ชาวนาไทยจะต้องจนและยากไร้ตลอดชาติเลยหรือ ?

ชาวนาไทยจะต้องจนและยากไร้ตลอดชาติเลยหรือ | ปลอดประสพ สุรัสวดี

ผมได้เคยชมว่า การจัด APEC2022 ประเทศไทยทำได้ดีสมกับความเป็นเจ้าบ้านที่ชาวต่างชาติจะชื่นชมว่า ต้อนรับขับสู้เแขกผู้มาเยือนเสมอมา แต่มาสะดุดใจที่สภาพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติจู่ๆก็ประกาศว่า เศรษฐกิจประเทศไทยฟื้นแล้ว โดยยกตัวเลข GDPของไทยเฉลี่ย 9 เดือนที่ผ่านมาเติบโตที่ 3.1% (เฉพาะไตรมาสที่สามที่เพิ่มขึ้นมาเป็น 4.5%) ทำเอาคนไม่รู้เรื่องฮือฮาดีใจว่า ไทยจะรุ่งโรจน์แน่นอน แต่ที่สภาพัฒน์ไม่ได้ประกาศ(ไม่รู้จงใจหรือไม่) ก็คือ ประเทศอื่นรอบบ้านเราเขามีเศรษฐกิจเติบโตกว่าเราทั้งสิ้น เช่น มาเลเซีย 9.4% เวียดนาม 8.8% ฟิลิปปินส์ 7.7% อินโดนีเซีย 5.4% และสิงคโปร์ 4.2% จะเห็นได้ชัดเจนว่า ประเทศไทยมีการขยายตัวทางเศรษฐกิจรั้งท้ายที่สุดในภูมิภาคนี้ ดังนั้นผมจึงมีเหตุผลเพียงพอที่จะบอกว่า แปดปีของรัฐบาลนี้ทำให้ประเทศเจริญได้แค่นี้เท่านั้น ความสำเร็จในการจัดงานAPEC ก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ได้หรอก

อีกเรื่องที่ผมรู้สึกเศร้าใจและเห็นใจชาวนาก็คือ การที่รัฐบาลประกาศที่จะยกระดับรายได้ของเกษตรกรที่ปลูกข้าวจำนวน 4.68 ล้านครอบครัว โดยการแจกเงินฟรีภายใต้สิ่งที่เรียกว่า การประกันรายได้และการประกันสังคม ซึ่งต้องใช้เงินในงวดนี้อีก 81,265 ล้านบาท โดยจะเริ่มตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปจนถึงวันที่ 30 กย. 66 โดยนายกรัฐมนตรีจะไปแจกสตางค์เอง โดยเริ่มที่จ.เพชรบูรณ์(ซึ่งปลูกข้าวนิดเดียว) คำถามผมก็คือ อาชีพชาวนาไทยจะอยู่ได้ก็เพราะรอรับการแจกเงินอย่างนี้หรือ เราไม่คิดจะพัฒนาเทคโนโลยีและขบวนการบริหารจัดการอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องเช่น การตลาด มาสนับสนุนการผลิตและการจำหน่ายข้าวเลยหรือ จะเป็นชาวนาจนๆโดยใช้ความรู้จากวิชาการเก่าๆตามที่ถ่ายทอดกันมาจากบรรพบุรุษ แบบภาพที่ผมเอาให้ดู ชาวนาผู้นี้อยู่กันตายาย อายุ 80 แล้ว คุณตายังถือเคียวเกี่ยวข้าวพร้อมกับบ่นว่า ไม่ค่อยมีแรงแถมบางครั้งเคียวก็ยังบาดมือเอาด้วยซ้ำไป ส่วนคุณยายตอนนี้เกี่ยวไม่ค่อยไหวแล้ว จึงเอาสุ่มมาช่วยวางดักปลาพอมีอาหารกินได้อีกมื๊อหนึ่งในฐานะผู้บริหารกระทรวงเกษตรเก่า ผมรู้สึกเอน็จอนาถใจเหลือเกิน เมื่อสองวันที่แล้วก็หงุดหงิดเมื่อรู้ว่า ประเทศไทยไม่ได้แชมป์ข้าวที่ดีที่สุดของโลกเพราะกัมพูชาล้ำหน้าเราไปแล้ว (ผมในฐานะมีส่วนเกี่ยวข้องกับการให้ก่อตั้งกรมการข้าว รู้สึกเศร้าใจจริงๆ)

ช่วงนี้พวกผมในพรรคเพื่อไทยได้พูดคุยกันบ่อยครั้งมากเพื่อจะแก้ปัญหาความยากจนของเกษตรกรโดยเฉพาะชาวนาให้ได้อย่างยั่งยืน การพูดคุยกันนี้ก็ยังครอบคลุมไปถึงเรื่องการประมง (ซึ่งเจ๊งเรียบร้อยไปแล้ว) รวมถึงเรื่องยางพารา ตลอดจนเรื่องปุ๋ย ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศเกษตรกรรมแท้ๆแต่กลับไม่มีอุตสาหกรรมปุ๋ยเป็นของตนเอง ผมภาวนาให้ความหวังของเกษตรกรที่จะลืมหน้าอ้าปากได้เกิดจากความพยายามของพวกผมเหลือเกิน

https://m.facebook.com/story.php?story_fbid=pfbid032wDDaWveNB9u2NcwK3jywPbDWoySM7J969uikPofx58CquLHU74uVmerVEDGycNMl&id=100014610973468&mibextid=qC1gEa