เปิดไทม์ไลน์ เรือหลวงสุโขทัยล่ม จมทะเลอ่าวไทย ปิดตำนาน หนึ่งในเขี้ยวเล็บทร.ไทย

ไทม์ไลน์ เรือหลวงสุโขทัยล่ม เร่งช่วยเหลือค้นหากำลังพล โดยกำลังพลชุดแรก43คน เข้าถึงท่าเทียบเรือน้ำลึกบางสะพานแล้ว

สำหรับไทม์ไลน์เหตุเรือ เรือหลวงสุโขทัยล่มกลางทะเลอ่าวไทย สุโขทัย

วันที่ 18 ธ.ค.2565

17.16 น. น้ำทะเลเข้ามายังเรือหลวงสุโขทัย หลังมีคลื่นลมแรงมาก
18.17 น. เกิดเหตุเครื่องยนต์ดับ เครื่องไฟฟ้าดับ ส่งผลให้ระบบการสื่อสารล่ม
19.37 น. เรือหลวงกระบุรี ออกเดินทางจากบางสะพานไปช่วยเรือหลวงสุโขทัย
19.56 น. เรือหลวงสุโขทัยเกิดการเอียง 45 องศา จากน้ำทะลักเข้าเรือ
20.30 น. เรือหลวงอ่างทอง ได้รับคำสั่ง ออกเดินทางจากสัตหีบ จ.ชลบุรี ไปช่วย เรือหลวงสุโขทัย
20.52 น. เรือหลวงกระบุรี เดินทางถึง จุดเกิดเหตุ เรือหลวงสุโขทัย
21.03 น. สถานการณ์ไม่ดีขึ้น เรือหลวงสุโขทัย ตัวเรือเอียง 80 องศา
23.08 น. เรือหลวงสุโขทัย เริ่มปลดแพชูชีพ
23.20 น.  เรือหลวงสุโขทัย วิกฤตเริ่มจมจากทางท้ายเรือ ถึงป้อมปืนหัว
23.46 น. เรือหลวงสุโขทัยลงสู่ท้องทะเล
23.50 น. เรือทัก จากบางสะพาน 2 ลำ เดินทางถึง เรือหลวงสุโขทัย ช่วยเก็บคนตกน้ำได้ 30 คน

วันที่19 ธ.ค.2565

00.38 น. เก็บคนตกน้ำได้รวมแล้ว 45 คน
01.06 น.  ฮ.ซีฮว์อค ถึงจุดเกิดเหตุ ปล่อยแพชูชีพ 8 แพ
01.12 น. เก็บคนตกน้ำได้ เพิ่ม รวมแล้ว 49 คน
02.30 น. เรือหลวงกระบุรี นำคนเจ็บสาหัส ส่งกลับสายแพทย์ที่บางสะพาน
03.14 น. เก็บคนตกน้ำได้รวมแล้ว 73 คน
03.50 น. เรือหลวงกระบุรีถึงบางสะพาน
04.32 น. ลำเลียงผู้ป่วย 3 นาย ขึ้นจากเรือกระบุรี
06.30 น. เรือหลวงอ่างทอง ถึงที่เกิดเหตุ เครื่องบินดอร์เนีย เข้าพื้นที่ บิน ลาดตระเวนค้นหาผู้ประสบภัย

ทั้งนี้  พล.ร.ท.พิชัย ล้อชูสกุล ผู้บัญชาการทัพเรือภาค1 มาบัญชาการเหตุการณ์ รวมทั้งนาวาเอกเรือง ฤทธิ์ แสงแก้ว รอง.ผอ.ศรชล จ.ประจวบฯ นายอำเภอบางสะพาน ตลอดจนหน่วยงานเกี่ยวข้อง ทันทีที่เรือหลวงสุโขทัย เข้าเที่ยบท่าเรือน้ำลึก บางสะพาน เจ้าหน้าที่ได้ทำการเคลื่อนย้าย กำลังพลทั้งหมดลงจากเรือหลวงกระบุรี ขึ้นรถพยาบาลไปที่โรงพยาบาลบางสะพาน และศูนย์พักพิงอุ่นไอรัก บางสะพานที่เตรียมไว้แล้ว

เบื้องต้นมีผู้ได้รับบาดเจ็บที่เป็นสีแดง 4 ราย ทั้งขาหัก และเสียเลือดมาก และบาดเจ็บเล็กน้อยสีเหลือง โดยในชุดแรกมีกำลังพลบาดเจ็บรวม 43 ราย นำส่งโรงพยาบาลต่างๆ ในพื้นที่เพื่อทำการตรวจรักษาต่อไป

