ข่าวเด่น

ไทม์ไลน์ ม็อบ 18 พ.ย. ปะทะเดือด ตร.ใช้กระสุนยางระยะประชิด จับผู้ชุมนุมหลายราย

เผยแพร่

ไทม์ไลน์ ม็อบ 18 พ.ย. ปะทะเดือด ตร.ใช้กระสุนยางระยะประชิด จับผู้ชุมนุมหลายราย

เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน มติชนออนไลน์รายงาน กลุ่มราษฎรและเครือข่าย ในนาม ราษฎรหยุด APEC 2022 เดินเท้าไปยังศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อเรียกร้องให้มีการหยุดการประชุมเอเปค ขณะที่บริเวณหัวมุมถนนศิริพงษ์ ข้างลานคนเมือง มีเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชน (คฝ.) ตั้งแถวพร้อมโล่ประจำการ ในขณะที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยมีเจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนประจำการอยู่บริเวณหน้าร้านแมคโดนัลด์ประมาณ 20 นาย

เวลา 08.32 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเริ่มตั้งขบวน โดยหัวขบวนเริ่มตั้งแถวบริเวณเสาชิงช้า ตามด้วยประชาชนจากกลุ่มภาคต่างๆ โดยกลุ่มนีโอล้านนาจากเชียงใหม่ ตีกลองสะบัดชัย

เวลา 08.44 น. พ.ต.อ.ทศพล อำไพพิพัฒน์กุล ผกก.สน.สำราญราษฎร์ กล่าวว่า ไม่อนุญาตให้มีการเดินขบวนหรือเคลื่อนย้ายผู้ชุมนุมออกจากลานคนเมือง ไปยังศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อความปลอดภัยของผู้ชุมนุม และภาพลักษณ์ของประเทศไทย

เวลา 08.53 น. ขณะที่ผู้ชุมนุมกำลังตั้งขบวนอยู่ที่บริเวณถนนดินสอหน้าลานคนเมือง เจ้าหน้าที่ คฝ.ได้ตรึงกำลังพร้อมโล่ตั้งแนวรอรับผู้ชุมนุม และมีรถตู้ตำรวจ 2 คัน

เวลา 09.08 น. ด้านกลุ่มผู้ชุมนุมซึ่งยังคงตั้งขบวนหน้าแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจบริเวณถนนดินสอ มุ่งหน้าอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย พากันตีกลอง โห่ร้องตลอดช่วง โดยนายบารมีกล่าวว่า “ตำรวจออกไป” หลายครั้ง พร้อมกับผู้ชุมนุมขานเสียงรับ และประกาศว่าปราศจากอาวุธ

เจ้าหน้าที่ตำรวจย้ำอีกครั้งว่า จุดนี้เป็นจุดเจรจาด่านสุดท้าย เวลา 09.13 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนประชิดแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจ กลุ่มผู้ชุมนุมรื้อรั้วเหล็กออก

เวลา 09.14 น. กลุ่มผู้ชุมนุมได้ทำการพังแนวกั้นของตำรวจแล้วเดินเท้าต่อไป

เวลา 09.18 น. กลุ่มผู้ชุมนุมเดินมาถึงบริเวณแนวกั้นของเจ้าหน้าที่ตำรวจก่อนถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย โดยมีรถตำรวจขวางอยู่ 3 คัน และเจ้าหน้าที่ คฝ.พร้อมโล่และอาวุธประมาณเกือบร้อยนาย

เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศผ่านลำโพงย้ำให้กลุ่มผู้ชุมนุมกลับไปที่ลานคนเมือง โดยบอกว่าการพังรั้วแนวกั้นของตำรวจและการฉีดพ่นสีสเปรย์ลงบนถนนเป็นความผิด ผู้ชุมนุมได้ทำการพ่นสีใส่รถตำรวจ

