ประยุทธ์ เก็บแต้ม เซอร์ไพรส์ชาวกรุงเทพฯ ลงพื้นที่บางกะปิ ไม่แจ้งให้ทราบล่วงหน้า

กลยุทธ์ใหม่ ‘บิ๊กตู่’ สู้ต่อ ดอด​ลงพื้นที่บางกะปิ​ หลังเข้าทำเนียบเพียง​ 3 ชั่วโมง ‘ลั่น’ ประวัติศาสตร์ต้องทำใหม่ให้ดีขึ้น พร้อมทำปัจจุบันให้มีความสุข ด้าน ‘ฐิติภัสร์’ ปัดข่าวซบรวมไทยสร้างชาติ​

เมื่อวันที่ 21 พ.ย. ที่ทำเนียบรัฐบาล ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม​ เข้าปฏิบัติหน้าที่ในทำเนียบรัฐบาลในเวลา 11.00 น. 3 ชั่วโมง จากนั้น เวลา 14.13 น.ได้เดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาลแต่ไม่ได้กลับบ้านพัก โดยมีรายงานว่านายกรัฐมนตรี​ เดินทางตรวจเยี่ยมพื้นที่ย่านบางกะปิ โดยไม่มีกำหนดการล่วงหน้า และไม่ได้แจ้งให้สื่อมวลชนติดตามภารกิจ

อย่างไรก็ตาม ระหว่างที่พล.อ.ประยุทธ์ อยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล ก็ปฏิบัติงานอยู่เพียงบนตึกไทยคู่ฟ้า เท่านั้น โดยไม่ได้เรียกบุคคลหรือหน่วยงานใดเข้าพบแต่อย่างใด

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเดินทางออกจากทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางลงพื้นที่ที่สนามกีฬาคลองจั่น รวมทั้งศูนย์การเรียนรู้ฯ เพื่อพบปะคณะทำงานร่วมจัดกิจกรรม ระหว่างการเคหะแห่งชาติ กับตัวแทนภาคประชาชน เป็นการส่วนตัว โดยมีน.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ และแกนนำชุมชนคลองจั่นให้การต้อนรับ โดยพล.อ.ประยุทธ์สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวพับแขนพร้อมกางเกงสแล็กแบบสบายๆ มีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสโดยได้มีการทักทายประชาชนและชาวบ้านในพื้นที่อย่างเป็นกันเอง

โดยคณะทำงานร่วมจัดกิจกรรมฯ นี้ตั้งขึ้นเพื่อกำหนดแนวทาง ขอบเขต การจัดกิจกรรม การใช้พื้นที่ วางแผนและพิจารณาพัฒนาพื้นที่สนามกีฬาคลองจั่น และการใช้สนามกีฬาคลองจั่นให้เกิดประโยชน์สูงสุดร่วมกัน ซึ่งถือเป็นพื้นที่นำร่องสร้างการมีส่วนร่วมภาคประชาชนได้มีส่วนร่วมคิด ร่วมทำ และพัฒนาพื้นที่ภายในชุมชนของตนเองร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ

ทั้งนี้ นอกจากพบปะคณะทำงานร่วมฯ และประชาชนภายในพื้นที่เคหะคลองจั่นแล้ว นายกรัฐมนตรียังได้เยี่ยมตรวจสนามกีฬาคลองจั่น และได้พบปะน้องๆ ที่มาฝึกซ้อมฟุตบอลในช่วงหลังเลิกเรียนอีกด้วย

