อดีต รมว.พลังงาน ติง ค่าไฟฟ้าแพงมหาโหด รัฐต้องหาทางแก้ไขก่อนแบกไม่ไหว

คณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย แถลงข่าว วันอังคารที่ 22 พฤศจิกายน 2565 เวลา 10:00 น

“พิชัย” ติง ค่าไฟฟ้าแพงมหาโหด รัฐต้องหาทางแก้ไขก่อนจะแบกกันไม่ไหว จี้ เก็บค่าก๊าซหุงต้มเข้าปิโตรเคมีเพื่อนำมาลดค่าก๊าซประชาชน แนะ รื้อโครงสร้างราคาไฟฟ้า งดแจกใบอนุญาต กำหนดทิศทางให้ชัดเจน

นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว. พลังงาน และ รองประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทยด้านเศรษฐกิจ กล่าวว่า เศรษฐกิจโลกยังมีแนวโน้มที่จะถดถอยมาก ขณะที่เศรษฐกิจไทยในไตรมาส 3 แม้จะดูเหมือนดีแต่ถ้าเทียบกับประเทศในอาเซียนแล้วยังต่ำมาก ทั้งนี้การประชุม APEC ที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ประโยชน์น้อยมาก บทบาทของผู้นำเทียบไม่ได้เลยกับบทบาทผู้นำของชาติอาเซียนอื่น นอกจากนี้ยังมีการทำร้ายผู้ประท้วงอย่างรุนแรงจนถึงขั้นตาบอด และทำร้ายสื่อมวลชน ซึ่งเป็นการกระทำเกินกว่าเหตุ และควรจะต้องมีผู้รับผิดชอบในเรื่องนี้ ทั้งนี้ ในต่างประเทศที่เจริญแล้วที่การจัดประชุมแห่งชาติก็มักจะมีการประท้วงเป็นเรื่องปกติ แต่รัฐบาลที่มีคุณธรรมจะไม่มีการกระทำผู้ประท้วงแต่อย่างใด จึงอยากเรียกร้องหาผู้รับผิดชอบด้วย

นอกจากนี้จากการลงพื้นที่ในเขตบางรักและเขตสาทร พบว่าประชาชนเดือดร้อนกันอย่างมากจากพิษเศรษฐกิจ มีหนี้สินจำนวนมาก แต่รายได้ไม่เพิ่มแถมลดลง ค่าครองชีพและค่าใช้จ่ายสูง หลายคนถึงกับขู่ว่าอยากตายเพราะสู้ต่อไปไม่ไหวแล้ว โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายเรื่องค่าไฟฟ้าและค่าก๊าซหุงต้มที่พุ่งขึ้นสูงมาก ดังนั้นจึงอยากเสนอแนวในการแก้ไขราคาก๊าซหุงต้มดังนี้

ปัญหาค่าไฟฟ้าที่แพงมหาโหด ที่กำลังจะขึ้นราคาจากหน่วยละ 4.72 บาท เป็นหน่วยละ 5.37 บาท หรือ 5.70 บาท และ อาจจะถึง 6.03 บาทได้ ทั้งที่ตอนต้นปีราคายังอยู่ที่หน่วยละ 3.70 บาทเลย ซึ่งนอกจากจะทำให้ ค่าใช้จ่ายประชาชนเพิ่มสูงแล้ว จะทำให้ความสามารถแข่งขันของไทยลดลง เพราะค่าไฟฟ้าของไทยแพงกว่าค่าไฟฟ้าของประเทศคู่แข่งมาก สาเหตุหลักมาจาก ค่าเชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นสูง จากก๊าซอ่าวไทยที่มีปริมาณลดลง และ มีปัญหาการส่งมอบสัมปทานมาเพิ่มเติม และปัญหาก๊าซจากเมียนมาร์ ทำให้ต้องนำเข้าก๊าซ LNG ที่มีราคาสูง และใช้นำ้มันเตาและน้ำมันดีเซลที่มีราคาสูงเช่นกัน ทำให้ กฟผ. ขาดทุนเกือบ 2 แสนล้านบาทแล้ว นอกจากนี้ยังต้องจ่ายค่าความพร้อมให้กับโรงไฟฟ้าที่สร้างเสร็จแต่ไม่ได้จ่ายไฟฟ้าเพราะมีกำลังการผลิตล้นเกินกว่า 50% ซึ่งยังมีโรงงานไฟฟ้าที่กำลังจะสร้างเสร็จเพิ่มขึ้นอีกเรื่อยๆ ซึ่งจะทำให้ภาระหนักมากขึ้น อีกทั้งยังจะอนุมัติใบอนุญาตไฟฟ้าเพิ่มกันอีกถึง 5,203 เมกกะวัตต์

