เรียกว่าเป็นข่าวที่ช็อกโลกอีกครั้ง และกระทบจิตใจคนหลายๆคน ที่ไม่คาดคิดว่าจะเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นในปี คศ. 2022 เมื่อกระทรวงอุดมศึกษาของรัฐบาลทาลิบันที่ปกครองอัฟกานิสถาน หลังสหรัฐถอนกำลังทหารทั้งหมดออกไป ประกาศเมื่อวันที่ 20 ธันวาคม ระงับการศึกษาในมหาวิทยาลัยของนักศึกษาหญิง จนกว่าจะมีการประกาศเพิ่มเติม ทำให้ถูกประณามจากสหรัฐ อังกฤษ และสหประชาชาติทันที

รายงานข่าวระบุว่า มีจดหมายฉบับหนึ่งที่แนะนำให้มหาวิทยาลัยของรัฐและเอกชนในอัฟกานิสถาน สั่งให้ระงับการเข้าเรียนของนักศึกษาหญิงทันที ซึ่งเป็นไปตามมติของคณะรัฐมนตรีอัฟกานิสถาน ที่ได้รับการยืนยันในเวลาต่อมาโดยโฆษกกระทรวงศึกษาธิการว่าเป็นจดหมายฉบับจริง

คำประกาศของทาลิบันเรียกเสียงประณามอย่างหนักจากทั่วโลก และยังมีขึ้นขณะที่คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (ยูเอ็นเอสซี) ได้หารือกันที่นครนิวยอร์ก เกี่ยวกับเรื่องอัฟกานิสถาน ซึ่งรัฐบาลของชาติต่างๆ ซึ่งรวมถึงสหรัฐ ต่างระบุตรงกันว่า จำเป็นที่จะต้องมีการเปลี่ยนแปลงนโยบายเกี่ยวกับการศึกษาของสตรี ก่อนที่จะมีการพิจารณายอมรับสถานะของกลุ่มทาลิบันอย่างเป็นทางการ จากที่ขณะนี้ทาลิบันตกอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรอย่างหนัก

นายโรเบิร์ต วูด อัครราชทูตสหรัฐประจำยูเอ็น กล่าวในที่ประชุมยูเอ็นเอสซีว่า กลุ่มทาลิบันไม่สามารถคาดหวังที่จะเป็นสมาชิกที่ชอบธรรมตามกฎหมายของประชาคมระหว่างประเทศได้ เว้นแต่ว่าพวกเขาจะเคารพสิทธิของชาวอัฟกันทุกคน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเคารพสิทธิมนุษยชนและเสรีภาพขั้นพื้นฐานของเด็กและสตรีผู้หญิง

บาร์บารา วูดวาร์ด เอกอัครราชทูตสหราชอาณาจักรประจำยูเอ็น กล่าวว่า การระงับการศึกษาของสตรีในอัฟกานิสถานเป็นการลดทอนสิทธิสตรีอย่างร้ายแรงอีกครั้งหนึ่ง และสร้างความผิดหวังอย่างยิ่งให้กับนักเรียนและนักศึกษาหญิงทุกคน เป็นอีกก้าวหนึ่งของอัฟกานิสถานที่ถอยห่างออกจากการทำให้ประเทศสามารถพึ่งพาตนเองและเจริญรุ่งเรืองได้

นายสเตฟาน ดูจาร์ริก โฆษกเลขาธิการยูเอ็น กล่าวว่า การดำเนินการของทาลิบันเป็นอีกความเคลื่อนไหวที่น่าหนักใจอย่างยิ่ง และเป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการว่าอัฟกานิสถานจะพัฒนา และรับมือกับความท้าทายต่างๆ ทั้งหมดได้อย่างไรหากปราศจากการมีส่วนร่วมของสตรีและการศึกษาของสตรี

โรซา โอตุนบาเยวา ทูตพิเศษของยูเอ็นประจำอัฟกานิสถาน แถลงว่า การตัดสินใจครั้งนี้สร้างความเสียหายอย่างร้ายแรง ก่อนหน้านี้การปิดโรงเรียนมัธยมได้บ่อนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาบทาลิบันกับประชาคมระหว่างประเทศไปแล้ว และมันก็ไม่ใช่เรื่องที่ได้รับความนิยมในหมู่ชาวอัฟกันเอง

“ตราบใดที่ผู้หญิงยังคงถูกกีดกันไม่ให้เข้าโรงเรียน และทางการอัฟกานิสถานยังคงเพิกเฉยต่อข้อกังวลอื่นๆ ของประชาคมระหว่างประเทศ เราก็ยังคงต้องเผชิญกับทางตัน” โอตุนบาเยวากล่าว

ในเดือนมีนาคม กลุ่มทาลิบันถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากรัฐบาลต่างชาติหลายประเทศรวมถึงจากชาวอัฟกานิสถานบางส่วน ที่ได้ประกาศให้มีการปิดโรงเรียนมัธยมหญิงล้วน สวนทางกับที่ประกาศว่าจะไม่กีดกันการศึกษาของสตรีก่อนหน้านี้

การตัดสินใจระงับการเรียนของนักศึกษาหญิงยังมีขึ้นขณะที่นักศึกษามหาวิทยาลัยจำนวนมากกำลังสอบปลายภาค โดยมารดาของนักศึกษาหญิงรายหนึ่งบอกว่า ลูกสาวของเธอน้ำตาไหลเมื่อทราบเรื่อง เพราะกลัวว่าเธอจะไม่สามารถเรียนต่อในด้านการแพทย์ที่มหาวิทยาลัยในกรุงคาบูลได้อีกต่อไป เธอบอกว่ารู้สึกเจ็บปวดแบบที่ไม่อาจอธิบายได้ในฐานะแม่ซึ่งเป็นห่วงอนาคตของลูกๆ