โดยพล.อ.ประยุทธ์ กล่าวตอนหนึ่งว่า ขอให้ทุกคนจำอดีต ปัจจุบัน และอนาคตไว้ วันนี้เราอยู่ตรงกลางคือปัจจุบัน ที่ผ่านมาเป็นประวัติศาสตร์หรืออดีต ส่วนปัจจุบันคือการทำให้ทุกคนมีความสุข ส่วนอนาคตคือการที่เราลงทุนต่างๆ เพิ่มไปสู่อนาคต รองรับการเจริญเติบโตของประเทศ การเจริญเติบโตของบ้านเมือง รวมทั้งชุมชนผู้สูงอายุ ดังนั้นการลงทุนต่างๆ ก็เกิดขึ้นจำนวนมาก ซึ่งนี่คือประโยชน์จากการพูดคุยในเวทีการประชุมโลก ซึ่งจะมีการเข้ามาลงทุนเพิ่มอีกหลายแสนล้านบาท ในการประชุมเอเปคที่ผ่านมาก็ได้มีการพูดคุยกันในหลายระดับ ทั้งในประเทศเองในระดับภูมิภาคและในทั่วโลกซึ่งประเทศแถบยุโรปก็เดินทางเข้ามา และการประชุมทั้งหมดก็ต้องมีข้อตกลงระหว่างกัน เพราะถ้าไม่มีข้อตกลงไม่สามารถที่จะเดินหน้าต่อไปได้ เนื่องจากถือเป็นนโยบายของแต่ละประเทศที่ต้องสอดคล้องกัน

“เพราะฉะนั้นเราทำวันนี้ทั้งหมดก็เพื่ออนาคต วันข้างหน้า แต่ส่วนหนึ่งที่เราทำก็เพื่อวันนี้ อีกส่วนก็ทำเพื่ออนาคตและลูกหลานของเรา และถ้าวันข้างหน้าเราย้อนกลับมาดูก็จะเห็นว่านี่คือประวัติศาสตร์ที่เราทำร่วมกันจนประสบผลความสำเร็จ และแม้เราจะไม่อยู่ ลูกหลานของเราก็อยู่ เพราะฉะนั้นอย่าลืมอดีต ปัจจุบัน อนาคต และนี่คือประวัติศาสตร์อีกช่วงหนึ่ง เพราะฉะนั้นอย่าลืมประวัติศาสตร์ เพราะถ้าเราไม่รู้ประวัติศาสตร์แล้วเราจะรักประเทศไทยของเราได้อย่างไร ไม่รู้จะรักชุมชน พื้นที่ ของเราได้อย่างไร เพราะฉะนั้นเราต้องเรียนรู้สังคม และประวัติศาสตร์ของเราและผมก็เป็นคนเรียนรู้ประวัติศาสตร์ เช่นกัน” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรี​ ในวันนี้​ภายหลังจากก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวจะไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ​

ด้านน.ส.ฐิติภัสร์ กล่าวว่า​ การลงพื้นที่ครั้งนี้ไม่ได้มีการแจ้งล่วงหน้า​ และไม่ได้มีการทาบทามให้ย้ายไปอยู่กับพรรครวมไทยสร้างชาติ​ และยืนยันว่า ไม่มีฝ่ายเสธของพล.อ.ประวิตร​ วงษ์สุวรรณ​ นายกรัฐมนตรี​ ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐโทรศัพท์เช็กเสียงว่าจะอยู่กับพรรค​ต่อหรือจะย้ายไปพรรคอื่นแต่อย่างใด

สำหรับการลงพื้นที่ของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้เป็นการเดินทางไปแบบส่วนตัว ไม่ได้มีหมายกำหนดการล่วงหน้าและไม่ได้แจ้งให้สื่อมวลชนติดตามภารกิจแต่อย่างใด โดยเป็นการลงพื้นที่เพื่อพบปะคณะทำงานร่วมจัดกิจกรรม ระหว่างการเคหะแห่งชาติกับตัวแทนภาคประชาชน โดยคณะทำงานร่วมจัดกิจกรรมฯ จัดตั้งขึ้นเพื่อกำหนดแนวทาง ขอบเขต การจัดกิจกรรม การใช้พื้นที่ วางแผนและพิจารณาพัฒนาพื้นที่สนามกีฬาคลองจั่น และการใช้สนามกีฬาคลองจั่นให้เกิดประโยชน์สูงสุดร่วมกัน ซึ่งถือเป็นพื้นที่นำร่องสร้างการมีส่วนร่วมภาคประชาชนได้มีส่วนร่วมคิด ร่วมทำ และพัฒนาพื้นที่ภายในชุมชนของตนเองร่วมกับหน่วยงานภาครัฐ