เผยแพร่ |
---|
“ก้าวไกล” จี้ ถามความชัดเจนเหตุ “เรือหลวงสุโขทัยอัปปาง” ซัด “บิ๊กตู่” เป็นนายกฯ มา 8 ปี บริหารหน่วยงานให้ดียังไม่ได้ ด้าน “ยุทธพงศ์” ฉะกรมอุตุฯ ต้องรับผิดชอบ ฐานไม่พยากรณ์อากาศเตือนมีคลื่นแรง
เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 22 ธันวาคม ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานการประชุม ภายหลังเปิดให้สมาชิกหารือปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนในพื้นที่แล้ว เข้าสู่วาระกระทู้ถามสดด้วยวาจา ของนายณัฐชา บุญไชยอินสวัสดิ์ ส.ส.กทม. พรรคก้าวไกล (ก.ก.) ถามพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ถึงกรณีเรือหลวงสุโขทัยอับปางกลางทะเล ซึ่งยังไม่ทราบข้อมูลที่แน่ชัดว่าเกิดจากเหตุใด จึงอยากขอให้พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ที่มาตอบแทนนายกรัฐมนตรีได้อธิบายไทม์ไลน์เหตุการณ์ตั้งแต่เริ่มต้น เวลาที่น้ำเข้าเรือและเรือเกิดเหตุ ท่านได้รับการแจ้งเหตุเวลาใด เรือที่เข้าไปช่วยลำแรกคือเรือหลวงกระบุรี ไปในช่วงเวลาใด และช่วงเวลาที่เรือหลวงกระบุรี เข้าไปช่วยนั้น พบเห็นจำนวนกำลังพลเท่าไหร่ และเรือยังไม่จมสู่ใต้พื้นท้องทะเลใช่หรือไม่ อุปกรณ์ของเรือหลวงกระบุรี มีอะไรบ้าง มีชูชีพ ห่วงยา เรือยาง เท่าไหร่และอุปกรณ์อื่นๆ ที่จะช่วยกำลังพลให้รอดชีวิตมีอะไรบ้าง และได้ขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานใดบ้าง ได้รับการตอบรับจากหน่วยงานใดบ้างว่าจะเข้าช่วยเหลือ และเรือหลวงสุโขทัย อยู่ในสภาพพร้อมใช้งานหรือไม่ มีประวิติการซ่อมบำรุง ใช้งบประมาณในการซ่อมบำรุงมากน้อยแค่ไหน และการเข้าซ่อมบำรุงครั้งล่าสุดเมื่อไหร่
นายณัฐชา กล่าวต่อว่า เรื่องเสื้อชูชีพ กองทัพเรือจำนนต่อหลักฐานแล้วจากกำลังพลที่รอดชีวิต ที่ต้องปล่อยศพเพื่อน และลอยคอกับเพื่อนที่ไม่มีชูชีพ ท่านต้องตรวสอบและตอบสังคมให้ชัดว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร ที่ท่านตอบมาว่ามีงบประมาณการซ่อม ถ้าเรือพร้อมใช้งานจริงแต่วันนี้เกิดเหตุขึ้นแล้ว นอกจากนี้ ตนอยากรู้ว่าภารกิจใดที่จำเป็นต้องออกเรือไปในช่วงเวลามรสุม ใครเป็นคนออกหนังสือในการสั่งการภารกิจต่างๆ ได้รับข้อมูลการแจ้งเตือนก่อนหรือไม่ และเหตุใดยังดื้อดึงนำกำลังพลไปฝ่าคลื่นลมแรง กำลังพลเป็นทหารที่ถูกบังคับเกณฑ์ทหารมาหรือไม่ และว่ายน้ำไม่เป็นหรือไม่ ได้รับการฝึกฝนอบรมเพื่อเผชิญเหตุหรือไม่ และมีอุปกรณ์เพียงพอหรือไม่
ตนสงสัยว่า การออกลาดตะเวนทั้งที่ชูชีพ และแพยางมีไม่พอให้กำลังพลบนเรือ จะไปช่วยเรืออื่นที่อับปางอย่างไร เป็นสภาพที่ยังช่วยตัวเองไม่ได้ สุดท้ายแล้วใครรับผิดชอบกับการสูญเสียกำลังพล ทรัพยากร ขวัญกำลังใจของกำลังพล และครอบครัว
“รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นนายกรัฐมนตรี 8 ปี เต็ม มีอำนาจล้นฟ้า แต่บริหารราชการในหน่วยงานที่ท่านเกิดและเติบโตให้ดียังไม่ได้เลย ท่านจะไปบริหารประเทศให้ดีขึ้น อีก 2 ปีที่เหลืออยู่ได้อย่างไร ทำมา 8 ปี แล้วบ้านท่านเองยังมีปัญหา ส่วนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าภายในกองทัพ จึงถึงเวลาที่ต้องปฏิรปกองทัพแล้วหรือยัง” นายณัฐชา กล่าว
ด้านพล.อ.ชัยชาญ ชี้แจงว่า เรือหลวงสุโขทัยอัปปางลง มีผลทำให้กำลังพล และกองทัพเรือได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต ในการนี้พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม รับกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยที่บาดเจ็บ และเสียชีวิตไว้ในในพระบรมราชานุเคราะห์ และสมเด็จพระเจ้าน้องนางเธอ เจ้าฟ้าจุฬาภรณวลัยลักษณ์ อัครราชกุมารี กรมพระศรีสวางควัฒน วรขัตติยราชนา พระราชทานยาและเวชภัณฑ์ที่จำเป็นให้กับกำลังพลประจำเรือผู้ประสบภัยทุกนาย ถือว่าเป็นพระมหากรุณาธิคุณต่อกำลังพล และครอบครัวอย่างหาที่สุดมิได้ ส่วนนายกรัฐมนตรีแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อกำลังพลของกองทัพเรือที่ได้ทุ่มเทเสียสละ โดยเฉพาะครอบครัวกำลังพลที่เสียชีวิต ซึ่งยอดล่าสุดคือ 6 ราย ในช่วงบ่ายวันเดียวกันนี้จะมีพิธีรับศพไปบำเพ็ญกุศลในพระบรมราชานุเคราะห์
พล.อ.ชัยชาญ ชี้แจงต่อว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นในเวลา 18.40 น. วันที่ 18 ธันวาคม โดยศูนย์อำนวยการกองทัพเรือได้รับรายงาน และได้รายงานถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ซึ่งได้สั่งการให้กองทัพเรือได้เข้าแก้ไขสถานการณ์ เพื่อควบคุมเรือรบ และดูแลความปลอดภัยของกองทัพเรือทุกนาย ส่วนสาเหตุหลักทางกองทัพเรือได้รายงานว่าวันนั้นมีสภาพอากาศคลื่นลมแรง และมีน้ำเข้ามาในตัวเรือบางส่วนส่งผลไปถึงเครื่องจักรใหญ่ทำให้หยุดทำงาน จนไม่สามารถควบคุมเรือได้ และน้ำเข้ามาตัวเรืออย่างรวดเร็ว
เวลา 18.40 น. เรือเอียงอยู่ 60 องศา จึงได้สั่งการให้เข้าไปช่วยเหลือ ด้วยสภาพคลื่นลมในช่วงนั้น ทำให้เรือกระบุรีถึงเรือรบหลวงสุโขทัยประมาณเวลา 20.40 น. ส่วนอุปกรณ์ช่วยชีวิต โดยปกติจะมีอัตราประจำเรือ ส่วนหนึ่งเป็นอุปกรณ์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล ชูชีพส่วนบุคคล แพชูชีพ และชูชีพเป็นวง แต่แพชูชีพปล่อยไม่ได้เพราะคลื่นทะเลแรง แม้แต่เฮลิคอปเตอร์ที่นำไปช่วยก็ทำได้ยาก เพราะเรือและเสากระโดงโคลงเคลง
ส่วนการตั้งข้อสังเกตว่าภายในเรือหลวงสุโขทัยมีเสื้อชูชีพครบหรือไม่ ได้สั่งให้กอทัพเรือไปตรวจสอบให้กระจ่างและชี้แจงต่อสังคมแล้ว
