เผยแพร่ |
---|
ชาวจีนในหลายเมืองใหญ่ทั่วประเทศออกมาชุมนุมประท้วงต่อต้านผู้นำและรัฐบาลจีน มีรายงานตำรวจจับกุมผู้ประท้วงจำนวนมาก รวมถึงผู้สื่อข่าวที่มีรายงานว่าถูกทำร้ายร่างกายขณะถูกควบคุมตัว
จับตัวนักข่าวต่างประเทศ
โดยสำนักข่าว BBC ออกแถลงการณ์ระบุว่า มีความกังวลเป็นอย่างยิ่งต่อกรณีที่ เอ็ด ลอว์เรนซ์ ผู้สื่อข่าว ถูกจับกุมและถูกใส่กุญแจมือ ระหว่างการรายงานข่าวการประท้วงในเซี่ยงไฮ้ โดยไม่มีคำอธิบายอย่างเป็นทางการ หรือคำขอโทษจากทางการจีน แต่มีการกล่าวอ้างว่าการจับกุมผู้สื่อข่าวเพื่อประโยชน์ของตัวเขาเอง เนื่องจากเจ้าหน้าที่เกรงว่าผู้สื่อข่าวอาจติดเชื้อโควิด-19 จากฝูงชนได้ ซึ่ง BBC ไม่คิดว่านี่คือคำอธิบายที่มีเหตุผล และในระหว่างที่ลอว์เรนซ์ถูกควบคุมตัวนานหลายชั่วโมง เขาถูกตำรวจเตะและทุบตี ซึ่งนอกเหนือจากสื่อมวลชนแล้ว ยังมีผู้ประท้วงอีกหลายคนที่ถูกตำรวจควบคุมออกจากจุดที่มีการประท้วงเช่นกัน
การประท้วงที่เกิดขึ้นในหลายเมืองทั่วประเทศจีน เกิดจากความไม่พอใจรัฐบาลจีนที่ใช้มาตรการโควิดเป็นศูนย์ ด้วยการปิดเมืองหรือปิดพื้นที่ที่พบผู้ติดเชื้อ
คลิปวิดีโอและการไลฟ์สดทางออนไลน์จำนวนมาก เป็นภาพประชาชนรวมตัวกันเคลื่อนไหวคัดค้านทางการจีน ปะทุขึ้นในหลายเมือง มีรายงานการประท้วงทั้งในเชิงตู ซีอาน และอู่ฮั่น จุดเริ่มต้นการระบาดของโควิด-19 เมื่อ 3 ปีก่อน
BBC Statement on Ed Lawrence pic.twitter.com/wedDetCtpF
— BBC News Press Team (@BBCNewsPR) November 27, 2022
ส่งเสียงครั้งแรก จี้ สีจิ้นผิงลาออก
ก่อนหน้านี้ ช่วงคืนวันที่ 27 พ.ย.ที่ผ่านมาที่นครเซี่ยงไฮ้ มีการเคลื่อนกำลังพลของตำรวจจำนวนมากเพื่อตั้งแนวกั้น ท่ามกลางการเดินขบวนประท้วงของประชาชนตามท้องถนน ในขณะที่ชาวจีนในกรุงปักกิ่งพากันชูกระดาษเปล่าสีขาว พร้อมตะโกนข้อความเรียกร้องเสรีภาพและต่อต้านการตรวจหาเชื้อโควิด-19 บางส่วนตะโกนว่า
“ไม่ต้องการคำโกหก ต้องการศักดิ์ศรี ไม่ต้องการการปฏิวัติวัฒนธรรม แต่ต้องการการปฏิรูป เราไม่ต้องการผู้นำ ต้องการออกเสียง ไม่ต้องการเป็นทาส อยากเป็นประชาชน”
ขณะที่มีรายงานว่า ผู้ประท้วงบางส่วนถึงกับกล้าเรียกร้องให้ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ลาออกจากตำแหน่ง และจากการประเมินน่าจะมีผู้เข้าร่วมนับพันคน มีการใช้กระดาษที่ว่างเปล่าเป็นสัญลักษณ์ในการประท้วงของชาวจีน สะท้อนถึงความไม่พอใจ และการตระหนักถึงการปิดกั้นการเข้าถึงข้อมูลข่าวสาร และการแสดงความคิดเห็นอย่างเสรี
ลุกลามทั่วประเทศ
การประท้วงที่แผ่ขยายไปแล้วอย่างน้อย 8 เมืองทั่วประเทศ เปิดฉากขึ้นเมื่อวันศุกร์ที่ 25 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยประชาชนในเมืองอุรุมชี เมืองเอกของเขตปกครองตนเองซินเจียง-อุยกูร์ รวมตัวกันเดินขบวนไปตามท้องถนน พร้อมตะโกนข้อความเรียกร้องให้ทางการยกเลิกมาตรการปิดเมืองควบคุมโควิด-19 โดยมีรายงานว่าการประท้วงนี้เกิดขึ้นเมื่อคืนที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น
บางจุดมีประชาชนโต้เถียงกับเจ้าหน้าที่ที่แต่งกายด้วยชุดป้องกันโรค จากปกติที่ภาพการลุกฮือประท้วงมักมีให้เห็นไม่บ่อยนักในจีน ที่ควบคุมการต่อต้านทางการอย่างเข้มงวด ท่ามกลางกระแสความไม่พอใจมาตรการควบคุมโรคที่ยังเข้มงวดสวนทางกับทั่วโลก ซึ่งเริ่มทยอยเข้าสู่เทศกาลเฉลิมฉลองช่วงปลายปีอย่างปราศจากการควบคุมโควิด-19
