| เผยแพร่ |
|---|
รอยเตอร์ รายงาน สมเด็จพระราชาธิบดีสุลต่าน อับดุลลาห์ สุลต่าน อาห์หมัด ชาห์ กษัตริย์มาเลเซีย แต่งตั้ง อันวาร์ อิบราฮิม ผู้นำฝ่ายค้านเป็นนายกรัฐมนตรีของประเทศ สิ้นสุดวันแห่งความไม่แน่นอน หลังจากการเลือกตั้งทั่วไปจนทำให้รัฐสภาหยุดชะงัก
สำนักราชวังอิสตานา แห่งมาเลเซีย ออกแถลงการณ์ระบุว่า อันวาร์ อิบราฮีม ในฐานะประธานกลุ่มการเมือง ปากาตัน ฮาราปัน (PH) จะสาบานตนรับตำแหน่ง เป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 10 ของมาเลเซียในเวลา 17.00 น. วันนี้ หลังจากหลายพรรคการเมือง รวมถึงอัมโน เห็นพ้องข้อเสนอตั้งรัฐบาลเอกภาพของสมเด็จพระราชาธิบดี อัล-สุลต่าน อับดุลลาห์ ยุติการรอคอยและความวุ่นวาย 5 วัน นับจากการเลือกตั้งทั่วไปที่จัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา
แถลงการณ์ระบุว่า สมเด็จพระราชาธิบดีทรงเห็นพ้องกับการเสนอแต่งตั้งนายอันวาร์ และได้ข้อยุติหลังจากขอความเห็นจาก สภาเจ้าผู้ครองรัฐ ประกอบไปด้วยสุลต่านจาก 9 รัฐของมาเลเซีย ซึ่งจัดประชุมเป็นกรณีพิเศษที่พระราชวังอิสตานา เนการา ในวันนี้ เพื่อตัดสินใจอย่างดีที่สุดเพื่อประโยชน์และความผาสุกของประเทศชาติและประชาชน
อันวาร์ อิบราฮีม ถูกมองว่าเป็นนายกรัฐมนตรี ที่รอรับตำแหน่งนี้มานาน นับจากถูก ดร.มหาเธร์ โมฮัมหมัด นายกฯมาเลเซียเวลานั้น ปลดจากรองนายกรัฐมนตรี ในปี 2541 และต้องขึ้นโรงขึ้นศาลจนติดคุกหลายปีด้วยคดีมีสัมพันธ์ทางเพศกับผู้ชาย ก่อนกลับมาผงาดบนเวทีการเมืองอีกครั้ง การเลือกตั้งครั้งนี้ พันธมิตรปากาตัน ฮาราปัน (PH) ของนายอันวาร์ได้ที่นั่งมากที่สุด 82 ที่นั่ง แต่ยังไม่ถึง 112 ที่นั่งที่จะเป็นการครองเสียงข้างมากและได้จัดตั้งรัฐบาล ส่วนพันธมิตรเปอริกาตัน นาซิโอนัล (PN) ของนายมูห์ยิดดิน ยัสซิน อดีตนายกรัฐมนตรี ได้ 73 ที่นั่ง ส่วนกลุ่มบาริซัน นาซิโอนัล ที่มีอัมโน เป็นแกนนำ ได้ 30 ที่นั่ง
สมเด็จพระราชาธิบดีมาเลเซีย ให้เวลาพรรคการเมือง ถึง 14.00 น. วันอังคาร ยืนยันว่ามีเสียงมากพอตั้งรัฐบาลและเสนอชื่อนายกรัฐมนตรี แต่ทั้ง (PH) ของอันวาร์ และ (PN) ของนายยัสซิน ไม่สามารถรวบรวมเสียงได้มากพอ พระองค์จึงตัดสินพระทัยเรียกประชุมสภาเจ้าผู้ครองรัฐ ในเช้าวันนี้เพื่อหาทางออก ในเวลาเดียวกัน อัมโน แกนนำอดีตพันธมิตรรัฐบาลมาเลเซีย ส่งสัญญาณว่า จะสนับสนุนรัฐบาลเอกภาพ ที่ไม่ได้นำโดยพันธมิตรของนายมูห์ยิดดิน ยัสซิน อันเป็นการส่งสัญญาณว่า อาจสนับสนุนนายอันวาร์ อิบราฮิม แกนนำฝ่ายค้านให้เป็นนายกรัฐมนตรี ถือเป็นการกลับลำการตัดสินใจ ที่จะวางตัวเป็นกลางทางการเมือง และอาจช่วยผ่าทางตันทางการเมืองได้
