‘สภา’ เข้าขั้นโคม่า ล่มแทบทุกวัน จนกลายเป็นเอกลักษณ์

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การประชุมสภาในวันที่ 19 มการาคม ที่รัฐสภา ช่วงบ่าย มีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ราชวิทยาลัยจุฬาภรณ์ (ฉบับที่..) พ.ศ. … และร่าง พ.ร.บ.มหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ พ.ศ. … ซึ่งเป็นการพิจารณาวาระ 1 การประชุมเป็นไปอย่างราบรื่น

แต่เมื่อถึงช่วงตรวจสอบองค์ประชุม มีเพียง 217 เสียง ซึ่งเกินองค์ประชุมมาเพียง 1 เสียง และใช้เวลารอนานกว่าองค์ประชุมจะครบ รวมถึงช่วงการลงมติคะแนนก็เกินองค์ประชุมเพียง 1 เสียงเช่นกัน และใช้เวลานานในการเรียกสมาชิก ทั้งกดออด และขอให้สมาชิกไปตาม ส.ส.ที่อยู่ในห้องประชุมกรรมาธิการ (กมธ.) เข้ามาในห้องประชุม เพื่อช่วยให้มาลงมติให้ครบองค์ประชุม

กระทั่งร่าง พ.ร.บ.จัดตั้งศาลภาษีอากรและวิธีพิจารณาคดีภาษีอากร พ.ศ. … ก็ยังติดปัญหาในช่วงนับองค์ประชุมเช่นกัน โดย นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภา คนที่ 1 ซึ่งทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ได้กดออดเรียกสมาชิกเพื่อตรวจสอบองค์ประชุม แต่ดูเหมือนว่าจะยังขาดอีกจำนวนมาก

จน พล.ต.ต.สุพิศาล ภักดีนฤนาถ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) พูดขึ้นว่า ความน่าจะเป็นไม่เกิดขึ้นเลย ตอนนี้มีสมาชิกแค่ 150 คนเอง

นายสุชาติจึงพูดขึ้นว่า “ขาดอีกเพียง 70 คนเอง” จนเรียกเสียงหัวเราะจากสมาชิกบางส่วน

ต่อมา นายสุชาติจึงพูดขึ้นว่า คงจะกลับบ้านเร็วอีกวันหนึ่งแล้ว เอาไว้ลงมติคราวหน้า จากนั้นปิดการประชุมในเวลา 17.04 น.

ขณะที่วันที่ 18 มกราคม การประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภา คนที่ 1 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม ก็เพิ่งล่มไป หลังการหารือความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่แล้ว โดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายสุชาติได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบถึงกรณีที่นายณัฐวุฒิ กองจันทร์ดี ส.ส.หนองบัวลำภู ได้มีหนังสือขอลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคเพื่อไทย (พท.) และนายเขตรัฐ เหล่าธรรมทัศน์ ลาออกจากสมาชิกพรรครวมพลัง (รพ.) ซึ่งการลาออกมีผลสมบูรณ์เมื่อได้ยื่นลาออกจากนายทะเบียน เมื่อวันที่ 12 มกราคม 2566 และวันที่ 17 มกราคม 2566 ตามลำดับ จึงเป็นผลให้สมาชิกภาพของทั้งสองคน สิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ ทำให้ปัจจุบันมีสมาชิกเหลือ 432 คน และองค์ประชุมครึ่งหนึ่งคือ 216 คน

จากนั้นเวลา 10.47 น. ได้เข้าสู่วาระการประชุม เพื่อพิจารณา ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง พ.ศ. …. ซึ่งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาเสร็จแล้ว ต่อเนื่องจากครั้งที่แล้ว โดยตั้งแต่เปิดประชุมมา นายสุชาติได้กดออดหลายครั้งเพื่อเรียกให้สมาชิกเข้าห้องประชุม เพื่อลงมติในมาตรา 11 แต่กว่าจะครบองค์ประชุม 216 เสียง ก็ใช้เวลากว่า 20 นาที กระทั่งเวลา 11.06 น. นายสุชาติได้เปิดให้ลงมติในมาตรา 11 แต่เมื่อแสดงผลการลงคะแนน ปรากฏว่า มีจำนวนผู้ลงมติ 203 คน เห็นด้วย 174 คน ไม่เห็นด้วย 4 คน งดออกเสียง 24 คน และไม่ลงคะแนน 1 คน ถือว่าไม่ครบองค์ประชุม

ทำให้นายสุชาติกล่าวขึ้นว่า ตอนเช็กองค์ประชุมก็ครบ แต่ตอนลงมติไม่ถึง 216 คน ซึ่งเคยมีคำพิพากษาของศาลฎีกาไว้ว่า การเช็กองค์ประชุมครบเสร็จแล้ว และตอนลงมติจำนวนต้องครบองค์ประชุมด้วย ฉะนั้น การลงมติตรงนี้ถือว่าไม่ครบองค์ประชุม ดังนั้นขอปิดประชุมในเวลา 11.12 น. ทั้งนี้ตั้งแต่เข้าสู่วาระการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา ใช้เวลาเพียง 25 นาที สภาก็ล่ม