ตำรวจสั่งให้ผู้ชุมนุมและสื่อออกจากแนวกั้นทั้งหมด

เวลา 09.24 น. นายจำนงค์ หนูพันธ์ ประธานคณะกรรมการบริหารพีมูฟ ประกาศผ่านรถขยายเสียงว่า ตอนนี้รู้สึกเบื่อกับเจ้าหน้าที่ แต่ไม่ได้เบื่อพี่น้องประชาชนที่ไม่ยอมเข้าใจว่านี่คือประเทศไทยประชาธิปไตย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่มีความเป็นผู้นำ และเหมาะที่จะเป็นประธานการประชุมผู้นำเอเปค ขอให้เจ้าหน้าที่ขยับเปิดทาง และหยุดข่มขู่กันได้แล้ว

นางสาวภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ หนึ่งในแกนนำ กล่าวว่า เมื่อครู่ ทราบว่ามีการประกาศให้ปลดอาวุธแสดงว่ามีความพร้อมในการใช้ความรุนแรงหรือไม่ พวกตนยืนยันจะต้องเดินทางไปให้ได้ ไม่ว่าตำรวจจะสกัดกั้นอย่างไรก็ตาม และเมื่อครู่จะมีการเจรจาแต่ตำรวจไม่ยอมเจรจา

เวลา 09.29 น. เจ้าหน้าที่ คฝ.ขยับเข้าใกล้แนวรถเครื่องเสียงของกลุ่มราษฎรมากยิ่งขึ้น โดยเตรียมรถจับกุมเข้ามาจอดรอบริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย

เวลา 09.32 น. นางวรรรณ แซ่อั้ง หรือ ป้าเป้า ได้ฝ่าแนวกั้นออกไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงทำการจับกุมไว้ กลุ่มผู้ชุมนุมจึงทำการส่งเสียงว่า ‘ปล่อยป้าเป้า’

 

เวลา 09.36 น. หนึ่งในแกนนำ ประกาศให้สื่อมวลชนขึ้นบนทางเท้า พร้อมยื่นข้อเสนอให้เจ้าหน้าที่ถอนกำลังทั้งหมดออกไปทันที และทำการเปิดเส้นทางให้ผู้ชุมนุมเดินทางไปยังศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ภายใน 10 นาที เกินกว่านี้ไม่ต้องเจรจา

เวลา 09.38 น. มีการขอให้สื่อมวลชนหลบเข้าไปฟุตปาธเพื่อขอพื้นที่ด้านหน้าให้ผู้ชุมนุม

เวลา 09.45 น. นายบารมี ชัยรัตน์ ผู้ประสานงานสมัชชาคนจน กล่าวว่า ครบ 10 นาทีแล้ว ให้สื่อมวลชนถอยออกไป แล้วให้การ์ดขยับเข้าหาตำรวจ

เวลา 09.47 น. เจ้าหน้าที่คฝ.และกลุ่มราษฎรหยุดเอเปคปะทะกันบริเวณหัวมุมถนนดินสอ ผู้ชุมนุมมีการปาขวดน้ำ เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้โล่และกระบองฟาด ผลักดันกัน

เวลา 09.56 น. กลุ่มผู้ชุมนุมประชิดแนวกั้นอีกครั้งหลังปะทะ คฝ.

เวลา 10.05 น. ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือ มายด์ ขึ้นรถปราศรัย กล่าวว่า ตำรวจละเมิดสิทธิประชาชน หลังเกิดการปะทะบริเวณหัวมุมถนนดินสอ เมื่อเวลา 09.47 น. เป็นครั้งแรก

เวลา 10.09 น. เกิดการปะทะระหว่างคฝ.และม็อบราษฎรอีกครั้ง ราษฎรปาสี ตร.รวบผู้ชุมนุมอย่างน้อย 2 ราย