ทางแก้เรื่องไฟฟ้าสามารถทำได้โดย การเจรจาพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลกับประเทศกัมพูชาตามที่ได้บอกไว้แล้ว นอกจากนั้นน่าจะยังสามารถเจรจาค่าความพร้อมให้ลดลงได้ นอกจากนี้รัฐควรเข้าไปไกล่เกลี่ยกรณีพิพาทการส่งมอบสัมปทานในอ่าวไทยเพื่อให้ส่งมอบก๊าซได้ตามปกติ รวมถึงต้องพยายามให้ประเทศเมียนมาร์กลับสู่ปกติโดยเร็ว การส่งก๊าซธรรมชาติจากเมียนมาร์มาไทยจะได้เป็นปกติ ไม่โดนวางระเบิด เป็นต้น

สำหรับปัญหาราคาก๊าซ LPG หรือ ก๊าซหุงต้มที่แพงนั้น รัฐสามารถที่จะเก็บเงินจากก๊าซ LPG ที่ส่งเข้าธุรกิจปิโตรเคมีได้ ซึ่งในอดีตก็เคยทำมาแล้วในสมัยรัฐบาลเพื่อไทย แต่ถูกยกเลิกไปหลังมีการปฏิวัติ ซึ่งควรต้องนำมาเก็บใหม่ และควรเก็บมากกว่าเดิมด้วย จะได้นำเงินมาลดราคาค่าก๊าซหุงต้มที่ประชาชนใข้อยู่ได้

การแก้ไขราคาพลังงาน ผู้นำต้องมีความรู้เรื่องพลังงานอย่างแท้จริง และ ต้องรู้โครงสร้างราคาพลังงานเพื่อจะได้เข้าไปแก้ไขให้ถูกทาง และจะต้องไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือตกอยู่ใต้อำนาจของบริษัทพลังงาน เพราะหากเป็นเช่นนั้นจะเป็นการลูบหน้าปะจมูก และจะไม่มีทางแก้ปัญหาพลังงานได้ ประชาชนจะยิ่งลำบากกันมากขึ้น

“”เลิศศักดิ์” จี้ แก้ปัญหาหุ้น More กระทบนักลงทุน ชี้ ปัญหาถ่ายทอดบอลโลกสะท้อนความด้อยประสิทธิภาพของรัฐบาล

นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส เลย และคณะทำงานเศรษฐกิจพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า
คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น ภายใต้การบริหารของทีมเศรษฐกิจรัฐบาลพล.อ ประยุทธ์ แก้ปัญหารเรื่องหวยให้คนจนยังไม่สำเร็จ มาเจอปัญหาเรื่องหุ้น ที่อาจจะกระทบกับความเชื่อมั่นของนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศภายใต้การกำกับดูแลของคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (กลต.) และกระทรวงการคลัง เรื่องของมหากาพย์หุ้น MORE ปฎิบัติการปล้นโบรกเกอร์ 4 พันล้านบาท เป็นรูปแบบของการปั่นหุ้น บริษัท มอร์ รีเทินร์น จำกัด ( มหาชน ) และอาศัยวงเงินมาร์จิ้นของโบรกเกอร์ ซื้อขายในราคาโดยผู้ซื้อเพียงรายเดียวผ่านหลายโบรกเกอร์ และสุดท้ายอาจจะจงใจเบี้ยวจ่ายค่าหุ้นซึ่งจะส่งผลให้โบรกเกอร์ได้รับควมเสียหายกว่า 4500 ล้านบาท ยังไม่นับรวมนักลงทุนรายย่อยที่ต้องเสียหายจากราคาหุ้นที่ราคาร่วงลงอย่างหนักในวันเดียว อย่างไรก็ตามนับเป็นโชคดีที่ กลต. ยังแก้ไขปัญหาได้ทัน มีการระงับการจ่ายเงิน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเช่น ปปง. ได้ทำการอายัดทรัพย์ผู้ที่เกี่ยวข้อง