ผบ.ทร.เรียกประชุมด่วน 

พล.ร.อ.เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) เรียก นายทหารระดับสูงประชุมด่วนในเช้านี้ พร้อม Video Conference กับเจ้าหน้าที่ทหารในจุดเกิดเหตุ เพื่อประเมินสถานการณ์และหาแนวทางค้นหากำลังพลกว่า 30 นาย เพื่อเร่งให้การช่วยเหลือ ซึ่งขณะยี้ยังมีอุปสรรค ในเรื่องของคลื่นลมแรงในอ่าวไทย

สั่งเลื่อนกิจกรรม 100 ปี เสด็จเตี่ย

ผู้บัญชาการทหารเรือ (ผบ.ทร.) มีคำสั่งให้เลื่อนการจัดกิจกรรมครบรอบ 100 ปี การสิ้นพระชนม์ของ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ ในวันนี้ (19 ธ.ค.) เพื่อเร่งช่วยเหลือกำลังพลประจำเรือหลวงสุโขทัย ที่ยังอยู่ระหว่างการค้นหา และตรวจสอบสาเหตุเรือจมที่อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อคืน (18 ธ.ค.) ที่ผ่านมา โดยให้เหลือเพียงพิธีตักบาตรพระสงฆ์ หน้ากองบัญชาการฐานทัพเรือสัตหีบ และหน่วยทหารทั่วประเทศตามปกติ

สำหรับกิจกรรมที่เลื่อนออกไปก่อน เช่น พิธีติดตั้งตราสัญลักษณ์ครบรอบวันสิ้นพระชนม์ 100 ปี ,พิธีถวายสักการะพลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พิธีร้องเพลงพระนิพนธ์ฯ (เพลงดาบของชาติ เพลงเดินหน้า เพลงดอกประดู่) และการจัดขบวนเรือยิงสลุตถวายความเคารพ จำนวน 19 นัด

และการแปรอักษรเป็นตัวเลข 100 โดย ร.ล.จักรีนฤเบศร และเรือตรวจการณ์ชายฝั่ง ในทะเลบริเวณหน้าแหลมปู่เจ้า ฐานทัพเรือสัตหีบ ซึ่งเดิมเรือหลวงสุโขทัยจะต้องร่วมในกิจกรรมนี้ด้วย

ทั้งนี้พลเรือเอกพระเจ้าบรมวงศ์เธอพระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ นับเป็น “องค์บิดาของทหารเรือไทย” และกองทัพเรือได้กำหนดให้วันที่ 19 ธ.ค.2565 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันประสูติของพระองค์ เป็นการเริ่มกิจกรรมเทิดพระเกียรติพร้อมกับภาคประชาชนที่รักและศรัทธากรมหลวงชุมพรฯ

ยังไม่รับการยืนยัน กำลังพล เสียชีวิต 3 นาย 

พล.ร.อ. ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ เปิดเผยถึงความคืบหน้ากรณีเรือหลวงสุโขทัย ประสบเหตุน้ำเข้าเรือจนเกิดการเอียง เนื่องจากคลื่นลมแรง ขณะทำการลาดตระเวน อยู่บริเวณแบริ่ง 090 ระยะ 20 ไมล์ จากท่าเรืออำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์

แต่เนื่องจากขณะนั้นบริเวณดังกล่าวมีคลื่นลมแรง ทำให้เรือเอียงจนทำให้มีน้ำทะเลบางส่วนไหลเข้าระบบเครื่องไฟฟ้าผ่านท่อไอเสียข้างเรือ ส่งผลให้เครื่องไฟฟ้าดับส่งผลต่อเครื่องจักรใหญ่หยุดทำงาน ซึ่งผลจากเครื่องจักรใหญ่และเครื่องจักรช่วยหยุดทำงานดังกล่าว เป็นเหตุให้ไม่สามารถควบคุมเรือได้ และส่งผลให้น้ำเข้าภายในตัวเรืออย่างรวดเร็วจนทำให้เรือเอียง

ในเวลาต่อมา กองทัพเรือได้สั่งการให้เรือรบและอากาศยานของกองทัพเรือ ประกอบด้วย
เรือหลวงอ่างทอง เรือหลวงภูมิพลอดุลยเดช เรือหลวงกระบุรี เฮลิคอปเตอร์จำนวน 2 เครื่อง พร้อม ชุดป้องกันความเสียหายและกู้ภัยเรือ เร่งให้การช่วยเหลือเป็นการด่วน นอกจากนี้ได้ประสานหน่วยภายนอกเข้าร่วมให้การช่วยเหลือ

