ส.ส.อีสาน เพื่อไทย กดดัน! ‘ศุภชัย โพธิ์สุ’ ลาออก หลังลั่น “ไอ้โง่” บนเวทีปราศรัย เผยดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด

ส.ส.นครพนม สกลนคร อุดรธานี ร่วมกดดัน ‘ศุภชัย โพธิ์สุ’ ลาออก หลังดูหมิ่นชาวสกลนคร อุดรธานี ว่าโง่บนเวทีปราศรัย ลั่นเตรียมดำเนินคดีอย่างถึงที่สุด

พรรคเพื่อไทย นำโดยนายพัฒนา สัพโส ส.ส.สกลนคร นายนิยม เวชากามา ส.ส.สกลนคร นายขจิตร ชัยนิคม ส.ส.อุดรธานี นายเกรียงศักดิ์ ฝ้ายสีงาม ส.ส.อุดรธานี นางอาภรณ์ สาระคำ ส.ส.อุดรธานี นางจุฑาพัฒน์ เมนะสวัสดิ์ ส.ส.อุดรธานี นางเทียบจุฑา ขาวขำ ส.ส.อุดรธานี นางสาวสกุณา สาระคำ ส.ส.สกลนคร นายอภิชาติ ตีรสวัสดิชัย ส.ส.สกลนคร นายอนันต์ ศรีพันธุ์ ส.ส.อุดรธานี พร้อมด้วยนายอดิศร เพียงเกษ กรรมการยุทธศาสตร์การเมือง พรรคเพื่อไทย ร่วมกันแถลงข่าวกรณีที่นายศุภชัย โพธิ์สุ ว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. นครพนม ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 กล่าวปราศรัยในเวทีเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส. นครพนม พรรคภูมิใจไทย 4 เขตที่สนามกีฬาโรงเรียนพนมวิทยาคม อ.เมือง จ.นครพนม เมื่อวันที่ 4 ธ.ค. 2565

โดยในการปราศรัยช่วงหนึ่ง นายศุภชัย กล่าวว่า “สงสาร ส.ส.สกลนคร ผมสงสาร ส.ส. จังหวัดอุดรธานี อภิปรายในสภาฯ ทีไร เรื่องงบประมาณ ก็ด่ารัฐมนตรีคมนาคม ว่าทำไมต้องเอางบประมาณ ไปพัฒนาที่บุรีรัมย์มากมาย ทำไมต้องไปพัฒนาที่ศรีสะเกษมากมาย และสุดท้ายมาลงที่นครพนม นครพนมก็มี ส.ส. ไม่กี่คน ทำไมได้งบประมาณมาเยอะเหลือเกิน ผมเป็นประธานบนบัลลังก์ ผมอยากจะบอกมันว่า ก็นครพนมมี ส.ส. ของพรรคภูมิใจไทยอยู่ที่นี่ไง “ไอ้โง่” มันโง่จริงหรือมันแกล้งโง่ สกลนครอยากได้งบพัฒนาเยอะๆ มึงเลือกฝ่ายรัฐบาลสิ เลือกพรรคภูมิใจไทยทั้ง 6 เขต 7 เขต รับรองสกลนครเจริญทัดเทียมนครพนม อย่างแน่นอนครับ” เป็นต้น

นายพัฒนา สัพโส ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนเป็นคนเดียวที่อภิปรายนายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม เกี่ยวกับการใช้งบประมาณกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท ซึ่งกระจุกที่ จ.บุรีรัมย์ ทั้งนี้ประเด็นดังกล่าวจะไม่เกิดขึ้นหากคนที่เป็นสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎรมีวุฒิภาวะสูงสักนิด ไม่ใช่ปราศรัยมุ่งเอาคะแนนเสียงจากพี่น้องประชาชน และปรามาสประชาชน โดยใช้คำที่ไม่สุภาพ คำว่า ‘ไอ้โง่’ เป็นคำไม่สุภาพอย่างยิ่ง ซึ่งตนจึงจะดำเนินการให้ถึงที่สุด ทั้งในระบบสภาผู้แทนราษฎรและในส่วนของคดีความ ช่องทางของกฎหมายจะดำเนินคดีในข้อหาหมิ่นประมาท