เวลา 10.12 น. คฝ. ยิงกระสุนยาง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีคฝ. เล็งปืนบรรจุกระสุนยางมาทางสื่อมวลชนเพื่อให้ถอย คฝ. เตะผู้ชุมนุมรายหนึ่ง พร้อมลากไปตามถนน ขณะ พระสงฆ์ขยับมาเป็นแนวหน้าม็อบ น.ส. ภัสราวลี หรือมายด์ กล่าวบนรถปราศรัยว่า ‘ยิงกระสุนยางใช้ประชาชนมือเปล่าทำไม’

เวลา 10.18 น. จำนงค์ หนูพันธ์ ปธ.พีมูฟ ประกาศให้ผู้ชุมนุมหยุดขว้างปาขวดน้ำใส่ตำรวจ

เวลา 10.21 น. ตำรวจนำรถจับกุมมาเสริมแนวกั้นขอกำลังผู้ชาย 30 คน จากขบวนด้านหลังขึ้นมาแนวหน้า

ธนพร วิจันทร์ เครือข่ายแรงงานฯ ยืนยันว่าจะเดินทางไปที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์เพื่อยื่นหนังสือ

“ถ้าเปิดทางให้เข้าไปก็จบแล้ว ประชาชนห่วงใยประเทศ จะไม่แยกย้ายกลับจนกว่าจะได้ยื่นหนังสือที่ศูนย์สิริกิติ์

เวลา 10.30 น. น.ส.ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล หรือมายด์ หนึ่งในแกนนำราษฎรหยุด APEC 2022 ถือกระสุนยาง กล่าวกับสื่อมวลชนทั้งน้ำตาว่า นี่คือหลักฐานที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทำกับประชาชนมือเปล่า

“ตำรวจหาเรื่องที่จะยิงกระสุนยางใส่พวกเรา ทั้งๆที่พวกเราไม่มีอาวุธ พวกเราไม่ได้จะทำร้ายพวกเขา พวกเขาบอกจะเปิดทางให้พวกเราเพื่อเดินไปยื่นข้อเสนอ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นภายใต้การทำงานของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เจ้าหน้าที่ตำรวจไม่มีกระดูกสันหลัง และเลือกที่จะใช้ความรุนแรงกับประชาชน มีผู้ชุมนุมที่บาดเจ็บจากกระสุนยางทั้งหมด 5 คน และคนที่โดนจับอีกนับไม่ถ้วน

“เราขอประณามการทำงานของตำรวจ ขอประณามการทำงานที่อยู่ภายใต้รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ทำร้ายเรามาโดยตลอด และเราขอส่งสารไปถึงผู้นำทั้งหลายที่ประชุมอยู่ว่านี่คือสิ่งที่รัฐบาลทำกับพวกเรา เราจึงไม่ให้การยอมรับ เราจึงออกมาต่อต้าน ให้ผู้นำแต่ละประเทศส่งตัวแทนมาสั่งเกตการณ์ว่าเราถูกกระทำอย่างไรบ้าง” น.ส.ภัสราวลี กล่าว

เวลา 10.32 น. ตำรวจประกาศให้เวลาผู้ชุมนุม 30 นาที แก้ไขการชุมนุมให้ถูกต้องตามกฎหมายคือ กลับไปที่ลานคนเมืองและเมื่อหมดเวลาจะเริ่มจับกุม ผู้ชุมนุมยังไม่ถอย

เวลา 10.57 น. ผู้ชุมนุมประกาศว่า เราจะนั่งอยู่ตรงนี้จะไม่กลับไปที่ลานคนเมือง เราจะไม่ยั่วยุใดๆทั้งสิ้น ระหว่างนี้ตำรวจประกาศแทรกเรื่อยๆ

เวลา 10.59 น. ตำรวจประกาศว่า เราจะดำเนินการปรับแนวไม่ได้จะทำอะไรกับพี่น้อง ขณะที่เสียงตำรวจอีกแนวหนึ่งบอกว่า ปรับแนวแล้วเชิญสื่อออกไป

