เมื่อวันที่ 27 ม.ค.  ปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้าทวีตข้อความหลังจากพรรคร่วมฝ่ายค้านออกแถลงการณ์ร่วม เสนอปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมและคืนสิทธิประกันตัวผู้ต้องขังการเมืองระบุว่า

แถลงการณ์พรรคฝ่ายค้านไม่มีพูดถึงกฎหมายอาญามาตรา 112 แม้แต่น้อย ถ้าพรรคก้าวไกลมุ่งมั่นเรื่องการแก้ ม.112 และนิรโทษกรรมเยาวชนจริงก็ควรรณรงค์อย่างต่อเนื่อง การร่วมกันเป็นเข่งอาจเป็นเอกภาพ แต่อีกด้าน คือช่วยกันย้ำว่าการแก้หรือยกเลิก ม.112 เป็นไปไม่ได้ ตกลงแล้วประเทศนี้เราไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลง ม.112 โดยพรรคการเมือง รัฐสภาได้เลยใช่หรือไม่

พรรคก้าวไกลควรใช้พลังของตนเองในการรณรงค์เรื่องการแก้/เลิก 112 และนิรโทษกรรมเยาวชนอย่างเต็มที่กว่านี้ ลองสลัดหัวให้สมองปลอดโปร่งสักที เลิกพะวงเรื่องผลการเลือกตั้ง การร่วมรัฐบาลและอีกสารพัดปัญหา แล้วถามตนเองว่าตอนนี้เราต้องทำอะไร เราตั้งพรรคมาทำไม ผมเคยและจำต้องกลืนเลือดมาแล้วตอนช่วงจดทะเบียนตั้งพรรคอนาคตใหม่ ยอมหยุดเรื่องแก้/เลิก ม.112 ในท้ายที่สุดก็ไม่ได้ช่วยอะไร สถานการณ์วันนี้เปลี่ยนไปมากแล้ว คิดทบทวนเป็นแบบที่ตนเองเป็น เดินหน้าให้เต็มที่ เป็นความหวังของพลังใหม่ของสังคมดีกว่าครับ ผมไม่ได้สนใจว่าก้าวไกล จะได้เท่าไร จะชิงการนำ จะหาเสียงจากสถานการณ์แบบนี้ได้หรือไม่ นี่มันเรื่องขี้ประติ๋วความสำคัญอยู่ที่ ณ เวลานี้ ที่มีการต่อสู้ของตะวันและแบม และความคิดคนเปลี่ยนไปมาก แล้วเราจะเข้าไปร่วมสร้างกลุ่มก้อนกันในหมู่นักการเมืองดั้งเดิมว่าการแก้/เลิก 112 เป็นไปไม่ได้เลยหรือ

ปิยบุตรยังทวีตอีกว่าพรรคการเมืองต้องไม่ลดทอนประเด็น 112 และการปฏิรูปสถาบันฯให้เหลือเพียงสิทธิประกันตัวและกระบวนการยุติธรรม แน่นอนว่าเรื่องหลังก็สำคัญ เป็นปัญหาเฉพาะหน้า ต้องแก้ด่วน ขอให้ได้มาก่อน แต่เรื่องแรก ต้องไม่ถูกจงใจไม่พูดถึง นักการเมืองพูดกันสักหน่อย สักนิดก็ยังดี อย่าทำเหมือนไม่มีอะไร

เลขาธิการคณะก้าวหน้า ทวีตเพิ่มเติมถึงกลุ่มก้อนการเมืองเก่าระบุพรรคการเมืองแบบดั้งเดิมทั้งหมดกลัวกังวลกับเรื่อง ม.112 และนิรโทษกรรมเยาวชนที่โดน ม.112 พรรคก้าวไกลต้องมีหน้าที่ผลักดันรณรงค์ปักธงสร้างวาระว่าเรื่องเหล่านี้เป็นเรื่องปกติ ทำได้ในระบบรัฐสภาเหมือนที่ก้าวไกลทำมาในหลายๆ เรื่อง เรื่องนี้ ไม่ใช่แค่มี ส.ส. เท่าไร แต่ต้อง normalisation ให้ได้

ทั้งนี้ก่อนหน้านี้ 26  ทีมสื่อพรรคเพื่อไทย รายงานต่อสื่อมวลชนวันนี้ (26 ม.ค.) พรรคร่วมฝ่ายค้าน ประกอบด้วย พรรคเพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคเสรีรวมไทย พรรคประชาชาติ พรรคเพื่อชาติ และพรรคพลังปวงชนไทย ออกแถลงการณ์ร่วมกรณีอาการ ‘แบม’ อรวรรณ ภู่พงษ์ และทานตะวัน ตัวตุลานนท์ พร้อมเสนอถึงกระทรวงยุติธรรม ฝ่ายบริหาร ต้องเปิดรับฟังความเห็นข้อเสนอปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมจากทุกภาคส่วน และเรียกร้องให้ศาลต้องพิจารณาคดีของผู้ถูกกล่าวหาทางการเมืองอย่างเป็นธรรม

แถลงการณ์พรรคร่วมฝ่ายค้าน

สืบเนื่องจากการยื่นถอนประกันตัวเองและอดอาหาร-น้ำของทานตะวัน ตัวตุลานนท์ (ตะวัน) กับอรวรรณ ภู่พงษ์ (แบม) ซึ่งถึงวันนี้ทั้งสองคนมีอาการทรุดลงอย่างน่าเป็นห่วง ดังนั้น เพื่อให้สถานการณ์ที่น่าเป็นห่วงนี้ยุติลง และเป็นจุดเริ่มต้นในการคลี่คลายสถานการณ์ความขัดแย้งทางการเมือง พรรคร่วมฝ่ายค้านจึงมีข้อเสนอเฉพาะหน้าร่วมกัน ดังต่อไปนี้

1. รัฐบาลโดยกระทรวงยุติธรรม รวมทั้งสำนักงานศาลยุติธรรม ควรเปิดรับฟังความคิดเห็นในการปฏิรูปกระบวนการยุติธรรมจากฝ่ายต่างๆ โดยเร็ว ทั้งจากประชาชนที่ได้รับกระทบจากกระบวนการยุติธรรมในปัจจุบัน นักกฎหมาย องค์กรสิทธิมนุษยชน และพรรคการเมือง

2. ขอให้ศาลยุติธรรมยึดมั่นในหลักความเป็นอิสระของผู้พิพากษา และต้องพิจารณาการให้สิทธิประกันตัวของผู้ต้องหาหรือจำเลยคดีการเมืองอย่างเป็นธรรม เคารพหลักสันนิษฐานไว้ก่อนว่าบริสุทธิ์ (Presumption of innocence) และสิทธิในกระบวนการยุติธรรมของประชาชน ดังที่ได้รับรองไว้ทั้งในกฎหมายอาญาไทยและกติกาสากลระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง

ทั้งนี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่า ข้อเสนอเฉพาะหน้าข้างต้นจะป้องกันไม่ให้เกิดวิกฤตศรัทธาในกระบวนการยุติธรรมไปมากกว่านี้ การฟื้นฟูความเชื่อมั่นของประชาชนต่อกระบวนการยุติธรรมจะเป็นปราการด่านสุดท้ายในการยุติความขัดแย้งของสังคม

พรรคเพื่อไทย
พรรคก้าวไกล
พรรคเสรีรวมไทย
พรรคประชาชาติ
พรรคเพื่อชาติ
พรรคพลังปวงชนไทย