โรม’ สวน ‘ประวิตร’ สังคมไทยจะก้าวข้ามความขัดแย้ง ต้องทลายมรดก คสช.-ล้างผลพวงรัฐประหาร

โรม’ สวน ‘ประวิตร’ สังคมไทยจะก้าวข้ามความขัดแย้ง ต้องทลายมรดก คสช.-ล้างผลพวงรัฐประหาร ย้ำชัดก้าวไกลไม่เอาประยุทธ์-ประวิตรเป็นนายกฯ สืบทอดอำนาจ

วันที่ 18 มกราคม 2566 ที่รัฐสภา รังสิมันต์ โรม โฆษกพรรคก้าวไกล ให้ความเห็นกรณี พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ กล่าวระหว่างการเปิดตัวนโยบายของพรรคพลังประชารัฐเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเลือกตั้ง ว่าพร้อมจับมือกับทุกฝ่ายเพื่อก้าวข้ามความขัดแย้ง

รังสิมันต์ กล่าวว่า ทั้ง พล.อ.ประวิตร และ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มีบทบาทสำคัญในการทำรัฐประหารและการสืบทอดอำนาจ ทำให้ประเทศไทยต้องพบวิกฤตต่างๆ จนถึงปัจจุบัน ซึ่งพรรคก้าวไกลยืนยันว่าการที่เราจะแก้ไขวิกฤตทางการเมืองของประเทศ หรือก้าวข้ามความขัดแย้งได้ จำเป็นต้องทลายมรดกของ คสช. และผลพวงของการรัฐประหารเสียก่อน ไม่เช่นนั้น ประเทศไทยจะไม่สามารถเดินไปข้างหน้าได้อย่างยั่งยืน

รังสิมันต์ กล่าวต่อว่า สิ่งที่เราเห็นคือ กลุ่ม 3 ป. มีบทบาทสำคัญในการทำลายหลักการสิทธิมนุษยชน ทำให้ตน และคนอีกจำนวนมากถูกจับกุมดำเนินคดี ถูกปิดกั้นสิทธิเสรีภาพ นั่นจึงเป็นเหตุผลว่าทำไมจึงมีการตั้งพรรคอนาคตใหม่ขึ้นมาเป็นทางเลือก เพื่อต่อสู้ให้เกิดการเปลี่ยนแปลงประเทศ และลบล้างผลพวงการรัฐประหารทั้งหมด

“หลังรัฐประหาร 2557 มีคนจำนวนมากถูกตั้งข้อหาร้ายแรง ทั้งๆ ที่ความต้องการของพวกเขามีเพียงอย่างเดียวคือเปลี่ยนแปลงสังคมให้ดีขึ้นและเป็นประชาธิปไตย ดังนั้น ที่พลเอกประวิตรอ้างว่า อยากจะสานสัมพันธ์หรือจับมือกับทุกฝ่าย มั่นใจว่าประชาชนไม่เห็นด้วย เพราะสิ่งที่ประชาชนต้องการในวันนี้คือการเปลี่ยนแปลง และพาประเทศไทยออกจากซากเดนของ คสช. ที่ทั้งพลเอกประยุทธ์และพลเอกประวิตรสร้างไว้” รังสิมันต์กล่าว

รังสิมันต์กล่าวว่า พรรคอนาคตใหม่คือพรรคการเมืองที่ตอบโต้กับความเลวร้ายที่คณะรัฐประหารสร้างขึ้น เมื่อเกิดการยุบพรรคอนาคตใหม่ พรรคก้าวไกลก็สานต่อเจตนารมณ์ เรามีภารกิจเดียวกัน คือเราจะไม่ยอมให้คนอย่างพลเอกประยุทธ์ หรือพลเอกประวิตร ได้เป็นนายกรัฐมนตรีเพื่อสานต่ออำนาจต่อไปแน่นอน