การซ่อมบำรุงเรือหลวงสุโขทัย ได้ซ่อมบำรุงใหญ่เมื่อ ปี 2561-2563 และรับกลับมาปี 2564 งบประมาณซ่อมบำรุงที่กองทัพเรือได้รับ โดยเฉพาะกับการซ่อมบำรุงเรือ เฉลี่ยปีละ 1,300 ล้านบาท สำหรับปี 2566 ได้รับจัดสรรงบประมาณ 1,800 ล้านบาท ทั้งนี้ อายุการใช้งานเรือของกองทัพเรือเฉลี่ยส่วนใหญ่เกิน 30 ปีขึ้นไป ส่วนอายุเรือรบหลักๆอยู่ที่ 40 ปี ฉะนั้น สาเหตุจริงๆ ที่ทำให้เรืออับปางต้องตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อน
พล.อ.ชัยชาญ กล่าวว่า เรือกระบุรีได้เตรียมเครื่องมือแพยาง ซึ่งมีอยู่ 8 แพ และเรือเล็ก แต่ด้วยสภาพคลื่นลมทำให้ไม่สามารถส่งลงไปได้ ในวันที่ 18 ธันวาคมเรือรบหลวงสุโขทัยปฏิบัติภารกิจลาดตะเวน ในสภาพอากาศที่เป็นคลื่นลมแรง ก่อนจะออกภารกิจก็จะประเมินสถานการณ์จากข้อมูลของกรมอุตุฯ นอกจากนี้ เรายังได้ฝึกซ้อมตลอดเวลา และก่อนออกเรือจะชี้แจงกำลังพลถึงการปฏิบัติงานบนเรือ แต่กรณีกำลังพลที่ร่วมเดินทางไปชุมพร ต้องให้กองทัพเรือเข้าไปสอบข้อเท็จจริงว่ากำลังพลเหล่านั้นได้เข้าใจถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น และปฏิบัติตัวอย่างไร เรื่องการอยู่รอดในภาวะฉุกเฉินมีการฝึกตามวงรอบอยู่แล้ว
พล.อ.ชัยชาญ กล่าวต่อว่า การช่วยเหลือผู้ประสบภัยของเรือหลวง หรือของกองทัพเรือ กรณีที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นในทะเล และกำลังของกองทัพเรือเข้าไปช่วยเหลือ และในแต่ละเรือที่เข้าไปช่วยเหลือนั้น อุปกรณ์ที่จะช่วยเหลือมีทั้งเรือเล็ก ชูชีพ และมีชูชีพบนเรือ ซึ่งต้องยอมรับว่าชูชีพบนเรือมีจำนวนหนึ่งไว้สำหรับช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางทะเล
อย่างไรก็ตามเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 18 ธันวาคมที่ผ่านมานั้น เราจะต้องไปสอบสวนข้อเท็จจริงว่าอุปกรณ์ต่างๆ ได้ถูกใช้ทั้งหมดครบถ้วนหรือไม่อย่างไร แพชูชีพ ที่ติดอยู่กับเรือหลวงสุโขทัย ปล่อยลงไปในทะเลได้หรือไม่ เรือเล็กลงไปได้หรือไม่ ตรงนี้กอทัพเรือจำดำเนินการให้กระจ่าง และได้เน้นย้ำไปยังผบ.ทร.ว่าการสอบสวนจะต้องให้ประชาชนได้เข้าใจ และรับทราบข้อเท็จจริงด้วย และกำลังพลทั้งหมด 70 กว่านายที่จะต้องให้ปากคำนั้น ทุกคนอยู่ในเหตุการณ์จริง ดังนั้นการจะทำให้เหตุการณ์นั้นไม่จริงคงไม่เป็นได้อยาก
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ในเรื่องของการปฏิรูปกองทัพนั้น กองทัพละรึกเสมอว่าต้อองปฏิณรูปตัวเองเพื่อดูแลประชาชน โดยเฉพาะการปฏิบัติภารกิจ การป้องกันประเทศหรือการรักษาความมั่นคง รวมถึงการพัฒนประเทศ ซึ่งการทัพมีการปฏิรูปมาโดยต่อเนื่อง มีแผนระยะเวลา 5 ปี 10 ปี ทั้งเรื่องกำลังพล การปฏิบติทางยุทธการ การส่งกำลังบำรุง เราไม่ได้อยู่เฉยในการทำให้กองทัพมีประสิทธิภาพ และให้สอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปและทำให้กองทัพเป้นกองทัพที่มีประสิทธิภาพ เป็นที่เชื่อมั่นของประชาชน ที่จะดูแลสิทธิอธิปไตยของประเทศตามภารกิจที่ได้รับมอบหมายให้ดีที่สุด