ทั้งนี้ในการอภิปรายนั้นเป็นเรื่องจริงที่ได้อภิปรายในเล่มงบประมาณ เพียงเพราะตนเองไม่ใช่คนบุรีรัมย์ ตนดีใจกับคนบุรีรัมย์ที่ได้รับงบประมาณ แต่ตนเสียใจในนามที่เป็นคนไทยที่งบประมาณกระจุกตัวที่บุรีรัมย์ ไม่กระจายตัวไปยังจังหวัดอื่นๆ ในประเทศไทย คือคำอภิปรายที่ตนจำได้แม่นทุกถ้อยคำ ไม่มีเจตนาใส่ร้าย ก่อนหน้านี้ยังมีความสัมพันธ์อันดีกับนายศุภชัย พูดจากันตามปกติ และนายศุภชัยเองยังกล่าวกับตนว่าจะย้ายมาลงเขต 1 อ.เมือง จ.นครพนม ตนอยากบอกพี่น้องชาวจังหวัดนครพนมตัวแทนของท่านมีความคิดด้อยค่า ตัวแทนของท่าน ดูถูกตัวแทนของพี่น้องว่าโง่ หมายความถึงพี่น้องชาวสกลนครและอุดรธานีด้วย จึงอยากพี่น้องชาวนครพนมช่วยกันสอนบทเรียนว่า การเป็นนักการเมืองที่ดีเป็นอย่างไร ไม่ใช่เรืองอำนาจ เอางบลงพื้นที่แล้วมาพูดหาเสียงบนเวที

“ท่านเอาตัวเองให้รอด คดีความท่านเยอะแยะไปหมด ผมมีหลักฐาน มีคลิป อภิปราย 152 คลิปอันนี้ท่านจะได้เห็น รอวันอภิปรายทั่วไป ผมเก็บหลักฐานไว้แล้ว จะได้รู้ว่าคนดี และคนโง่เป็นอย่างไร ผมจะดำเนินการอย่างถึงที่สุด ผมขอถอดสรรพนามประธานและครู ของนายศุภชัยออก จ.สกลนครมีประวัติยาวนานของนักต่อสู้ มีครู 2 ท่าน ครูเตียง ศิริขันธ์ และครูครอง จันดาวงศ์ เป็นครูที่มีประชาธิปไตยและมีอุดมการณ์ทางการเมือง วันนี้มีครูนครพนมมาสร้างความเสื่อมเสียทางการเมือง บนเวทีสภา กระทบถึงวิญญาณของครูผู้ต่อสู้” นายพัฒนา กล่าว

นายนิยม เวชากามา ส.ส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า คำพูดของนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภา ดูหมิ่น เหยียดหยามคนสกลนคร การอภิปรายด่าตน ตนไม่ว่า แต่มาอภิปรายว่าถ้ามึงอยากได้งบประมาณ ต้องเลือก ส.ส.ของภูมิใจไทย คำว่ามึงหมายถึงคนสกลนครทั้งจังหวัด ท่านเป็นรองประธานสภา ได้รับการโปรดเกล้าเป็นรองประธานสภา และทำหน้าที่เป็นประธานสภา ท่านจะออกมาขอโทษคนสกลนครและถอนคำพูด ไม่เพียงพอ ท่านต้องแสดงสปริตลาออกจากรองประธานสภา ไม่งั้นศักดิ์ศรีของสภาเดินต่อไม่ได้ วันนั้นท่านไม่ได้พูดในฐานะ ส.ส.นครพนม ส.ส.พูดหาเสียงเท่านั้น แต่ท่านพูดในฐานะประธานสภา ในฐานะที่ท่านนั่งบนบัลลังค์ท่านพูดว่า ส.ส.โง่ เหยียดย่ำความเป็นมนุษย์

