ปิดฉาก APEC : “ประยุทธ์” แถลงความสำเร็จ ก่อนส่งไม้ต่อสหรัฐ “ประวิตร” สั่งการดูแลความปลอดภัย ส่งแขก

เมื่อเวลา 12.25 น. วันที่ 19 พ.ย. 2565 ที่ชั้น LG ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม แถลงข่าวในฐานะประธานผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ว่า แสดงความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ได้เสด็จออกทรงรับผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคพร้อมคู่สมรส และแขกพิเศษ ณ พระที่นั่งจักรีมหาปราสาท ในพระบรมมหาราชวัง เมื่อค่ำวันที่ 18 พ.ย. นำมาซึ่งความปลาบปลื้มปีติแก่คณะผู้เข้าร่วมประชุมและคนไทยทุกคน

นายกฯ กล่าวว่า การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 จบลงแล้วด้วยความสำเร็จอย่างงดงาม ตนถือเป็นความสำเร็จร่วมกันของสมาชิกเอเปคทั้งหมด รวมทั้งทีมงานและผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคน ซึ่งทุกคนต้องการเห็นเอเปคยืนหยัดทำงาน เพื่อสร้างการเจริญเติบโตและอนาคตของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก โดยตลอดสัปดาห์ที่ผ่านมานั้น ไทยได้ต้อนรับคณะผู้นำ คู่สมรส แขกพิเศษ ผู้เข้าร่วมประชุม และสื่อต่างชาติ รวมทั้งสิ้นกว่า 5,000 คน ถือเป็นครั้งแรกในรอบ 4 ปีที่ผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปคได้เดินทางมาประชุมร่วมกันแบบพบหน้า

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า ในการประชุมครั้งนี้ ผู้นำเอเปคได้หารือกับแขกพิเศษ ได้แก่ ประธานาธิบดีฝรั่งเศส และมกุฎราชกุมารและนายกรัฐมนตรีซาอุดีอาระเบีย รวมถึงได้พูดคุยกับภาคเอกชนจากสภาที่ปรึกษาทางธุรกิจเอเปค และตนยังได้รับฟังมุมมองของกลุ่มผู้แทนเยาวชนเอเปคจาก APEC Voices of the Future 2022 ด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ทั้งนี้ มีการกล่าวถึงอาวุธนิวเคลียร์ในที่ประชุมไทย ในฐานะเจ้าภาพเอเปค ตนเชื่อว่าทุกคนต่างมีข้อห่วงใยและกังวลในเรื่องดังกล่าว จึงได้มีการพูดจาหารือกัน นอกจากนี้ ตนและผู้นำเอเปคได้รับรองปฏิญญาผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ค.ศ.2022 ซึ่งสะท้อนให้เห็นการทำงานของเอเปค 2022 ตลอดทั้งปี ที่มีแนวคิดเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว หรือแนวคิดเศรษฐกิจ BCG เป็นเครื่องยนต์ขับเคลื่อน ภายใต้หัวข้อหลัก “เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์ เชื่อมโยงกัน สู่สมดุล” มีผลลัพธ์ ดังนี้

1.”เปิดกว้างสร้างสัมพันธ์” เอเปคได้จัดทำแผนงานต่อเนื่องหลายปี เพื่อสานต่อการหารือเรื่องเขตการค้าเสรีเอเชีย-แปซิฟิก FTAAP ในบริบทของโลกยุคหลังโควิด-19 เพื่อเตรียมความพร้อมรับมือกับประเด็นการค้าการลงทุนใหม่ๆ

2.”เชื่อมโยงกัน” เอเปคได้ฟื้นฟูการเดินทางข้ามแดนระหว่างกันอย่างปลอดภัย และไร้รอยต่อ เพื่อสร้างความพร้อมรับมือวิกฤติใหม่ในอนาคต และ 3.”สู่สมดุล” ผู้นำเอเปคทุกคนได้ร่วมกันรับรอง “เป้าหมายกรุงเทพฯ ว่าด้วยเศรษฐกิจบีซีจี” เพื่อวางรากฐานในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก อย่างครอบคลุม ยั่งยืน และเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างเป็นระบบ ซึ่งโอกาสนี้เอเปคได้ร่วมเปิดตัวเว็บไซต์ bangkokgoals.apec.org อีกด้วย

“การเป็นเจ้าภาพเอเปคปี 2565 ของไทยได้เสร็จสิ้นลงแล้ว ผมได้ส่งมอบหน้าที่นี้แก่สหรัฐอเมริกา ที่จะเป็นเจ้าภาพเอเปคในปี 2566 ผมมั่นใจว่าสหรัฐฯ จะสานต่อภารกิจที่ไทยได้เริ่มไว้ โดยเฉพาะเรื่องการส่งเสริมการเติบโตอย่างครอบคลุมและยั่งยืนในภูมิภาค” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว

ประวิตร ขอบคุณ เจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ช่วยดูแลความปลอดภัย ผู้นำประเทศ เข้าร่วม เอเปค ผ่านพ้นด้วยดีสร้างชื่อเสียงประเทศ

19 พ.ย.65 พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุมกองอำนวยการร่วมรักษาความปลอดภัยและการจราจร ครั้งที่ 6/65 (กอร.รปภ.จร.) โดยมี พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร./รองประธาน ผบ.ทก.สน.ปฏิบัติการภายใต้ กอร.รปภ.จร. ประจำสถานที่ประชุม APEC ประจำโรงแรมที่พัก และ ทก.สน.ปฏิบัติการเฉพาะด้าน เข้าร่วมประชุม ณ มูลนิธิป่ารอยต่อ 5 จังหวัด และ กอร.รปภ.จร. สำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยผ่านระบบการประชุมทางไกล ไปยัง ศูนย์ปฏิบัติการส่วนหน้า (ศปก.สน.) และ ที่ทำการส่วนหน้าที่ (ทก.สน.) ปฏิบัติการประจำสถานที่ที่เกี่ยวข้องกับการประชุม

พลเอกประวิตร กล่าวว่าการประชุมวันนี้ เป็นการติดตามสถานการณ์ และการปฏิบัติของหน่วยได้แก่ การประชุม ของผู้นำเขตเศรษฐกิจ และการเดินทางกลับ ของผู้นำ และคู่สมรส 12 เขตเศรษฐกิจ จึงต้องให้ความสำคัญ ในเรื่องการรักษาความปลอดภัย และการจราจร ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย รองนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำทุกหน่วยให้ความสำคัญกับการรักษาความปลอดภัย ในห้วงสุดท้าย ของการประชุม ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด และ อำนวยการ จราจร ให้เป็นไปด้วยความเรียบร้อย เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และ ความประทับใจให้กับผู้นำ และ คู่สมรสที่จะเดินทางกลับประเทศตลอดห้วง ระยะเวลาที่เราได้ปฏิบัติภารกิจร่วมกันมา ขอขอบคุณรัฐมนตรีช่วยว่าการ กระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงกลาโหม
ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการเหล่าทัพ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ หัวหน้าหน่วย ผู้แทนหน่วยทุกท่าน ตลอดจนฝากขอบคุณไปยังกำลังพล และเจ้าหน้าที่ทุกคนที่ได้ร่วมแรงร่วมใจกันปฏิบัติหน้าที่อันมีเกียรติ และมีความสำคัญต่อประเทศชาติ และประชาชนชาวไทยเป็นอย่างยิ่งในครั้งนี้ ขอให้มีความภาคภูมิใจร่วมกัน และขอให้เดินทางกลับที่ตั้งหน่วยโดยสวัสดิภาพทุกคน