ก.อุตตั้งทีมฯพร้อมเจรจาหาข้อยุติ หลังคิงส์เกตฯ ยื่นให้ไทยเข้าอนุญาตโตตุลาการ

นายพสุ โลหารชุน ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวกรณีบริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ดยื่นให้ประเทศไทยเข้าสู่กระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศเนื่องจากได้รับผลกระทบจากคำสั่งหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ(คสช.) เมื่อวันที่ 13ธันวาคม 2559ให้ระงับการอนุญาตและการทำเหมืองแร่ทองคำทั้งหมดในประเทศไทยเป็นการชั่วคราวรวมทั้งกำหนดให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดและจัดให้มีมาตรการเยียวยาแก้ไขผลกระทบด้านต่างๆเนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนการได้รับผลกระทบและคัดค้านการทำเหมืองที่อาจทำให้สิ่งแวดล้อมปนเปื้อนมาเป็นเวลานาน ว่า กระทรวงฯได้เตรียมการสำหรับการระงับข้อพิพาทตามกระบวนการอนุญาโตตุลาการเนื่องจากทั้งสองฝ่ายยังสามารถดำเนินการเจรจาเพื่อหาข้อยุติร่วมกันต่อไปและยืนยันว่ารัฐบาลไทยยังไม่ได้ยอมรับข้อเรียกร้องของคิงส์เกตในการขอดำเนินการทำธุรกิจเหมืองแร่ทองคำต่อไปแต่อย่างใด

” การเข้าสู่กระบวนการระงับข้อพิพาทตามกระบวนการอนุญาโตตุลาการนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้ความตกลงการค้าเสรีระหว่างไทย-ออสเตรเลีย(ทาฟต้า) ซึ่ง บริษัท คิงส์เกต คอนโซลิเดเต็ด ลิมิเต็ด (คิงส์เกต) ประเทศออสเตรเลียผู้ถือหุ้นใหญ่บริษัท อัครา รีซอร์สเซส จำกัด (มหาชน)ซึ่งถือประทานบัตรเหมืองแร่ทองคำ จ.พิจิตรและเพชรบูรณ์ ได้ยื่นหนังสือขอปรึกษาหารือกับรัฐบาลไทย เมื่อวันที่ 3 เมษายน 2560โดยอาศัยสิทธิตามข้อตกลงทาฟต้า และล่าสุดได้ใช้สิทธิยื่นให้คิงส์เกตและประเทศไทยเข้าสู่กระบวนการระงับข้อพิพาทตามกระบวนการอนุญาโตตุลาการระหว่างประเทศ ซึ่งขณะนี้ยังสามารถเจรจาได้” นายพสุกล่าว