โดย เรือหลวงกระบุรี ได้เดินทางไปถึงจุดเกิดเหตุ เมื่อเวลา 20.40 น. และพยายามเข้าเทียบเรือหลวงสุโขทัย เพื่อส่งเครื่องสูบน้ำเคลื่อนที่และช่วยเหลือกำลังพลจำนวน 106 นาย แต่ไม่สามารถดำเนินการได้ เนื่องจากคลื่นลมยังคงรุนแรง

ต่อมาเรือหลวงสุโขทัยมีอาการเอียงมากขึ้นและได้จมลงเมื่อเวลา 00.12 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกันที่มีเรือลากจูงเอกชนจากท่าเรือบางสะพานจำนวน 2 ลำ และเรือน้ำมัน “STRAITS ENERGY” ได้เดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุ เพื่อให้การสนับสนุนในการช่วยเหลือ ซึ่งเรือหลวงกระบุรี เรือน้ำมัน “STRAITS ENERGY” และเรือลากจูงทั้ง 2 ลำ ได้ดำเนินการช่วยเหลือกำลังพล

และต่อมาเวลา 01.04 น. เฮลิปคอปเตอร์แบบ Seahawks จำนวน 2 ลำ ได้เดินทางมาถึง
พร้อมทั้งทำการปล่อยแพช่วยเหลือลงทะเล จำนวน 8 แพ ทั้งนีเรือต่าง ๆ สามารถให้การช่วยเหลือกำลังพลขึ้นมาจากน้ำได้แล้ว 73 นาย โดยอยู่บนเรือหลวงกระบุรี จำนวน 47 นาย เรือลากจูง จำนวน 4 นาย เรือน้ำมัน “ศรีวิชัย” จำนวน 20 นาย และเรือน้ำมัน “STRAITS ENERGY” จำนวน 2 นาย ยังคงมีกำลังพลจำนวน 33 นายที่ลอยคออยู่ในทะเล ซึ่งเรือทั้งหมดที่อยู่ในพื้นที่กำลังเร่งดำเนินการค้นหาและช่วยเหลือต่อไป

ทั้งนี้ เรือหลวงกระบุรี เรือลากจูง และเรือน้ำมัน “ศรีไชยา” ได้นำกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว 71 นาย เดินทางไปยังท่าเรือบางสะพานเรียบร้อยแล้ว โดยมีกำลังพลจำนวน 11 นาย รักษา ณ โรงพยาบาลบางสะพาน ส่วนกำลังพล จำนวน 40 นาย เดินทางไปยังศูนย์พักพิง สำหรับกำลังพลที่ขึ้นมาจากเรือน้ำมัน “ศรีไชยา” จำนวน 20 นาย ได้เดินทางไปยัง โรงพยาบาลบางสะพาน เพื่อตรวจร่างกายและคัดแยกต่อไป

นอกจากนี้ เมื่อเวลา 07.00 น. เรือหลวงกระบุรีได้ออกเรือเดินทางจากท่าเรือบางสะพานไปยังพื้นที่เกิดเหตุเพื่อสนับสนุนการค้นหาและช่วยเหลือ ร่วมกับเรือหลวงอ่างทอง รวมถึงอากาศยานแบบ Dornier และเฮลิปคอปเตอร์แบบ Seahawks ที่กำลังเร่งดำเนินการค้นหา กำลังพลทั้งหมดและเตรียมการในการกู้เรือหลวงสุโขทัยต่อไป

 

เมื่อถามว่า มีกระแสข่าวกำลังพล เสียชีวิต 3 นาย พล.ร.ท.ปกครอง กล่าวว่า ยังไม่ได้รับการยืนยัน

ทั้งนี้ กองทัพเรือ โดยกองเรือยุทธการได้ตั้ง ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัย ขึ้นมาทำหน้าที่ในการประสานการปฏิบัติ เพื่อเร่งดำเนินการในการให้ความช่วยเหลือกำลังพลและกู้ภัยเรือหลวงสุโขทัย โดยคำนึงถึงความปลอดภัยของกำลังพลเป็นสำคัญ ทั้งนี้ญาติพี่น้องของกำลังพลประจำเรือ สามารถติดสอบถามได้ที่ ศูนย์ประสานงานช่วยเหลือกำลังพลเรือหลวงสุโขทัยหมายเลขโทรศัพท์ 038182435 และ 0840023554 โดยล่าสุดมียอดกำลังพลที่ได้รับการช่วยเหลือแล้ว จำนวน 75 นาย

 

“พล.อ.ประยุทธ์” ห่วงเรือสุโขทัยอับปาง

พล.อ.คงชีพ ตันตระวาณิชย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกระฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ทราบข่าวถึง สถานการณ์เรือหลวงสุโขทัยอับปาง มีลูกเรือกว่า 30 นาย พลัดหาย และอยู่ระหว่างการระดมความช่วยเหลือจากกองทัพเรือ ด้วยอากาศยานและเรืออย่างเต็มความสามารถ

