ไทยสร้างไทย ประกาศลุยเสนอร่างกฎหมาย 2ฉบับ ชวนประชาชนร่วมลงชื่อ กิโยตินกฎหมาย

ไทยสร้างไทยประกาศ ลุยเสนอร่างกฎหมาย 2 ฉบับชวนประชาชนร่วมลงชื่อ กิโยตินกฎหมายเบื้องต้น แขวนการบังคับใช้หลักเกณฑ์ การอนุมัติ อนุญาตที่เป็นอุปสรรคการทำมาหากินกว่า 1,500 ฉบับ และร่างกฎหมายเพื่อการรวมตัวจัดตั้ง SMEs 4 ระดับ ระบุในสอง 2 สัปดาห์ ทั้งสองร่างถึงมือประธานสภา

พรรคไทยสร้างไทยแถลงข่าว การปลดปล่อยให้ประชาชนทำมาหากินและสร้างพลัง นำโดย ดร. โภคิน พลกุล ประธานยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนประเทศ นายชัยวัฒน์ หาญสมวงศ์ รองหัวหน้าพรรค นายนพดล มังกรชัย รองหัวหน้าพรรค นางสาวธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ โฆษกพรรคไทยสร้างไทยร่วมกันแถลงข่าว

ดร.โภคิน เปิดเผยว่า ภายใน 2 สัปดาห์พรรคไทยสร้างไทยจะเสนอร่างกฎหมาย 2 ฉบับ ประกอบด้วยฉบับที่ 1 ร่างกฎหมายที่แขวนการบังคับใช้กฎหมายและหลักเกณฑ์ทั้งหลายที่เกี่ยวกับการอนุมัติอนุญาต ให้คงเหลือ 1-200 ฉบับจากประมาณ 1,500 ฉบับ

ฉบับ 2 ร่างกฎหมายเกี่ยวกับการรวมตัวจัดตั้ง SME 4 ระดับ
เพื่อให้พี่น้องประชาชนร่วมลงชื่อ 10,000 รายชื่อ เสนอต่อประธานสภา

ดร.โภคิน ยินยันว่าพรรคไทยสร้างไทย มีเปเาหมาย ในการดูแลพี่น้องประชาชนตั้งแต่เกิดจนแก่ เพราะพี่น้องยังขาดความมั่นคง ขาดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ซึ่งมาจากความคิดและวัฒนธรรมแบบอำนาจนิยม โดยมีรัฐราชการเป็นเครื่องมือ และเป็นอุปสรรคสำคัญในการทำมาหากินของพี่น้องประชาชน

ทำให้ประเทศต้องตกอยู่ภายใต้รัฐธรรมนูญแบบเผด็จการและสืบทอดอำนาจ มีกฎหมายที่ล้าหลังกดทับและเป็นอุปสรรคต่อคนตัวเล็ก

พรรคไทยสร้างไทย จึงมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาดังกล่าวโดยเริ่มต้นจากการผลักดันให้มีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชน
จากนั้นต้องปฏิวัติกฎหมายให้ตอบสนองคนทำมาหากินทุกระดับ โดยเฉพาะคนตัวเล็ก SMEs แต่จะทำได้สำเร็จต้องทำ 2 ขั้นตอน
1) จะต้องมีการออกกฎหมาย 1 ฉบับเพื่อแขวนการบังคับใช้ในเรื่องการอนุมัติ อนุญาตและการลงโทษทั้งทางอาญาและทางปกครองออกไปประมาณ 3-5 ปี

2) จากนั้นให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้ประกอบการ ผู้บริโภคร่วมกันแก้ไขปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวกับกระบวนการอนุมัติอนุญาตราว 1,500 ฉบับให้แล้วเสร็จภายใน 3-5 ปี ลงให้เหลือเฉพาะกฎหมายที่จำเป็น 100-200 ฉบับเท่านั้น ซึ่งจะทำให้ภาคธุรกิจ ผู้ประกอบการ SMEs สามารถทำมาหากินได้อย่างคล่องตัว และเข้าสู่ระบบได้มากขึ้น จะทำให้ประเทศ สามารถเก็บภาษีจากผลกำไรได้มากขึ้นตามไปด้วย

ด้านนายชัยวัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมถึงการออกกฎหมายให้ SMEs มีการรวมตัวกัน 4 ระดับ เป็นนิติบุคคลได้ โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้

1) เพื่อช่วยเหลือกัน
2) วางมาตรฐานการประกอบการ
3) เป็นปากเสียงไปยังภาคส่วนต่างๆโดยเฉพาะระบบราชการ และเป็นหูเป็นตา ป้องกันการ คอรัปชั่น
4) สร้าง ขนาดของเศรษฐกิจ Scale of Economy
5) ดูแลตรวจสอบส่งเสริมให้มีความรับผิดชอบต่อสังคม
ซึ่งทั้งหมดจะมีลักษณะคล้ายกับการมีสภาหอการค้า สภาอุตสาหกรรมซึ่งมักจะเป็นผู้ประกอบการรายใหญ่ รวมถึงการเข้าถึงแหล่งทุนดอกเบี้ยตามองค์ความรู้และตลาด

ขณะที่นายนพดล เชื่อว่าหากดำเนินการแก้ไขปรับปรุงได้จะทำให้คนตัวเล็กระเบิดศักยภาพในการทำมาหากิน การคอรัปชั่นต่างๆจะลดลงอย่างมาก เพราะไม่มีบุคคลใดสามารถรีดไถได้ รวมถึงรัฐจะสามารถเก็บภาษีได้มากขึ้น หลักเกณฑ์และกฎหมายต่างๆจะทันต่อการเปลี่ยนแปลงและตอบสนองภาวะที่คาดไม่ถึงต่างๆรวมถึงจะช่วยลดการผูกขาดทุนพรรคพวกเกิดความเป็นธรรมกระจายไปสู่ทุกคนทุกภาคส่วนอย่างทั่วถึง