เผยแพร่ |
---|
โฆษกพรรคไทยสร้างไทย เผย สภาล่มต่อเนื่อง ล่าสุดเป็นครั้งที่ 30 ฉุดร่างกฎหมายสำคัญ เดือดร้อนประชาชน สะท้อนความเสื่อมถอยของเสาหลักชาติ เชื่อเป็นผลพวงจากรัฐธรรมนูญ วอนผู้ทรงเกียรติ คำนึงถึงประโยชน์ประชาชนเป็นลำดับแรก
นางสาวธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย เผยว่าล่าสุดวันที่ 11 ม.ค. 2566 ต่อเนื่องมาจากวันที่ 10 ม.ค. 2566 มีการพิจารณา ร่างพ.ร.บ. การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. โดยการประชุมสภาฯ ส่อแววจะมีปัญหาเรื่ององค์ประชุมตั้งแต่เปิดการประชุม และผลสุดท้ายก็ต้องปิดสภา เพราะเมื่อต้องนับคะแนนเพื่อลงมติ ก็พบว่าจำนวน ส.ส. ไม่ครบองค์ประชุมอีกครั้ง
หากรวบรวมจากฐานข้อมูลการประชุมสภาผู้แทนราษฎรและการรายงานจากสื่อมวลชน นับแต่สภาผู้แทนราษฎรชุดที่ 25 ได้เข้ามาทำหน้าที่และเริ่มมีการประชุมสภาครั้งแรกเมื่อวันที่ 25 พ.ค. 2562 ตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา สภาผู้แทนราษฎรชุดปัจจุบัน ถูกบันทึกไว้จนถึงวันที่ 11 ม.ค. 2566 มีองค์ประชุมที่ล่มซ้ำซากไปแล้วถึง 30 รอบ เริ่มจากในปี 2562 สภาล่มทั้งหมด 3 ครั้ง โดยครั้งแรกเกิดขึ้นหลังจากมีการขานชื่อเป็นเอกฉันท์ให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรีเข้ารับตำแหน่งได้เพียงแค่ 2 เดือน ต่อมาในปี 2563 สภาล่ม 1 ครั้ง ภายหลังมีการโยกย้าย ส.ส. จากฝ่ายค้านเข้าร่วมกับพรรคร่วมรัฐบาล
อย่างไรก็ตาม ในปี 2564 สภาเริ่มล่มครั้งแล้วครั้งเล่า โดยล่มไปทั้งหมดจำนวน 9 ครั้ง ประธานสภาและรองประธานสภาไม่สามารถควบคุมองค์ประชุมได้ ซึ่งต่อเนื่องมาจนถึงปี 2565 ที่สภาล่มไปกว่า 13 ครั้ง และยังคงดำเนินมาข้ามปี นับตั้งแต่เปิดปีใหม่ 2566 เริ่มต้นที่การประชุมสภาผู้แทนราษฎรครั้งแรกประจำปีในวันที่ 4 ม.ค. 2566 ก็ล่มอีกครั้ง
เมื่อพิจารณาสถิติการประชุมสภาฯ ของปี 2565 ตั้งแต่วันที่ 19 ม.ค. 2565 ถึงล่าสุดวันที่ 11 ม.ค. 2566 มีการประชุมสภามาแล้ว 49 ครั้ง สภาล่มทั้งสิ้น 15 ครั้ง คิดเป็น 30% ของการประชุมทั้งหมดตั้งแต่ปี 2566 สะท้อนความไม่เป็นมืออาชีพ ไม่รับผิดชอบต่อบทบาทหน้าที่ที่เป็นตัวแทนของประชาชน
ผลกระทบของฝ่ายนิติบัญญัติไทยที่ไม่แสดงตนเป็นองค์ประชุมตลอด 4 ปี มีการทำองค์ล่มถึง 30 ครั้ง สะท้อนความเสื่อมถอยของแวดวงนิติบัญญัติในประวัติศาสตร์ เพราะเพียงแค่เริ่มต้นปี 2566 ก็ต้องเผชิญกับภาวะสภาล่มมาอย่างต่อเนื่องข้ามปี โดยเป็นผลพวงมาจากกติกาของรัฐธรรมนูญ ทำให้เกิดรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ เป็นรัฐบาลผสมกว่า 20 พรรคและมีการโยกย้ายและมีข้อครหาในการซื้อตัว ส.ส. ให้มาร่วมฝั่งรัฐบาล จนเผชิญปัญหาสภาไร้เสถียรภาพ ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ได้ตามเหมาะสมอย่างที่ควรเป็น
นางสาวธิดารัตน์ย้ำว่าหากแต่ละฝ่ายมัวแต่เล่นเกมการเมือง ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของประชาชน ย่อมสร้างความเดือดร้อนและประชาชนจะเป็นผู้ได้รับผลกระทบ การที่สภาไม่สามารถผลักดันร่างกฎหมายต่างๆ ถือเป็นการผลาญเงินภาษีของประชาชนโดยเสียเปล่า อีกทั้งยังละเลยการปฏิบัติหน้าที่ตามที่อาสาประชาชน ทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติ โดยหวังว่าทุกฝ่ายจะยึดมั่นและให้ความสำคัญกับผลประโยชน์ของประชาชนเป็นอันดับแรก