“ชูวิทย์”เหน็บ“ประยุทธ์”จะเป็นนักการเมืองเต็มตัว ยังหลบตอบปม“หลาน-ตู้ห่าว”

7 ม.ค. 66 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ และอดีตหัวหน้าพรรครักประเทศไทย ได้โพสต์ข้อความถึงประเด็นที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ออกอาการโมโหฉุนเฉียว หลังจากที่ถูกผู้สื่อข่าวถามถึงประเด็นที่มีชื่อหลานชายมาเอี่ยวในคดีตู้ห่าว ว่า

“เรื่องของวงศาคณาญาติ ท่านนายกฯ จะหงุดหงิดเรื่องอันใดผมไม่ทราบได้ ถึงขนาดกระฟัดกระเฟียด ต่อว่าสื่อด้วยสีหน้าไม่พอใจ เมื่อถามเรื่องที่ผมพาดพิงท่านในวันแถลงข่าวเกี่ยวกับ หจก. คอนเทมโพรารี่ คอนสตรัคชั่น ซึ่งเป็นของหลานชายท่าน เกี่ยวโยงธุรกิจรถเช่าของตู้ห่าว

หลังขึ้นรถ พล.อ.ประยุทธ์ ลดกระจกลง พร้อมพูดว่า “สื่ออย่าให้มีปัญหา ฉันไม่เคยมีปัญหากับสื่ออยู่แล้ว สื่อดีๆ ก็เยอะแยะ”

ผมเองก็งงกับท่านเหมือนสื่อ อันที่จริง ท่านแค่ตอบคำถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างหลานท่านที่ทำมาค้าขายกับนายตู้ห่าวแค่นั้นเอง ไม่เห็นจะยากตรงไหน

หลานชายท่าน (ลูกชายของ พล.อ.ปรีชา จันทร์โอชา) ที่ได้ดีทางธุรกิจ หากินกับงานประมูลของกองทัพ

เมื่อเป็นถึงหลานนายกฯ ประยุทธ์ ที่อยู่ยงคงกระพันมา 8 ปี ย่อมใช้อ้างอิงทำมาหากินกับราชการ งบหลวง ประมูลงานของกองทัพได้ง่าย

“สายสัมพันธ์” แข็งโป๊ก ลูกใคร หลานใคร เขาดูแค่นามสกุลก็รู้เรื่องแล้ว

หรืออย่าง บริษัท ซันลอง ของจีน นำเข้ารถบัส รถทัวร์ หลายร้อยคัน แล้วหลานนายกฯ ไปตกลงซื้อมา
และนำไปเข้าลีสซิ่งกับ บริษัท เอเซียเสริมกิจ จำกัด (มหาชน) ภายใต้ชื่อ หจก.คอนเทมโพรารี่ คอนสตรัคชั่น ทั้งที่ทุนจดทะเบียนแค่ 3 ล้านบาท แต่มีหลานท่านนายกฯ ถือหุ้นใหญ่ จากนั้นไปให้เช่าช่วงแบ่งเปอร์เซ็นต์กับนาย “ตู้ห่าว”

ในนาม บริษัท เอ็ม แอนด์ เอ็ม ทรานสปอร์ต เซอร์วิส จำกัด (ใช้ชื่อนอมินี นายสิทธิไพบูลย์ พี่เมียตู้ห่าวที่ถูกจับไปแล้ว) เท่ากับ นายตู้ห่าวจ่ายเงินให้หลานนายกฯ ประยุทธ์ เป็น “นอมินี” เพื่อนำไปจ่ายดอกเบี้ยเงินผ่อนค่ารถทัวร์ ที่ใช้ในกิจการวิ่งรับทัวร์จีน

นี่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกประหลาดในประเทศไทยอีก

หากจะใช้สายสัมพันธ์ อิทธิพล บารมี ของท่านนายกฯ ไม่ว่าทางตรง ทางอ้อม ไปทำมาหากิน ล้วนเป็นเรื่องธรรมด๊าธรรมดาของคนในครอบครัว ใครๆ ก็ใช้กันในประเทศไทย เรียกว่า “เครือข่ายความสัมพันธ์วงศาคณาญาติของผู้นำ”

ท่านหงุดหงิด อารมณ์เสียว่าไปถามเรื่องตู้ห่าว ทำให้ผ้าขาวท่านแปดเปื้อน แล้วไปทำโมโหโกรธาสื่อ มันคนละเรื่อง คนเขาอยากฟังท่านแก้ตัวว่าอย่างไรต่างหาก