นายอนันต์ ศรีพันธุ์ ส.ส.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ชาว อุดรธานีรู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก ชาวบ้านพูดถามมาทำไมต้องดูถูกคน คนมีความเป็นมนุษย์เท่ากัน ท่านเป็นรองประธานสภา วุฒิภาวะควรสูงกว่านี้ พูดถึงคนอื่นโง่ ตัวเองจะโง่ขนาดไหน ท่านบอกคนอื่นโง่แสดงบรรทัดฐานในสภา เรารู้สึกน้อยเนื้อต่ำใจ เราเสนอปัญหา ชาวบ้านเรื่องถนนหนทางให้รัฐมนตรีได้รู้ เป็นหน้าที่ของ ส.ส.สะท้อนปัญหาที่ประชาชนพบเจอและต้องการ พอได้รับฟังว่าท่านด่าว่า ส.ส.สกลนคร ส.ส.นครพนมโง่ มาทีไรก็มาขอแต่เรื่องถนน ก็ในเมื่อเดือดร้อนอย่างนั้น เราต้องทำตามที่ประชาชนขอ

“เวลาเราขอ มาหาว่าเราโง่ ก็ต้องไปอยู่พรรคเขา ผมจะบอกให้ว่า ให้ผมเท่าไหร่ผมก็ไม่ไปหรอกครับพรรคคุณ ผมไม่กินกล้วย ไม่กินอะไรต่างๆ ผมอยู่เพื่อไทยตลอด นี่คือสิ่งหนึ่งที่พวกเราในนาม ส.ส.เพื่อไทยอยู่ตรงนี้ เราเสียใจในคำพูดที่ไม่สมควรจะพูด เป็นหน้าที่ของรองประธานและประธานต้องไปปรับปรุงแก้ไขให้ดีในเรื่องของคุณธรรม จริยธรรม” นายอนันต์ กล่าว

นายอดิศร เพียงเกษ กรรมการยุทธศาสตร์ทางการเมือง พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า ตนเป็นลูกหลานชาวสกลนคร บิดาของตนเป็นลูกศิษย์ของครูเตียง ศิริขันธ์ จึงมีสิทธิ์อันชอบธรรมที่จะร่วมแถลงข่าวในวันนี้ นายศุภชัย ปราศรัยผิดพลาดที่สุดในชีวิต มีหลายเรื่องที่จะให้ชาวบ้านสนับสนุนพรรคภูมิใจไทยของท่าน ก็เป็นสิทธิของท่าน แต่ท่านก้าวก่ายสิทธิของคนอื่น ยกตนข่มท่าน วุฒิภาวะ ในการปราศรัย เป็น ส.ส.หรือจะเป็นรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คงเป็นต่อไม่ได้อย่างแน่นอน ส่วนตัวรู้จักกันส่วนตัว แต่ในเรื่องของทางเมือง อยากกินมาก อยากได้มาก วันนี้มากล่าวหาคนสกลนครว่ามึงทำไมไม่เลือกฝ่ายรัฐบาล มึงทำไมไม่เลือกภูมิใจไทย ชีวิตทางการเมืองของท่านหมดสิ้นแล้ว ขอฝากกลอนไปถึงสหายแสง จากสหายศรชัย สหายจากในป่าเหมือนกัน แต่สหายในป่า ไม่มีเกเรเกตุงเช่นนี้

ภูมิใจ ด่า ส.ส.ว่าไอ้โง่
ยกตนพองโต ว่ายิ่งใหญ่
เป็นเศษกรวด เศษแก้ว ไม่เจียรนัย
ศุภชัย โพธ์สุ จึงต่ำตม
เหิมเกริม สำแดง วางอำนาจ
ป่าวประกาศ มึงไม่เลือก จะขื่นขม
รุกที่ป่า ใครหวา ที่นครพนม
ใครโง่ ใครโสมม เดี๋ยวรู้กัน