่ผ่านมา เกาหลีเหนือมีการร้องเรียนว่า ชาวเกาหลีเหนือที่แปรพักตร์นั้นถูกลักพาตัวโดยฝ่ายเกาหลีใต้ และมีการเรียกร้องให้ปล่อยตัว เช่นเมื่อเดือนนี้ ได้เรียกร้องให้เกาหลีใต้ปล่อยตัว พนักงานเสิร์ฟชาวเกาหลีเหนือ 12 คน คืนให้กับเกาหลีเหนือ โดยระบุว่า พวกเขาถูกลักพาตัวขณะทำงานอยู่ในจีน อย่างไรก็ตาม ทางการเกาหลีใต้ระบุว่า พนักงานเสิร์ฟที่เป็นหญิง 12 คนและชายอีก 1 คน ตัดสินใจเลือกแปรพักตร์มาอยู่กับเกาหลีใต้

แต่การตัดสินใจข้ามพรมแดนของทหารนายนี้ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นมานับตั้งแต่ปี 2007