ประยุทธ์ บุกนครสวรรค์ เคลมเป็นคนดูแลแก้น้ำทั้งหมด เย้ยประวิตรแค่ถูกมอบให้ดูแลกำกับ

“บิ๊กตู่” เคลมงานแก้น้ำเป็นคนดูทั้งหมด เย้ยแค่มอบบิ๊กป้อมกำกับดูแล ระบุตั้งพีระพันธุ์เพราะเป็นผู้พิพากษาเก่า แนะนำ ส.ส.ต้อนรับบอกพรรคไหนไม่รู้แต่ต้องทำให้ ปชช. ย้ำ ขรก.ต้องทำงานเชิงรุก

เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 30 ม.ค. ที่วัดดงแม่ศรีเมือง ต.ตาสัง อ.บรรพตพิสัย จ.นครสวรรค์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ติดตามการขับเคลื่อนระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้าในระดับพื้นที่ โดยทันทีที่มาถึง พล.อ.ประยุทธ์ สักการะหลวงพ่อโต และนมัสการพระครูนิวาสบุญญากร (หลวงพ่อบรรจง ปริปุณโณ) เจ้าอาวาสวัดดงแม่ศรีเมือง ที่วิหารหลวงพ่อโต โดยเจ้าอาวาสได้มอบพระพุทธรูปจำลองพระกำแพงสามขาให้กับนายกรัฐมนตรี

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ รับฟังการบริหารจัดการน้ำเพื่อการเกษตร (บึงบอน) และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการน้ำ “บึงบอน” อำเภอบรรพตพิสัย ก่อนกล่าวกับประชาชนที่มาให้การต้อนรับประมาณ 5,000 คน ตอนหนึ่งว่า วันนี้เดินทางมาแต่เช้า แต่เครื่องมีปัญหานิดหน่อย ถ้าบินมาด้วยเครื่องลำนั้นป่านนี้ไม่รู้ไปถึงไหน วันนี้พูดเยอะ เหนื่อย แต่ยอมรับว่าเวลาทำมันเหนื่อยกว่านี้ แต่ตนก็ทำมาโดยตลอด ทำให้กับทุกคนเพราะนี่คือประเทศไทย

พล.อ.ประยุทธ์ ยังได้กล่าวแนะนำทีมงานที่เดินทางมาด้วย ช่วงหนึ่งได้แนะนำ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ว่า เลขาฯมีหน้าที่ทำเรื่องของเอกสาร และแผนงานต่างๆที่อาจต้องมีการตรวจสอบให้นายกฯ ซึ่งนายพีระพันธุ์ เป็นผู้พิพากษาเก่า ทำอย่างไรให้นายกฯปลอดภัยในเรื่องของกฎหมาย รวมทั้งได้แนะนำเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สทนช.) ว่า ที่ตนตั้ง สทนช. มาก็เพื่อบริหารจัดการน้ำ บูรณาการน้ำ เพราะมีหลายหน่วยงานเรื่องน้ำ ซึ่งตนมอบหมายให้ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯเป็นผู้กำกับดูแลตรงนี้ แต่ทั้งหมด ต้องมาที่ตน เพราะตนเป็นผู้อนุมัติในฐานะนายกฯ และนำเข้าพิจารณาในคณะรัฐมนตรี ก็ต้องดูว่าที่ทำขึ้นมารับได้หรือไม่ มีงบประมาณเพียงพอหรือไม่ เราต้องบริหารตรงนี้ให้ได้ ตามความเร่งด่วน

จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์ ได้แนะนำ นายเสกสกล อัตถาวงศ์ หรือแรมโบ้ ที่ปรึกษาของนายกฯ ที่ตั้งขึ้นมาเพราะมีความใกล้ชิดประชาชน ก็เอามาช่วยงานกัน เขาอาสาสมัครเข้ามาไม่มีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ทำงานกันไป

ช่วงหนึ่งนายกฯได้แนะนำผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 6 พร้อมระบุว่า เมื่อกี้สั่งย้ายให้ไปประจำสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1 -2 คน ยืนยันต่อไปนี้ใครมีเรื่องต้องถูกย้ายทั้งหมด ถ้ามีการเกี่ยวพันมีหลักฐานก็ย้ายไปประจำไม่เช่นนั้นไม่เข็ด คนดีในองค์กรเยอะแยะเสียหายไปหมด องค์กรก็เสียด้วย

