สภาม.รามฯ แถลงการณ์ พบ อดีตอธิการฯ คัดลอกผลงานวิชาการ เหมือนกัน 90%

เมื่อวันที่ 22 พ.ย.2565- สภามหาวิทยาลัยรามคำแหง ได้ออกแถลงการณ์ เรื่อง การเผยแพร่ผลงานซ้ำซ้อนและการมีชื่อในผลงานที่ตนไม่มีส่วนร่วมของอดีตอธิการบดี โดยระบุว่า ผศ.สืบพงษ์ ปราบใหญ่ อดีตอธิการบดี ม.รามคำแหง ถูกตั้งข้อกล่าวหาเพิ่ม เกิดจากกรณีถูกกล่าวหาฝ่าฝืนจรรยาวิชาชีพวิจัย และแนวปฏิบัติของสำนักงานคณะกรรมการวิจัยแห่งชาติ พ.ศ. 2555 และมีพฤติกรรมในทางวิชาการที่ขัดต่อบทบัญญัติในกฎหมายและระเบียบ หรือข้อบังคับ ม.รามคำแหง หลายกรรมหลายบท ด้วยการคัดลอกผลงานตนเองและมีชื่อปรากฏในบทความทางวิชาการ ที่ตนเองไม่มีส่วนร่วม

ภายหลังจากที่ผศ.สืบพงษ์ ถูกสภา ม.รามคำแหง ถอดถอนจากตำแหน่งอธิการบดีเมื่อวันที่ 8 พฤศจิกายน 2565 ด้วยข้อหาการใช้วุฒิการศึกษาปริญญาเอกที่ไม่ได้รับการรับรองจากก.พ. การปกปิดหรือไม่รายงานต่อสภามหาวิทยาลัยกรณีการรับโอนทรัพย์สินจากนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ที่ถูกกล่าวหาว่าร่ำรวยผิดปกติและต่อมาศาลฎีกาได้พิพากษาให้ทรัพย์ดังกล่าวตกเป็นของแผ่นดิน และการทูลเกล้าฯ ถวายฎีกาด้วยข้อความอันเป็นเท็จ แล้ว

ปรากฏว่าในการประชุมสภา ม.รามคำแหง ครั้งล่าสุด เมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2565 สภามหาวิทยาลัยฯ ได้พิจารณารายงานจากคณะกรรมการตรวจสอบความไม่ชอบด้วยกฏหมาย ฯ ที่สภามหาวิทยาลัยฯ ได้แต่งตั้งขึ้นเพื่อตรวจสอบข้อร้องเรียน ผศ. สืบพงษ์ กรณีเข้าข่ายการคัดลอกผลงานตนเองโดยไม่มีการอ้างอิงผลงานเดิมของตน โดยคณะกรรมการได้สรุปว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวมีมูล โดยพิจารณาจากหลักฐานบทความทางวิชาการสองชิ้นของ ผศ. สืบพงษ์ และคณะ ผลงานทางวิชาการทั้งสองชิ้น ได้ถูกนำไปเผยแพร่ซ้ำซ้อนกันในวารสารทางวิชาการมากกว่าหนึ่งฉบับ โดยไม่มีการอ้างอิง และมีเนื้อหาที่เหมือนกันกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ การเผยแพร่บทความในลักษณะดังกล่าวถือว่าเป็นการขัดต่อจรรยาบรรณทางวิชาการ ทำให้ผู้อื่นอาจเข้าใจผิดว่าเป็นผลงานใหม่และทำให้เกิดปัญหาการอ้างอิงและส่งผลกระทบต่อคุณภาพทางวิชาการ

คณะกรรมการตรวจสอบความไม่ชอบด้วยกฎหมายฯ ยังรายงานด้วยว่าพฤติการณ์ดังกล่าวยังส่งผลต่อความไม่ชอบด้วยกฎหมายของ ผศ.สืบพงษ์ ในการเป็นอาจารย์ผู้รับผิดชอบหลักสูตรและอาจารย์ประจำหลักสูตรปริญญาเอกของคณะศึกษาศาสตร์ เนื่องจาก มีคุณสมบัติที่ไม่เป็นไปตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่องเกณฑ์มาตรฐานหลักสูตรระดับบัณฑิตศึกษา พ.ศ. 2558 และประกาศ ก.พ.อ. เรื่องหลักเกณฑ์และวิธีการพิจารณาแต่งตั้งบุคคลให้ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยศาสตราจารย์ รองศาสตราจารย์ และศาสตราจารย์ พ.ศ. 2560 ข้อ 5.1.4 (1) ที่ระบุว่า “ต้องมีความซื่อสัตย์ทางวิชาการ ไม่นำผลงานของผู้อื่นมาเป็นผลงานของตน และไม่ลอกเลียนผลงานของผู้อื่น ไม่นำผลงานของตนเองในเรื่องเดียวกันไปเผยแพร่ในวารสารทางวิชาการมากกว่าหนึ่งฉบับ รวมถึงไม่คัดลอกข้อความใด ๆ จากผลงานเดิมของตน โดยไม่อ้างอิงผลงานเดิมตามหลักวิชาการ ทั้งนี้ ในลักษณะที่ทำให้เข้าใจว่าเป็นผลงานใหม่”