อดีต ขุนคลัง ชี้รัฐปล่อยให้เงินบาทแกว่งขึ้นๆลงๆ กว่า 10%​ นับว่ามากเกินไป เศรษฐกิจ​ไม่เจริญเติบโต​

ศ.สุชาติ! ชี้รัฐปล่อยให้เงินบาทแกว่งขึ้นๆลงๆ กว่า 10%​ นับว่ามากเกินไป ทำให้ต้องกำหนดราคาสินค้าส่งออกแพงมาก เศรษฐกิจ​ไม่เจริญเติบโต​ รัฐควรมีนโยบายกำหนด “เป้าหมายอัตราแลกเปลี่ยน​ (Exchange rate targeting)”

5 ธันวาคม​ 2565 ศาสตราจารย์​ ดร.สุชาติ ​ธา​ดา​ธำ​รง​เวช​ ​อดีตรัฐมนตรี​ว่าการกระท​รวงการคลัง​ และอดีตหัวหน้าพรรค​เพื่อ​ไทย​ กล่าวว่า ​รัฐบาลไทยปล่อยให้ค่าเงินบาทขึ้นๆลงๆ​ระหว่าง​ 34-40 บาทต่อเหรียญ​สหรัฐ​ นับว่าค่าเงินบาทแกว่งขึ้นลง​ในอัตราสูงมาก​ มากกว่า​ 10%

เมื่อรัฐบาลปล่อยค่าเงินบาทขึ้นลงเช่นนี้​ ผู้ส่งออกสินค้า​และผู้ให้บริการการท่องเที่ยว​ จะต้องตั้งราคาในรูปเงินเงินดอลลา​ร์​ที่แพงมาก​ เพื่อป้องกันความเสี่ยงขาดทุน​ ทำให้ปริมาณส่งออกและท่องเที่ยวน้อยลง​ จะเห็นว่าอัตราการเพิ่มของการส่งออกเริ่มติดลบเมื่อเดือนตุลาคม​ 65​ ที่ผ่านมา

การที่รัฐบาลปล่อยให้ค่าเงินบาทขึ้นๆลงๆ​ (โดยเฉพาะการปล่อยให้เงินบาทแข็งค่ามากเกินไป)​ จะทำให้ประชาชนส่วนใหญ่​และระบบเศรษฐกิจ​ไทย ไม่ได้ประโยชน์​อะไร​จาก​การอ่อนตัวของค่าเงินบาท

นโยบาย​อัตราแลกเปลี่ยนเช่นนี้​ จะทำให้อัตราความเจริญ​เติบโต​ทางเศรษฐกิจ​ (GDP​​ growth) อยู่ในระดับต่ำ​ตลอดเวลา​ แล้วจะไปสร้างปัญหา​ความยุ่งยากในระดับ​ภาพย่อย (Micro)​ มากมาย​ เช่น​ คนตกงาน, ประชาชนขายของไม่ได้, ต้องกู้เงินมาใช้จ่าย,​ รายได้ภาษีลดลง, หนี้ครัวเรือน​และหนี้รัฐบาลสูงขึ้นอีก, ปัญหาอาชญากรรม, ปัญหายาเสพติด

หากเราทำให้ระบบเศรษฐกิจไทย เจริญ​เติบโตในอัตราสูงกว่านี้​ ปัญหา​ข้างบนเหล่านี้​ จะลดความรุนแรงลงไปเอง​ ดังนั้น​ นโยบาย​ “กำหนดเป้าหมายอัตราแลกเปลี่ยนให้เหมาะสมแข่งขันได้” (Exchange rate targeting policy) จึงเป็นเรื่องสำคัญ​ แต่รัฐบาลไทยปัจจุบัน​ ไม่มีใครเข้าใจ​ ไม่มีผู้เชี่ยวชาญที่แท้จริง​ แบบสิงคโปร์​ แบบจีน

เป็นที่น่าเสียดาย​มาก​ ที่รัฐบาลไทย​ไม่มีผู้รู้​ในเรื่อง​นี้​ มีแต่ผู้ไม่รู้​ มักสั่งผิดๆ​ สั่งส่งเดช​ ดังนั้น​ เศรษฐกิจ​ไทย​ในระดับ​มหภาค จึงถูกปล่อยไป​ตามยถากรรม​ เติบโตเพียง​ปีละ 1-2% เป็นเช่นนี้มากกว่า​ 8​ ปี​แล้วครับ ​ดร.​ สุชาติ​ กล่าว…