“ขอเป็นกำลังใจให้กับกำลังพลที่พลัดหายทุกนาย พร้อมขอให้กองทัพเรือ ระดมความช่วยเหลือให้ถึงที่สุดอย่างเต็มความสามารถ และหวังว่ากำลังพลทุกนายจะได้รับการช่วยเหลือทั้งหมดและปลอดภัยทุกนาย”

ขณะที่ตึกภักดีบดินทร์ ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ครั้งที่ 3/2565 ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงการช่วยเหลือกำลังพลลูกเรือ จากกรณีเรือหลวงสุโขทัย ประสบอุบัติเหตุคลื่นลมแรง จนมีน้ำเข้าเรือเป็นจำนวนมาก และได้อับปางลงใต้ทะเลในช่วงดึกของวันที่ 18 ธ.ค.ที่ผ่านมาว่า  “กำลังช่วยเหลืออยู่นะ”

เรือที่เขี้ยวเล็บครบครัน 

สำหรับเรือหลวงสุโขทัยลำนี้เป็นเรือลำที่ 2 หลังจากที่เรือลำแรกได้ปลดระวางไปแล้ว เนื่องจากมีการใช้งานมาเป็นระยะเวลายาวนาน โดยเรือหลวงลำนี้ เป็นเรือหมายเลข 442 วางกระดูกงู เมื่อวันที่ 26 มี.ค. 2527 ขึ้นระวางประจำการ 19 ก.พ. 2530 สร้างโดย Tacoma Boat Building Co, สหรัฐอเมริกา มีความยาวตลอดลำ 76.8 เมตร ความกว้าง 9.6 เมตร กินน้ำลึก 4.5 เมตร ความเร็วมัธยัสถ์ 18 นอต ความเร็วสูงสุด 24 นอต ระวางขับน้ำปกติ 840 ตัน ระวางขับน้ำสูงสุด 960 ตัน ระยะปฏิบัติการไกลสุด 3,568 ไมล์ กำลังพลประจำเรือ 87 นาย

ระบบตรวจการณ์

เรดาร์ตรวจการณ์พื้นน้ำ Decca 1226

เรดาร์ตรวจการณ์พื้นน้ำ/อากาศ ZW-06

เรดาร์ตรวจการณ์พื้นน้ำ/อากาศ DA-05

โซนาร์ติดใต้ตัวเรือ STN Atlas DSQS-21C

เรดาร์ควบคุมการยิง WM-25

LIROD-8 optical

ระบบอาวุธ

ปืน 76/62 มม. จำนวน 1 กระบอก

ปืน 40L70 มม. แท่นคู่ 1 กระบอก

ปืน 20 มม. 2 กระบอก

ระบบอาวุธปล่อยนำวิถี พื้น-สู่-พื้น แบบ ฮาร์พูน 2 แท่น (8 ท่อยิง)

ระบบอาวุธปล่อยนำวิถี พื้น-สู่-อากาศ แบบ อัลบราทรอส 1 แท่น (8 ท่อยิง)

ท่อตอร์ปิโด 2 แท่น (6 ท่อยิง)

ระบบขับเคลื่อนและเครื่องจักรช่วย

เครื่องจักรใหญ่ดีเซล MTU 20V1163 TB83 2 เครื่อง

เพลาใบจักร 2 เพลา

ทั้งนี้เรือในชุดเดียวกัน เรือหลวงรัตนโกสินทร์ (ลำที่ 2) เรือหลวงสุโขทัย (ลำที่ 2)

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง
– มองเรือรบล่มเพราะคลื่นลมแรง-ความสูญเสียชีวิตเพราะอุบัติเหตุ อย่างเดียวจริงหรือ?
– เปิดไทม์ไลน์ เรือหลวงสุโขทัยล่ม จมทะเลอ่าวไทย ปิดตำนาน หนึ่งในเขี้ยวเล็บทร.ไทย
– ผบ.กองเรือยุทธการ ชี้ทะเลคลั่งสาเหตุหลัก ทำเรือสุโขทัยล่ม ยันเสื้อชูชีพ-ห่วงยางมีครบ
– ทร.ยังเดินหน้าค้นหากำลังพลอีก 31 นาย จากเรือล่ม ยัน ขณะนี้ยังไม่พบผู้เสียชีวิต
– ทร. ยัน กำลังพล เรือหลวงสุโขทัยล่ม ดับแล้ว 4 นาย
– กลาโหม แจงยิบ ปม“เรือสุโขทัยล่ม” ยัน เรือไม่เก่า-งบฯซ่อมบำรุง 1.3 พันล้าน/ปี