อย่างไรก็ตามก็ขอเรียกร้องให้หน่วยงานที่กำกับดูแล ต้องหามาตรการในการกำกับดูแล เพื่อป้องการการเข้ามาหาประโยชน์ รัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ ประยุทธ์ นายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ ไม่อาจปฎิเสธความรับผิดชอบความเสียหายทางเศรษฐกิจที่อาจจะเกิดกับเศรษฐกิจโดยรวม และพี่น้องประชาชนที่เป็นนักลงทุนรายย่อย เพราะ คณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ เป็นหน่วยงานตาม พรบ.ตลาดหลักทรัพย์ที่นายกรัฐมนตรีต้องเอาใจใส่ดูแลประชาชน ประเด็นต่อเนื่องกันที่อยากจะเตือนให้ระวัง และกำกับควบคุมให้ดีคือกรณีการออกหุ้นกู้ เป็นรูปแบบของตราสารหนี้เพื่อขายให้กับนักลงทุนสถาบัน และรายย่อย ที่ขณะนี้กำลังเป็นที่แพร่หลายสืบเนื่องมาจากอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มขาขึ้น บริษัทในตลาดหลักทรัพย์จึงนิยมออกหุ้นกู้เพื่อการระดมทุน จึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลได้กำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้มงวดในหลักเกณฑ์ในการพิจารณาอนุมัติการออกหุ้นกู้ เพื่อไม่ให้พี่น้องประชาชนที่เลือกออมเงินโดยการซื้อหุ้นกู้ต้องมาเดือดร้อน และได้รับความเสียหาย ดังที่เคยเกิดเหตุการที่บริษัทที่ออกหุ้นกู้มีหนี้สินล้นพ้นตัว ผิดนัดชำระหนี้ และเจ้าของกืจการไม่รับผิดชอบใดๆ มีผู้เสียหายหลายหมื่นคน

อีกประเด็นสำคัญที่ยังต้องพูดถึง แม้ว่ารัฐบาลจะอ้างว่าได้แก้ปัญหาให้ประชาชนที่คาดหวังจะได้ชมการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกที่ประเทศการ์ต้าได้สำเร็จแล้ว โดยนำเงินของพี่น้องประชาชนที่อยู่ในกองทุน กทปส ของกสทช 600 ล้านบาท และยืมเงินจากกองทุนกีฬาชาติเพื่อสำรองจ่ายเป็นค่าลิขสิทธิ์ในการถ่ายทอดสด 33 ล้านเหรียญ หรือ 1200 ล้านบาท และอีก 200 ล้านบาทเป็นค่าใช้จ่าย รวมเป็นเงนกว่า 1400 ล้านบาท รัฐบาลไม่อาจที่จะอ้างความสำเร็จหรือความดีความชอบใดๆจากการถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกในครั้งนี้ได้เลย หากแต่ต้องออกมาขอโทษประชาชนจากความผิดพลาดในการบริหารงานด้านการกีฬา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พล.อ ประวิตร วงษ์สุวรรณ ที่มีตำแหน่งสำคัญหลายตำแหน่งในวงการกีฬาของประเทศเช่น ประธานกองทุนกีฬาชาติ ประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ขาดการเอาใจใส่ดูแล ไม่มีการบูรณาการหน่วยงานกีฬาที่เกียวของเช่น กระทรววงท่องเที่ยวและกีฬา การกีฬาแห่งประเทศไทย ในการวางแผนการทำงาน ปล่อยให้ปัญหาบานปลายจนกระทบกับประชาชนและการกีฬา เช่นปัญหาเรื่องวาด้า ที่ประเทศไทยถูกแบนในการแข่งขันกีฬานานาชาติ ทั้งที่มีเวลาในการแก้ปัญหาล่วงหน้าเป็นปี

แม้กระทั่งเรื่องการเป็นเจ้าภาพจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 ที่ประเทศไทยได้คิวเป็นเจ้าภาพในปี 2568 จนถึงวันนี้ยังไม่ระบุจังหวัดที่จะเป็นเจ้าภาพ ขาดการเตรียมพร้อมที่ดี สุดท้ายก็จะลงเอยเหมือนกรณีวาด้า รวมถึงการถ่สยทอดสดฟุตบอลยูโร หรือฟุบอลโลก ที่การกีฬาแห่งประเทศไทยมักจะอ้างว่าเป็นเรื่องของธุรกิจเอกชน หน่วยงานของรัฐไม่เกี่ยว ซึ่งโดยข้อเท็จจริงแล้วเป็นหน้าที่ของรัฐบาลต้องเร่งรัดแก้ไขปัญหาตั้งแต่เนิ่น โดยการขจัดกฎระเบียบต่างๆที่เป็นอุปสรรคต่อภาคเอกชนในการถ่ายทอดสด เช่นกรณีกฎ MUST HAVE กสทช และท้ายที่สุดเรื่องการนำเงินกองทุนกีฬาชาติมาสำรองใช้ก่อน จากนั้นค่อยไปหาสปอนเซอร์มาสนับสนุน หากมีผลขาดทุนจะเอาเงินจากไหนไปคืนกองทุน รวมถึงปัญหาหาการจัดสรรคู่ถ่ายทอดสดให้เอกชนรายใหญ่ที่เข้ามาสนับสนุน โดยไม่สนใจความรู้สึกของประชาชนที่เป็นเจ้าของร่วมกันของเงิน 600 ล้านบาทที่เอามาจากกสทช