พลโทภราดร อธิบาย ทำไม อดีตนายกฯ ยิ่งลักษณ์ ถึงชอบธรรม โยกย้ายอดีต เลขา สมช.

24 พ.ย. 65 พลโทภราดร พัฒนถาบุตร เลขานุการคณะกรรมการกิจการพิเศษพรรคเพื่อไทย อดีตเลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึง กรณีคดีความที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีถูกกล่าวหาว่าสั่งย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี อดีตเลขาสมช.โดยมิชอบนั้นจนเป็นเหตุให้ต้องพ้นจากตำแหน่งนายกฯ ตามมาด้วยการรัฐประหารและแปลงกายมาเป็นรัฐบาลสืบทอดอำนาจในปัจจุบัน คดีได้เข้าสู่กระบวนการพิจารณาของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง

แต่รูปการณ์ได้ถูกมองว่าเป็นคดีทางการเมืองไปแล้ว เพราะจะมองในแง่มุมใดก็ตามมันถือเป็นอำนาจหน้าที่อันชอบธรรมของนายกฯยิ่งลักษณ์ที่สามารถจะโอนย้ายนายถวิลฯได้โดยจะแสดงให้เห็นตามครรลองดังต่อไปนี้

ถวิล เปลี่ยนศรี

1. นายกรัฐมนตรีและในฐานะประธานสภาความมั่นคงฯ และคณะรัฐมนตรีมีอำนาจหน้าที่ตามกฎหมายพ.ร.บ.บริหารราชการแผ่นดินฯ และพ.ร.บ.สภาความมั่นคงฯ ที่จะโอนย้ายเลขาสมช.ได้ทุกเวลา

2. คุณสมบัติข้อแรกของเลขาสมช. คือต้องเป็นผู้ที่ได้รับความไว้วางใจจากนายกรัฐมนตรี และในฐานะประธานสภาความมั่นคงฯ ซึ่งเป็นไปตามหลักการบริหารบุคคลภาครัฐมาตรฐานทั้งไทยและสากล ซึ่งนายถวิลฯ มีปัญหาในข้อนี้

คือเมื่อครั้งดำรงตำแหน่งเลขาสมช.ในฐานะกรรมการและเลขาศอฉ. ในรัฐบาลอภิสิทธิ์ฯ ได้ร่วมใช้อำนาจกระชับพื้นที่ประชาชนที่ชุมนุมทางการเมือง โดยรูปแบบให้กองทัพใช้อาวุธสงครามและกระสุนจริง จนเป็นเหตุให้มีผู้บาดเจ็บล้มตาย ซึ่งเป็นทัศนคติทางการเมืองที่ไม่สอดรับกับรัฐบาลนายกฯ ยิ่งลักษณ์ และเป็นเงื่อนไขให้ประชาชนผู้รักประชาธิปไตยเคลื่อนไหวแสดงความไม่พอใจรัฐบาลจนเป็นอุปสรรคต่อการบริหารราชการแผ่นดิน

3. นโยบายความมั่นคงเร่งด่วนของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ เน้นการอำนวยความยุติธรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การแก้ปัญหาภัยคุกคามจากอาชญากรรมข้ามชาติ การค้ามนุษย์ และยาเสพติดอย่างเข้มข้น จึงต้องพิจารณาเลือกตัวบุคคลให้มาดำรงตำแหน่งเลขาสมช. เพื่ออำนวยการขับเคลื่อนตามนโยบายดังกล่าวให้สัมฤทธิ์ผลโดยเร็ว จึงได้พิจารณาบุคลากรจากประชาคมความมั่นคง (พลเรือน ตำรวจ ทหาร) และเห็นว่าผู้ที่เหมาะสมลงตัวที่สุดในขณะนั้น สมควรเป็นบุคลากรที่มาจากตำรวจ จึงได้พิจารณาให้ขอรับโอนพลตำรวจเอกวิเชียร พจน์โพธิ์ศรี ผบ.ตร. โอนย้ายมาดำรงตำแหน่งเลขาสมช. แทนนายถวิลฯ

เหตุผล 3 ข้อที่กล่าวมานี้ล้วนเป็นเหตุเป็นผลความชอบธรรมเพียงพอที่นายกฯ ยิ่งลักษณ์จะโอนย้ายนายถวิลฯ ได้อย่างไร้ข้อครหาแล้ว

ยิ่งเมื่อนำมาประกบเข้ากับความจริงที่เกิดขึ้นที่ตามมา คือภาพข่าวปรากฎภายหลังต่อมาเป็นหลักฐานยืนยันว่านายถวิลได้ร่วมมืออยู่กับกลุ่มการเมืองที่เป็นปรปักษ์กับรัฐบาล และได้ขึ้นเวทีสาธารณะแสดงการตำหนิรัฐบาลทั้งๆ ที่เป็นข้าราชการประจำต้องวางตัวเป็นกลาง ถือเป็นการกระทำเข้าข่ายผิดวินัยและจริยธรรมข้าราชการ จนถูกตั้งคณะกรรมการสอบสวนพิจารณาโทษทางวินัยแต่รอดตัวไปได้ เพราะมีการยึดอำนาจมาล้มล้างให้

ประกอบกับจะพบว่ารัฐบาลยึดอำนาจได้มีการดำเนินการตอบแทนบุญคุณแก่นายถวิล เปลี่ยนศรี คือได้มีการแต่งตั้งให้เป็นประธานคณะกรรมการการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (รัฐวิสาหกิจกระทรวงมหาดไทย) ตามมาด้วยการแต่งตั้งเป็นวุฒิสมาชิกอีกต่างหาก รวมทั้งเรื่องการโอนย้ายข้าราชการทหารมาดำรงตำแหน่งเลขาสมช. ในยุครัฐบาลสืบทอดอำนาจ 8 ปี 5 คนแล้ว มันสมควรอธิบายความได้ว่า

คดีความการโอนย้ายนายถวิล เปลี่ยนศรี ออกจากตำแหน่งเลขาสมช.มิชอบโดยนายกรัฐมนตรียิ่งลักษณ์ ชินวัตรนั้น มันไม่ควรเป็นคดีความได้เลย แต่ที่มันมาเป็นคดีความก็ขอตั้งเป็นคำถามว่าเพราะมันถูกใช้ให้เป็นเครื่องมือทางการเมืองของขบวนการยึดอำนาจใช่หรือไม่