ยิ่งวันที่ 9 มกราคม ท่านไปสังกัดพรรค “รวมไทยสร้างชาติ” เป็นนักการเมืองเต็มตัว เสนอตัวขอเป็นนายกฯ ต่ออีก 2 ปี แล้วเรื่องแค่นี้ยังตอบสื่อไม่ได้ จะให้ลงแต่เรื่องดีๆ ภาพสวยๆ ชูไม้ชูมือกันเท่านั้นหรือ? ยังไงความจริงย่อมเป็นความจริงวันยันค่ำ

ส่วนเรื่องไม่จริง ทั้งรถทัวร์เลี่ยงภาษีนำเข้า โดยการนำรถทัวร์ที่ผลิตที่จีน แต่มาส่งเข้าทางประเทศมาเลเซีย เพราะมีสนธิสัญญากับไทยว่า หากมีการนำเข้ามาบางส่วน แล้วประกอบกับชิ้นส่วนที่ผลิตในไทย จะถือเป็นการสร้างงาน ก็ไม่ต้องเสียภาษี

แต่แท้จริงแล้ว ไม่ได้มีการซื้อวัสดุในไทยแม้แต่ชิ้นเดียว แค่ถอดแยกชิ้นส่วนจากเมืองนอก แล้วนำเข้าไทย ประกอบกลับเข้าไปใหม่ที่อู่แถวแปดริ้วนี่เอง เป็นการซิกแซ็กเพื่อหลีกเลี่ยงภาษีเท่านั้น

ส่วน หจก.คอนเทมโพรารี่ คอนสตรัคชั่น ที่มีทุนจดทะเบียนเพียง 3 ล้านบาท จะไปซื้อรถทัวร์ จำนวน หลายร้อยคันได้ยังไง? มีการเอาเงินนายตู้ห่าวมาซื้อแทนหรือเปล่า? แล้วทำไปเพื่ออะไร?

ขอตอบว่า เพราะ หจก. นี้ มีชื่อหลานท่านนายกฯ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ใครๆ ก็อยากเอาไว้เป็นบารมี
อ้างอิงว่า “รู้ไหม อั๊วหุ้นกับใคร?” มันก็คงไม่ใช่เรื่องจริงอีกล่ะมั้งท่าน มันเป็นเรื่อง “วงศาคณาญาติ” ที่ท่านต้องทำเป็นไม่รู้ไม่เห็น

หากไม่จริงก็ชี้แจงไปซะก็หมดเรื่องคาใจ ไม่มีอะไรยากเย็น จะอารมณ์เสียไปทำไม? เพราะท่านจะเป็นนายกฯ ต่ออีก 2 ปี เรื่องแบบนี้ควรชี้แจงให้ชัดเจน ไม่ใช่เอาเด็กวานซืนที่ท่านเพิ่งแต่งตั้งมาเป็น “รัฐมนตรีกระทรวงปกป้องนายกฯ” อย่างนายธนกรมาตอบแทน ยกเว้นว่าท่าน “ไม่อยากตอบ” ให้ดูเหมือนว่า หลานท่านไปเกี่ยวพันกับตู้ห่าวเสียเอง

ในทางธุรกิจ คนไม่รู้จักกันจะทำมาค้าขายกันถึงแบบนี้ได้ยังไงครับ? หรือท่านอาจไม่ชอบคนพูดความจริง ถึงทำที “กลบเกลื่อน” ไปซะอย่างนั้น

ความจริงของปัญหาคอรัปชั่นที่สั่นคลอน แม้แต่อธิบดีกรมอุทยานมีเงินเต็มโต๊ะ ยังแค่ย้าย แทนที่ต้องหยุดปฎิบัติหน้าที่ราชการ หรือการช่วยเหลือในคดี “จินหลิง” ที่รถของกลางหาย ผู้ต้องหาหาย มีการช่วยเหลือกันทุกรูปแบบ

เพราะวงจรคอรัปชั่น ถึงทำให้ “จีนเทาอย่างตู้ห่าว” เติบโต กำเริบ เหิมเกริมได้ถึงขนาดหุ้นกับหลานนายกรัฐมนตรี อันเป็นความจริงที่เจ็บปวดของคนไทย แต่ท่านนายกฯ กลับไม่ทำอะไร และไม่มีแม้แต่เจตนาจะแก้ไขให้ดีขึ้น

มันช่างไปเสียดแทงหัวใจท่านเสียเหลือเกินใช่ไหมครับ?