เผยแพร่ |
---|
โฆษกพรรคไทยสร้างไทย อัดรัฐ ไม่ใส่ใจปัญหาสุขภาพประชาชน ปล่อย PM2.5 เล่นงานคนไทยต่อเนื่อง ระบุ ตลอดปี65 กทม.อากาศดีแค่ 83วันจี้ รัฐเร่งผลักดัน พ.ร.บ. อากาศสะอาด คืนอากาศบริสุทธิ์ให้ประชาชน
นางสาวธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย แสดงความห่วงใยประชาชนชาวกรุงเทพฯ เนื่องจากตลอดสัปดาห์นี้มีแนวโน้มค่าฝุ่น PM 2.5 พุ่งสูงกว่าปกติ สาเหตุหลักมาจากเพดานการลอยตัวของอากาศในเมืองต่ำลง ทำให้สถานการณ์อาจจะหนักและรุนแรงกว่าปีที่ผ่านมา พร้อมแนะนำว่าหากเป็นไปได้ให้ประชาชนในพื้นที่ที่มีค่าฝุ่นสูงพิจารณา Work from home เพื่อความปลอดภัย หรือควรใส่หน้ากากอนามัย N95 หรือหน้ากากอนามัยสองชั้นกรณีออกมาข้างนอก
ปัญหา PM 2.5 เริ่มส่งผลกระทบรุนแรงขึ้นมาในประเทศไทยตั้งแต่ปี 2561 และดูเหมือนจะทวีความรุนแรงต่อเนื่องกันมาทุกปี โดยมักเกิดเมื่อเข้าสู่ฤดูหนาวประมาณเดือนพฤศจิกายน และจะเบาบางลงเมื่ออากาศร้อนขึ้นในเดือนเมษายน แหล่งกำเนิดของฝุ่น PM 2.5 มาจากหลายสาเหตุ ทั้งควันจากท่อไอเสียรถยนต์ โดยเฉพาะรถดีเซลเก่าที่ประสิทธิภาพของเครื่องยนต์ไม่ดี การเผาขยะ การเผาเพื่อเตรียมพื้นที่ทำการเกษตร ไฟป่าทั้งที่เกิดตามธรรมชาติและการลักลอบเผาป่า การก่อสร้างและโรงงานอุตสาหกรรม ซึ่งรัฐบาลควรเร่งจัดการปัญหาตั้งแต่ระยะสั้น-กลาง-ยาว และเร่งหาทางออกที่ยั่งยืน เพื่อคืนอากาศบริสุทธิ์ให้กับประชาชนทั่วประเทศ
ข้อมูลจากมูลนิธิเพื่อสันติภาพเขียว (Greenpeace Thailand) เปิดเผยว่าตลอดปี 2565 ที่ผ่านมา กรุงเทพฯ มีวันที่อากาศดีเพียง 83 วัน จากทั้งหมด 365 วัน หรือคิดเป็นแค่ 22.7% ตลอดทั้งปี โดยส่วนใหญ่อากาศดีจะอยู่ในช่วงฤดูฝนตั้งแต่เดือนมิถุนายน-กันยายน แต่ในฤดูอื่นๆ คนกรุงเทพฯ แทบจะไม่มีอากาศบริสุทธิ์ให้หายใจ นอกจากนี้ ยังมีการประเมินว่าการได้รับฝุ่น PM 2.5 เข้าไปในระยะยาว เป็นสาเหตุนำไปสู่การเสียชีวิตก่อนวัยอันควรมากถึง 29,000 คน ในปี 2021 โดยเว็บไซด์ของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) ประเทศไทย ระบุว่าคนไทยเสียชีวิตจากฝุ่น PM 2.5 ประมาณ 70,000 คนต่อปี ในขณะที่องค์การอนามัยโลกพบว่า ประเทศไทยมีผู้เสียชีวิตจาก PM 2.5 สูงเป็น 4 เท่าของการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุการจราจรทางบก
นางสาวธิดารัตน์กล่าวต่อว่ารัฐบาลต้องเร่งแก้ไขปัญหาฝุ่น PM 2.5 อย่างเป็นรูปธรรม เพราะเป็นปัจจัยสำคัญที่กระทบต่อคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนในระยะยาว และควรเร่งพิจารณาร่าง พ.ร.บ. อากาศสะอาด ของเครือข่ายอากาศสะอาด หลังจากยื่นเสนอต่อรัฐสภาไปตั้งแต่เดือน มกราคม 2565 ซึ่งผ่านมา 1 ปี ร่างดังกล่าวยังไม่สามารถที่จะนำเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรได้ เนื่องจากยังรอการตอบรับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเหลือการตอบรับจากกระทรวงการคลัง จึงยังไม่สามารถนำเสนอต่อนายกรัฐมนตรีได้ และก็ไม่แน่ใจว่าจะผ่านการพิจารณาทันอายุรัฐบาลนี้ด้วยหรือไม่ เพราะไม่ได้กำหนดกรอบระยะเวลาไว้
“รัฐบาลไม่สนใจประชาชน ไม่คำนึงถึงสุขภาพชีวิตของผู้คน ทั้งๆ ที่เคยประกาศเป็นวาระแห่งชาติที่ทุกคนต้องมีส่วนร่วม แต่เมื่ออยู่ในขอบเขตความรับผิดชอบของตัวเอง กลับเพิกเฉยและปัดตกร่าง พรบ. ดังกล่าวไป” นางสาวธิดารัตน์กล่าว