“โรม” ดักคอ กกต. ตีเนียนแบ่งเขตเลือกตั้งพิสดาร ตามฐานเสียงพรรคการเมือง หวั่นซ้ำรอยปี 62

“โรม” ดักคอ กกต. ตีเนียนแบ่งเขตเลือกตั้งพิสดาร ตามฐานเสียงพรรคการเมือง หวั่นซ้ำรอยปี 62 ชี้ ไร้เหตุผลที่จะไม่ทำระบบรายงานผลเรียลไทม์

เมื่อวันที่ 31 ม.ค. 2566 นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ โฆษกพรรคก้าวไกล กล่าวว่า ตนขอเรียกร้องคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ให้มีความชัดเจนต่อการแบ่งเขตเลือกตั้งอย่างสมเหตุสมผล และไม่บ่ายเบี่ยงในการสร้างระบบรายงานผลการเลือกตั้งแบบเรียลไทม์ หลังพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ที่เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า หนึ่งในบทเรียนสำคัญที่สุดจากการเลือกตั้งปี 2562 เป็นการแบ่งเขตเลือกตั้งแบบพิสดาร ที่ไม่ส่งผลดีทั้งต่อประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง และนำไปสู่ข้อครหาเรื่องความไม่โปร่งใส ทำให้เกิดคำถามว่าการแบ่งเขตเลือกตั้ง สะท้อนพื้นที่ประชากรอย่างถูกต้องหรือไม่ เอื้อประโยชน์ต่อพรรคการเมืองบางพรรคหรือไม่ ดังนั้น จึงขอเรียกร้องให้ กกต. แบ่งเขตในการเลือกตั้งปี 2566 ที่จะถึงนี้อย่างเป็นธรรม สอดคล้องกับธรรมชาติของพื้นที่ ไม่ใช่ตัดแบ่งหรือรวมตำบลต่างๆ ออกเป็นเขตเลือกตั้ง ตามฐานเสียงของพรรคการเมืองบางพรรคเป็นสำคัญ

“ผมไม่อยากให้ประเทศมีข้อครหาว่าการเลือกตั้งที่กำลังจะถึง กลายเป็นการเลือกตั้งที่สกปรกอีกครั้งเหมือนปี 2562 สำหรับการเลือกตั้งครั้งนี้ที่มีอยู่ 400 เขต ประเทศไทยก็เคยผ่านมาแล้ว หากแบ่งเขตได้อย่างเป็นธรรม ก็จะทำให้การเลือกตั้งครั้งนี้ได้รับการยอมรับมากขึ้น” นายรังสิมันต์ กล่าว

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า ส่วนกรณีการรายงานผลคะแนนแบบเรียลไทม์ ซึ่งกกต.อ้างว่าไม่อาจทำได้ เพราะใช้งบประมาณมากเกินไปนั้น ที่ผ่านมาคณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้อนุมัติงบประมาณให้ กกต. ถึงเกือบ 6 พันล้านบาท เป้าหมายหนึ่งก็เพื่อให้การจัดการเลือกตั้งเป็นไปอย่างโปร่งใสที่สุด หากการประกาศผลการเลือกตั้งสามารถเป็นแบบเรียลไทม์ได้ การทุจริตด้วยวิธีการต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น ไฟดับระหว่างนับคะแนน การแอบสลับหีบ ย้ายหีบ ก็จะทำได้ยากขึ้น เพราะประชาชนจำนวนมากจะเห็นผลการเลือกตั้งไปพร้อมๆ กัน

นายรังสิมันต์ กล่าวว่า การประกาศผลแบบเรียลไทม์ คือระบบที่เป็นธรรมต่อทุกฝ่าย แต่คำถามสำคัญอยู่ที่ว่า กกต. อยากทำหรือไม่ ตนมั่นใจว่าประชาชนส่วนใหญ่ในประเทศนี้ อยากรู้ผลการเลือกตั้งแบบเรียลไทม์หมด ไม่มีใครอยากเห็นการเลือกตั้งที่ไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น การทราบผลได้ทันทีเป็นประโยชน์ต่อประชาชน การที่กกต.อ้างว่าไม่ให้มี เพราะราคาแพงเกินไป จึงเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผลอย่างยิ่ง

“ประชาชนเป็นเจ้าของเงิน เขาอยากเห็นการเลือกตั้งที่สุจริต ถ้าเราใช้เงินไปกับการสร้างเครื่องมือ เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ผมเชื่อว่าประชาชนเอาด้วย แต่ถ้ากกต.บอกว่าไม่อยากทำ กกต.ต้องการช่วยใครหรือไม่ กกต.ซึ่งมีหน้าที่จัดการเลือกตั้ง กำลังบอกว่าไม่อยากให้มีเครื่องมือที่สร้างความสุจริตโปร่งใสต่อการเลือกตั้งครั้งนี้ ตกลงคุณกำลังทำหน้าที่จัดการเลือกตั้งให้ประชาชน หรือพรรคการเมืองบางพรรค คนบางคนหรือไม่” นายรังสิมันต์ กล่าว