จากนั้นเป็นกระทู้ถามสดของนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ถามในเรื่องเดียวกันว่า มีข้อสังสัยว่าประเทศไทยมีกรมอุตุนิยมวิทยา ซึ่งมีหน้าที่ในการพยากรณ์อากาศ ร้อน หนาว คลื่นลมแรง เรือห้ามออกจากฝั่ง แต่เรื่องหลวงสุโขทัย ออกเดินทางจากฐานทัพเรือสัตหีบ 1 วัน
ก่อนเกิดเหตุการณ์ และวันที่เกิดเหตุการณ์ 18 ธันวาคม ที่มีคลื่นลมสูงถึงสเต็บ 6 ทั้งคลื่นทั้งพายุ ก็ต้องถามว่าทางกองทัพเรือ ปล่อยให้เรือรบหลวงสุโขทัย ออกมาลาดตระเวรทำไม เพราะยังไม่มีความจำเป็นที่ขณะนี้นั้นมีอริราชศัตรู หรือมีเรือรบ กำลังของฝ่ายฆ่าศึก ที่มารุกล้ำอธิปไตยของเราจนจำเป็นต้องส่งเรื่อรบเข้ามาในสถานการณ์ที่มีพายุ และกรมอุตุฯ ซึ่งมีหน้าที่ในการพยากรณ์อากาศไม่ได้เตือนอะไรเลยว่ามีพายุ มีคลื่นลมขนาดใหญ่ และไม่มีการเฉพาะเรือหลวงที่ล่ม ยังมีเรือพาณิชย์และเรือประมงอีก 2-3 ลำ ที่ล่มในเหตุการณ์นี้ จึงอยากถามนายกรัฐมนตรีว่าไปตั้งอธิบดีกรมอุตุฯ ซึ่งไม่มีความรู้ด้านอุตุฯ จบแค่บริหารธุรกิจ ไม่มีการพยากรอากาศหรือเตือนเลย และจะต้องรับผิดชอบอย่างไร และให้ไปเช็คบิลกรมอุตุฯด้วย เพราะตนยังรู้เรื่องกรมอุตุฯมากกว่าเลย
นายยุทธพงศ์กล่าวต่อว่า สาเหตุที่เครื่องยนต์ดับ มาจากเครื่องยนต์ที่ใช้ปั่นเครื่องกำเนิดไฟฟ้า เอ็มทียู ซึ่งเป็นเรื่องรุ่นเดียวกับที่จะใส่ในเรือดำน้ำลำแรก ที่กำลังต่ออยู่ในประเทศจีน จึงอยากถามว่าขนาดเรือที่อยู่บนน้ำยังเกิดควมสูญเสียขนาดนี้ ถ้าใต้น้ำใครจะรับผิดชอบ ท่านยังจะใช้เครื่องยนต์จะติดเรือดำน้ำ ซีเฮชดี ที่รัฐบาลจีนจะเอามาเปลี่ยนแทนเครื่องเอ็มทียู อีกหรือไม่ และตั้งแต่เกิดเหตุ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ยังไม่เคยไปเยี่ยมกำลังพล ไม่เคยไปตรวจดูสถานการณ์เลย อยากถามว่าเพราะเหตุใดนายกฯ ถึงไม่สนใจเรื่องนี้เลย
ด้านพล.อ.ชัยชาญ ชี้แจงว่า เรื่องหลวงสุโขทัย อยู่ในระหว่างปฏิบัติภารกิจราชการในพื้นที่รับผิดชอบ เมื่อมีสถานการณ์ภัยพิบัติทางทะเลเกิดขึ้น ก็เป็นส่วนหนึ่งที่กองทัพเรือ ก็ต้องใช้ทรัพยากรของกองทัพเรือทที่มีอยู่ไปดูแลช่วยเหลือประชาชนที่อาจจะประสบภัยพิบัติทางทะเล เมื่อเกิดเหตุ ทางกองทัพเรือก็จะส่งเรือหลวงที่มีประสิทธิภาพของกองทัพเรือเข้าไปช่วยเหลือประชาชน
