‘อดิศร เพียงเกษ’ ชี้ ‘30 บาทรักษาทุกโรค’ ยุคเพื่อไทยสมัยหน้า บัตร ปชช.ใบเดียวรักษาได้ทุกโรงพยาบาลรัฐ เจ็บป่วยเล็กน้อยใช้ ‘เทเลเมดิซีน’ คุยกับหมอส่งยามาบ้าน

(28 มกราคม 2566) ที่เวทีปราศรัยใหญ่พรรคเพื่อไทย #แลนด์สไลด์เพื่อไทยเท่านั้น ณ ตลาดคลองถม อำเภอโพนพิสัย จังหวัดหนองคาย นายอดิศร เพียงเกษ โฆษกผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร และสมาชิกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่านโยบายต่างๆ ของพรรคเพื่อไทยตั้งแต่ในอดีตที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน เป็นนโยบายที่ผ่านการคิดอย่างรอบคอบ และปฏิบัติได้จริงและมีประสิทธิภาพ เช่น โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค ที่เป็นโครงการสวัสดิการสุขภาพของพ่อแม่พี่น้องชาวหนองคายในขณะนี้

นายอดิศร กล่าวเล่าประวัติโครงการ 30 บาทรักษาทุกโรคของสมัยรัฐบาล ดร.ทักษิณ ชินวัตร ว่าสามารถทำให้คนไทยมีหลักประกันสุขภาพ รักษาโรคยามเจ็บป่วยด้วยเงินเพียงแค่ 30 บาท โดยแค่ไปโรงพยาบาลแสดงบัตรประชาชนก็จะได้รับการรักษา จนชาวบ้านเรียกกันติดปากว่า บัตรทอง ซึ่งในขณะนั้น นายแพทย์สงวน นิตยารัมภ์พงศ์ ประธานชมรมแพทย์ชนบท ซึ่งเป็นผู้บุกเบิกแนวคิดนี้ไปเสนอรัฐบาลนายชวน หลีกภัย แต่ตอนนั้นนายชวน ไม่คิดว่าเป็นไปได้ แต่พอในสมัยรัฐบาล ดร.ทักษิณ ชินวัตร มองว่าโครงการนี้คือการเฉลี่ยค่าใช้จ่ายระหว่างภาครัฐกับประชาชนและมีความเป็นไปได้ จึงรับความคิดมาพัฒนาต่อยอดและตั้งชื่อว่า โครงการ 30 บาทรักษาทุกโรค หรือที่ชาวบ้านเรียกว่า บัตรทอง มาจนถึงปัจจุบัน

นายอดิศร กล่าวต่อว่าในรัฐบาลถัดไปที่มีแพทองธาร เป็นนายกรัฐมนตรี เราจะพัฒนาโครงการ 30 บาทให้ทันสมัยมากยิ่งขึ้น สะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น แค่ไปยื่นบัตรประชาชนก็สามารถเข้ารักษาได้ในโรงพยาบาลรัฐทุกแห่ง ถ้าอาการเจ็บป่วยเล็กน้อยเราก็จะมีเทเลเมดิซีน หรือระบบแพทย์ทางไกล ให้ผู้ป่วยได้พูดคุยกับหมอ เพื่อสอบถามวินิจฉัยอาการ และให้ไปรับยาผ่านโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพประจำตำบลหรือส่งไปรษณีย์ไปที่บ้านเพื่อความสะดวก

“30 บาทรักษาทุกโรคของ ดร.ทักษิณ ที่พี่น้องได้ใช้อยู่ จะพัฒนาต่อไปไม่หยุดยั้ง ในรัฐบาลสมัยหน้า จะรักษารวดเร็วขึ้น บัตรประชาชนใบเดียวเข้ารักษาที่โรงพยาบาลรัฐที่ไหนก็ได้ เจ็บป่วยเล็กน้อย มีคุยกับหมอและส่งยามาบ้าน สะดวก ปลอดภัย เพราะนโยบายเพื่อไทยทำได้ ทำจริง และทำสำเร็จมาแล้ว ดังนั้น เลือกตั้งคราวหน้า กาเพื่อไทย ทั้งคนทั้งพรรคไม่แบ่งให้ใคร ให้แพทองธารได้เป็นนายกรัฐมนตรี” โฆษกผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าว