ศาลฎีกาพิพากษา อนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ส.ส.เพื่อไทย พ้นจากหน้าที่ ปมเรียกรับเงิน

ศาลฎีกาพิพากษา อนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ส.ส.เพื่อไทย ฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ให้พ้นจากหน้าที่ กรณีเรียกรับเงิน 5 ล้านบาท แลกกับการผ่านงบประมาณของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และกรมทรัพยากรน้ำ

เมื่อวันที่ 6 มกราคม ที่ห้องพิจารณา 1 ศาลฎีกา นัดฟังคำพิพากษา คดีหมายเลขดำที่ คมจ.4/2565 ที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ร้องต่อศาลว่า นายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย ฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง จากกรณีการเรียกรับเงินจำนวน 5 ล้านบาท จากนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เพื่อแลกกับการผ่านงบประมาณ

ซึ่ง ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดและยื่นคำร้องขอให้ศาลฎีกามีคำพิพากษาหรือคำสั่งว่า นายอนุรักษ์ ผู้คัดค้านฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง และขอให้หยุดปฏิบัติหน้าที่นับแต่วันที่ศาลฎีการับคำร้อง จนกว่าจะมีคำพิพากษาให้พ้นจากตำแหน่งนับแต่วันหยุดปฏิบัติหน้าที่ และเพิกถอนสิทธิสมัครรับเลือกตั้งและสิทธิเลือกตั้งไม่เกิน 10 ปี ตามรัฐธรรมนูญ 2560 มาตรา 235 พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต 2561 มาตรา 87 และมาตรฐานทางจริยธรรมของตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ และผู้ดำรงตำแหน่งในองค์กรอิสระ รวมทั้งผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน และหัวหน้าหน่วยงานธุรการของศาลรัฐธรรมนูญและองค์กรอิสระ 2561 ข้อ 7, 8, 9 และ 27

โดยหลังจากศาลฎีกามีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณา และสั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษา

สำหรับกรณีดังกล่าวเกิดขึ้นหลังจากนายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล กล่าวในที่ประชุมอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ที่มีการประชุมพิจารณางบประมาณแผนบูรณาการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ ในส่วนของกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และกรมทรัพยากรน้ำ ว่ามีอนุกรรมาธิการบางคนโทรศัพท์เรียกเงิน 5 ล้านบาท แลกกับการผ่านงบประมาณ

โดย ป.ป.ช.ตั้งอนุกรรมการไต่สวน ซึ่งนายศักดิ์ดาให้ข้อมูลว่า นายอนุรักษ์ได้เรียกรับเงินทางโทรศัพท์ จากการไต่สวนและการเช็กข้อมูลจากโทรศัพท์ ช่วงระยะเวลาที่มีการโทร จึงเชื่อได้ว่า นายอนุรักษ์ได้มีการเรียกรับเงินจากนายศักดิ์ดาจริง

นายอนุรักษ์เดินทางมาศาลพร้อมครอบครัวมาให้กำลังใจ โดยปฏิเสธที่จะแสดงความเห็นใดๆ ขอให้รอฟังคำตัดสินของศาลก่อน

ศาลฎีกามีคำพิพากษา ว่านายอนุรักษ์ ฝ่าฝืน ไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง โดยให้พ้นจาก ตำแหน่ง ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย นับตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2564 ซึ่งเป็นวันที่ศาลฎีกามีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ให้เพิกถอนสิทธิ์สมัครรับเลือกตั้งตลอดไป และไม่มีสิทธิ์ดำรงตำแหน่งทางการเมืองใดๆ และเพิกถอนสิทธิ์เลือกตั้งเป็นเวลา 10 ปี นับตั้งแต่วันที่ศาลมีคำพิพากษาและแจ้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับทราบต่อไป

จากคำวินิจฉัยของศาลเห็นว่า นายอนุรักษ์ ในฐานะรองประธานคณะอนุกรรมาธิการแผนงานบูรณาการ 2 มีพฤติกรรมเรียกรับผลประโยชน์จริง โดยมีหลักฐานและพยานบุคคลยืนว่ามีการติดต่อ นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล และนายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ หลายครั้ง เพื่อเรียกเงินหรือผลประโยชน์จากโครงการในการจัดทำคำของบประมาณ และมีการใช้คำพูดข่มขู่ อีกทั้งศาลเห็นว่านายอนุรักษ์ไม่มีหน้าที่ในการขอเอกสาร หรือการจัดทำประมาณจากหน่วยงานโดยตรง ซึ่งเป็นการใช้อำนาจหน้าที่ในการแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ

สำหรับนายศักดิ์ดา เป็นข่าวฮือฮา เมื่อพรรคเพื่อไทยเปิดตัว ชิงเก้าอี้ส.ส.กาญจนบุรี เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.65 หลังจากนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ ประธาน ส.ส.พรรคเพื่อไทย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช กลุ่มงานบริหารพื้นที่ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้ง ส.ส. พรรคเพื่อไทย แถลงเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย ภาคเหนือตอนล่างและภาคกลาง 57 คน

โดยพรรคเพื่อไทยประกาศรายชื่อว่าที่ผู้สมัครของจ.กาญจนบุรี เพิ่้มอีก 2 คน ประกอบด้วย 1.นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล (ทส) เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 4 และ 2.นายพนม โพธิ์แก้ว หรือสจ.ไก่ สมาชิกสภา อบจ.กาญจนบุรี เขต 1 อ.ไทรโยค เป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 5

สำหรับการเปิดตัวว่าที่ผู้สมัครทั้ง 2 ของพรรคเพื่อไทยครั้งนี้ สร้างความฮือฮาให้ชาว จ.กาญจนบุรี เป็นอย่างมาก เนื่องจากที่ผ่านมานายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ และนายพนม โพธิ์แก้ว ไม่มีการเคลื่อนไหวทางการเมืองระดับชาติให้เห็นมาก่อน

ทั้งนี้ ย้อนกลับไปในปี 2564 นายศักดิ์ดาเคยออกมาแฉว่า มีอนุกรรมาธิการแผนบูรณาการ 2 ในคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ที่มี แนน บุณย์ธิดา สมชัย ส.ส.อุบลราชธานี พรรคประชาธิปัตย์ เป็นประธาน โทรมาเรียกเงิน 5 ล้านบาท เพื่อแลกกับให้ผ่านงบฯของกรมทรัพยากรน้ำ จนเป็นเรื่องฮือฮา กระทั่งเป็นคดีความ ศาลฎีกา รับคำร้อง ป.ป.ช.ชี้มูลความผิด ส.ส.เพื่อไทย รายหนึ่ง ในคดีฝ่าฝืนจริยธรรม

นอกจากนี้ ในการพิจารณางบประมาณร่ายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 นายศักดิ์ดา ยังฟ้องหมิ่นประมาท นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย ที่จังหวัดปัตตานี ว่าให้ข่าวเท็จพาดพิงถึงนายศักดิ์ดา ซึ่งมาจากบรรยากาศการประชุมปรับลดงบประมาณของกรมทรัพยากรน้ำ ทำให้ได้รับความเสียหายรุนแรง ด้าน นายจิรายุ ก็ฟ้องกลับ นายศักดิ์ดาเช่นกัน

นายศักดิ์ดา วิเชียรศิลป์ อดีตอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล ปัจจุบันเป็นว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.เพื่อไทย