ครั้งนี้เนื่องจากเป็นสถานการณ์อีกลักษณะหนึ่งที่ทำให้เรือหลวงสุโขทัยได้ประสบกับภาวะคลื่นลมแรง และก่อนออกปฏิบัติการกองทัพเรือก็ต้องศึกษาสภาพอากาศ มีการวางแผน ประเมินสถานการณ์ว่าในสภาวะแบบนี้กองทัพเรือสามารถปฏิบัติภารกิจได้หรือไม่ แต่เมื่อประเมินแล้วด้วยประสิทธิภาพขีดความสามารถของเรือก็สามารถที่จะปฏิบัติภารกิจได้ เมื่อพบคลื่นลมแรงเรือก็พยายามที่จะหลบลมแรง แต่ด้วยสภาพอากาศจึงประสบปัญหาก่อน เรือจึงไม่ได้เข้ามาในพื้นที่บางสะพาน
พล.อ.ชัยชาญ ชี้แจงว่า เรือดำน้ำและเครื่องบนเอ็มทียู เป็นเครื่องที่ผลิตกระแสไฟฟ้า ถึงปัจจุบันนี้ทางกองทัพเรือยังไม่ได้ตัดสินใจว่าจะเป็นเอ็มทียูของจีน ซึ่งทางกองทัพเรือได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษารายละเอียดให้ชัดเจน ถึงประสิทธิภาพของเครื่อง และวางแผนไปดูถึงโรงงานผลิต ขีดความสามารถ เพื่อมาวิเคราะห์อีกครั้ง โดยจะต้อได้เครืองทีมีประสิทธิภาพสูงสุดมาใช้ในเรือดำน้ำได้ โดยในช่วงเดือนมกราคมหรือเมษายน 2566 จะเดินทางถึงแหล่งผลิต เพื่อดูมาตรฐาน การดำเนินงาน ที่สำคัญเครื่องที่ผลิดโดยประเทศจีนอาจจะต้องใช้ในยุทโธปกรณ์ของจีนด้วย ที่สำคัญกองทัพเรือยึดถือประโยชน์ ความปลอดภัยของกำลังพลสามารถปฏิบัติภารกิจได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยืนยันว่าจะต้องใช้งบประมาณให้เกิดประโยชน์คุ้มค่ามากที่สุด
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ชี้แจงต่อว่า การไปเยี่ยมกำลังพลและติดตามสถานการณ์นั้น ตั้งแต่วันเกิดเหตุก็ได้รายงานไปถึงนายกรัฐมนตรี และท่านได้ติดตามและสั่งการตลอดให้ดูแลโดยเฉพาะเรื่องชีวิตและความปลอดภัยกำลังพลของกองทัพเรือทุกคน โดยมอบหมายให้ตนไปติดตามสถานการณ์และเยี่ยมครอบครัวกำลังพล และช่วยเหลือ นอกจากนั้นนายกรัฐมนตรีได้สั่งการให้ทุกเหล่าทัพเข้าไปดำเนินการ ซึ่งช่วงนี้มีเรือเข้าไปในพื้นที่ 8 ลำ เฮลิคอร์ปเตอร์ อากาศยานของกองทัพอากาศ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สตช.) 13 ลำ รวมทั้งอากาศยานไร้คนขับ จำนวน 1 ระบบ มีการแบ่งพื้นที่ให้ละเอียดขึ้นเพื่อค้นหากำลังพลทั้ง 23 คน ให้พบโดยเร็ว ซึ่งนายกรัฐมนตรีก็ติดตามสถานการณ์และสั่งการมาโดยต่อเนื่อ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
– มองเรือรบล่มเพราะคลื่นลมแรง-ความสูญเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ อย่างเดียวจริงหรือ?
– เปิดไทม์ไลน์ เรือหลวงสุโขทัยล่ม จมทะเลอ่าวไทย ปิดตำนาน หนึ่งในเขี้ยวเล็บทร.ไทย
– ผบ.กองเรือยุทธการ ชี้ทะเลคลั่งสาเหตุหลัก ทำเรือสุโขทัยล่ม ยันเสื้อชูชีพ-ห่วงยางมีครบ
– ทร.ยังเดินหน้าค้นหากำลังพลอีก 31 นาย จากเรือล่ม ยัน ขณะนี้ยังไม่พบผู้เสียชีวิต
– ทร. ยัน กำลังพล เรือหลวงสุโขทัยล่ม ดับแล้ว 4 นาย