การประท้วงที่ปะทุขึ้นในอุรุมชี มีฉนวนเหตุมาจากเหตุเพลิงไหม้อาคารพักอาศัย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิต 10 คน บาดเจ็บอีก 9 คน โดยประชาชนในซินเจียงลุกฮือขึ้นด้วยความไม่พอใจ เนื่องจากการบังคับใช้มาตรการควบคุมโรคอย่างเข้มงวดด้วยการปิดพื้นที่บางส่วนของอาคาร ส่งผลให้ผู้ประสบภัยไม่สามารถหลบหนีออกจากอาคารที่พักอาศัยได้ทันเวลา และทำให้เจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าช่วยเหลือได้ล่าช้า แม้ว่าสถานีโทรทัศน์ CCTV ของทางการจีน ชี้แจงว่าอาคารแห่งนี้ไม่ได้อยู่ภายใต้มาตรการคุมโควิด-19 และยืนยันว่าทุกคนสามารถออกมาจากอาคารได้
สถานการณ์เหล่านี้เกิดขึ้นท่ามกลางการระบาดระลอกใหม่ในจีน ที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุดติดต่อกันเป็นวันที่ 4 นับตั้งแต่เริ่มพบการแพร่ระบาดของโควิด-19 เมื่อเกือบ 3 ปีก่อน
บอลโลกยังเซ็นเซอร์
ขณะที่ สถานีโทรทัศน์ CCTV Sports ของทางการจีนที่ถ่ายทอดการแข่งขันฟุตบอลโลกที่กาตาร์ ซึ่งเป็นการแข่งขันระหว่างญี่ปุ่นกับคอสตาริกา รอบแบ่งกลุ่ม ปรากฏว่าทางสถานีตัดภาพการถ่ายทอดสดบางส่วน ที่กล้องซูมไปยังผู้ชมที่ไม่สวมหน้ากากในระยะใกล้ ไม่ให้ออกอากาศ และเลือกใช้ภาพผู้เล่น เจ้าหน้าที่ หรือตัวสนามออกอากาศแทน โดยเป็นการเปรียบเทียบภาพเกมการแข่งขันที่ถ่ายทอดทาง CCTV Sports เทียบกับการถ่ายทอดสดผ่านช่องทางสังคมออนไลน์ของจีน ที่มีภาพช็อตผู้ชมให้เห็นมากกว่า ทั้งนี้ ภาพที่เกิดขึ้นระหว่างการแข่งขันฟุตบอลโลก ตั้งแต่นัดเปิดสนาม 20 พ.ย.ที่ผ่านมา ภาพของผู้ชมที่อัดแน่นเต็มอัฒจันทร์และไม่สวมหน้ากาก อาจจะเรียกได้ว่าทำให้ชาวจีนตระหนักถึงความแตกต่างอย่างสุดขั้วในวิถีชีวิตปัจจุบันของพวกเขา กับความเป็นอยู่ของชาวโลก
ตัวเลขติดเชื้อพุ่ง
ด้านตัวเลขผู้ติดโควิด-19 รายวันของจีนปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องกันเป็นวันที่ 5 คณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีนระบุในวันจันทร์ว่า ยอดผู้ติดเชื้อล่าสุดในวันที่ 27 พฤศจิกายน อยู่ที่ 40,347 คน ซึ่งในจำนวนนี้เป็นผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการ 3,822 คน และไม่แสดงอาการ 36,525 คน แต่ไม่มีผู้เสียชีวิต หลังจากที่หนึ่งวันก่อนมีผู้เสียชีวิต 1 ราย
หากไม่นับรวมผู้ติดเชื้อที่เดินทางเข้ามาจากต่างประเทศ จีนรายงานผู้ติดเชื้อรายใหม่ภายในท้องถิ่น 40,052 คน ซึ่งในจำนวนนี้แสดงอาการ 3,748 คน และไม่แสดงอาการ 36,304 คน
ขณะที่ในหนึ่งวันก่อนหน้ามียอดผู้ติดเชื้อรายใหม่ 39,791 คน โดยเป็นผู้ติดเชื้อที่แสดงอาการ 3,709 คน และไม่แสดงอาการ 36,082 คน เป็นยอดติดเชื้อในท้องถิ่น 39,506 คน
Just seen police dragging random people away from the crossroads where protests first started in Shanghai. All happening now pic.twitter.com/wADg3j80wX
— Leo Lord-Jones (@leolordjones) November 28, 2022
#Shanghai police blatantly beat up @BBCNews reporter Edward Lawrence. pic.twitter.com/Ihqa4Y5JiG
— Jennifer Zeng 曾錚 (@jenniferzeng97) November 27, 2022