พร้อมกันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้แนะนำบรรดา ส.ส.ที่มาให้การต้อนรับ โดยให้ยืนโชว์ตัว พร้อมกระเซ้า นายนิโรธ สุนทรเลขา ส.ส.นครสวรรค์ ที่ครั้งแรกไม่ได้ลุกขึ้นยืน โดยระบุว่าไม่ใช่ส.ส.หรืออย่างไร “ผมไม่รู้หรอกพรรคไหน ผมก็ไม่รู้ แต่ ส.ส.เป็นผู้ที่จะต้องรับฟังความต้องการของประชาชนมาแล้วนำเสนอเข้ามาให้รัฐบาลทราบ ผมไม่ใช่ศัตรูของใคร สุดแล้วแต่ท่านจะเลือกกันอย่างไร แต่ทุกอย่างต้องมีหลักการในการทำงาน ทำไมผมจะเป็นคนที่ไม่รักพวกเรา ผมทำได้ทำไมผมถึงไม่ทำ ขอให้คิดอย่างนี้ มันจะได้เป็นกำลังใจให้กันและกัน ขัดแย้งกันไม่ได้อีกแล้ว เราไม่ต้องการให้ประเทศกลับไปสู่แบบเดิม ใครต้องการแบบเดิมบ้าง อย่าให้เกิดขึ้นอีกเลย ผมไม่พูดอะไรถึงใครหรอก แต่ทั้งหมดขึ้นอยู่กับพวกเราทั้งนั้น มันมีช่องทางทุกอย่างที่จะแก้ไขปัญหาไม่ใช่ว่าจะไม่ถูกวิธีแล้วจะวุ่นไปทั้งหมด” พล.อ.ประยุทธ์ ถอนหายใจพร้อมกับระบุว่า นี่พูดแบบขึ้นรถไฟไปโน้นแทบจะกลับไม่ถูก

ในช่วงท้ายพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ทุกคนต้องทำงานเชิงรุก ชุมชนต้องเข้มแข็ง ห่วงใยกัน มีจิตใจเอื้อเฟื้อถึงกันรักกันมากๆ อย่าให้อะไรต่างๆทำลายมิตรภาพของเรา เพราะฉะนั้นถ้าใครมีพฤติกรรมแบบนี้มา เราก็อย่าไปร่วมมือกับเขาเท่านั้นเอง เราก็อยู่ของเราเพื่อจะทำให้บ้านเมืองสงบสุข ขอขอบคุณอีกครั้ง ดีใจที่ได้พบกับพวกเรานำความปรารถนาดีมาให้ ถ้าเราต่างคนต่างมีจิตใจอันบริสุทธิ์ถึงกันมันก็จบแล้ว เขาเรียกว่าเป็นกุศล ขอให้คิดดีทำดี นั่นคือสิ่งที่จะทำให้เราเจริญไปข้างหน้าและมีความสุข

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ดังกล่าวมี นายสัญญา นิลสุพรรณ ส.ส.นครสวรรค์ เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ นายสุรชาติ ศรีบุศกร ส.ส.พิจิตร เขต 3 พรรคพลังประชารัฐ ซึ่งมีกระแสข่าวเตรียมจะย้ายมาอยู่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) มาให้การต้อนรับด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า การลงพื้นที่นครสวรรค์ยังได้มีการปรับกิจกรรมนายกรัฐมนตรี เดิมมีกิจกรรมในแปลงนาข้าวปลอดภัย (ข้าวรักษ์โลก) ในการขับรถดำนา หรือ บังคับโดรนพ่นสารชีวพันธุ์ แต่ได้มีการยกเลิก

จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ เดินทักทายประชาชนและนักเรียนที่มาต้อนรับ พร้อมกล่าวตอนหนึ่งว่า “รักทุกคนนะ ไม่รักจะทนอยู่มาหลายปีได้อย่างไร รักประชาชนจริงๆ รักทุกคน รักตั้งแต่ในท้องจนถึงผู้ใหญ่ เพราะฉะนั้นต้องรัก สามัคตี ไปทำลายกันไม่ได้ อย่าลืมว่า ประวัติศาสตร์มีไว้เรียนรู้ มีทั้งดีและไม่ดีอะไรที่ไม่ดีก็อย่าไปทำ แต่ไม่ได้ว่าอะไรใคร ทุกคนก็ต้องไปดูอะไรดีไม่ดีที่ดีก็ทำต่อ ฉะนั้นชาวบ้านก็ต้องไปเลือกกันมา”

นอกจากนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังระบุด้วยว่า ครูกับนักเรียนต้องเรียนรู้ไปด้วยกัน นายกฯ เป็นคนอารมณ์ดีไม่ได้ขี้โมโห ถ้ามีอะไรก็ขอให้บอก ส.ส.ไป

ช่วงหนึ่งหลังมีชาวบ้านถามถึงทะเบียนรถเพื่อนำไปเสี่ยงโชค พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ถามเรื่องทะเบียนรถกันอีกแล้ว ไปดูเองนายกฯพูดตรงนี้ไม่ได้