เวลา 11.00 น. ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน เปิดเผยว่า มีรายงานผู้ถูกจับกุมจากการชุมนุมดังกล่าว ว่าถูกนำตัวไปยัง สน.ทุ่งสองห้อง อย่างน้อย 6 ราย และยังมีการนำตัวไปเพิ่มอีก ขณะนี้ทนายความกำลังติดตามไป หนึ่งในนั้นคือ นางวรวรรณ แซ่อั๊ง หรือป้าเป้า

ทั้งนี้ สน.ทุ่งสองห้อง ไม่ใช่สถานีตำรวจในท้องที่เกิดเหตุ

เวลา 12.32 น. ข้างป้อมพระสุเมร จนท. นำตู้คอนเทนเนอร์มาวางกีดขวางเส้นทางของผู้ชุมนุมและเอาไวนิลลายพญานาคมาติดบังไว้

เวลา 12.37 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ทวีตข้อความผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัว @ingshin ระบุว่า การแสดงความเห็นแบบสันติ ปราศจากอาวุธของประชาชนเช่นนี้ รัฐไม่ควรใช้ความรุนแรงกับประชาชน โดยเฉพาะการใช้กระสุนยางในระยะประชิด

เวลา 12.45 น. เกิดเหตุปะทะอีกครั้ง เมื่อตำรวจฉีดโฟมใส่กลุ่มผู้ชุมนุมที่ทำกิจกรรมเผาพริกเผาเกลืออยู่ ทำให้เกิดการขว้างปาสิ่งของ และตำรวจได้บุกเข้าสลายการชุมนุม และมีการจับกุมผู้ชุมนุมอย่างน้อย 2 คน ทราบชื่อ 1 คน คือ บารมี ชัยรัตน์ แกนนำกลุ่มสมัชชาคนจน

เวลา 12.40 น. วรัญญู คงสถิตย์ธรรม หรือบุ๊ค นักข่าวพลเมืองในโครงการ Journalism that Builds Bridges ของ The Isaan Record ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนจับกุมขณะรายงานสดทาง FB Live ยังไม่ทราบว่า นำตัวไปที่ไหน

เวลา 12.50 น ฝั่งถนนอัษฎางค์ จนท.ได้นำตู้คอนเทนเนอร์มาวางขวางสะพานช้างโรงสี พร้อมคลุมไวนิลรูปวัดอรุณ

เวลา 13.21 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจขอความร่วมมือสื่อมวลชนแยกย้ายไปทำข่าวที่มีประโยชน์ต่อสังคม

เวลา 13.31 น. บริเวณถนนดินสอ จนท.นำตู้คอนเทนเนอร์มาตั้ง

เวลา 14.19 น. พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ทวิตข้อความว่า “APEC2022THAILAND ควรเป็นการประชุมที่เปิดกว้าง และโอบรับความเห็นที่แตกต่างหลากหลายไม่ใช่เป็นการประชุมที่ต้องใช้ความรุนแรงทำร้ายประชาชนอย่าง เกินเหตุ ผิดหลักการและไร้ความจำเป็น เพียงเพื่อให้ใครได้ถ่ายรูปกับผู้นำชาติอื่นอย่างสบายใจ”

“พรรคก้าวไกลเรากำลังติดตามเหตุการณ์อย่างใกล้ชิด โดยมี ส.ส.ของพรรคอย่าง รังสิมันต์ โรม เบญจา แสงจันทร์ สุทธวรรณ สุบรรณ ณ อยุธยา ส.ส.นครปฐม ที่ได้เข้าไปสังเกตการณ์ยังพื้นที่ชุมนุมรวมถึงสถานที่ที่ตำรวจนำตัวผู้ชุมนุมไปควบคุมไว้ครับ”

เวลา 14.49 น. ที่ สน.ทุ่งสองห้อง นายรังสิมันต์ โรม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ได้เดินทางมาเข้าพบผู้ชุมนุมที่ถูกจับกุมตัวมาไว้ที่ สน.ทุ่งสองห้อง โดยได้สอบถามเจ้าหน้าที่ตำรวจเกี่ยวกับเรื่องการคุมตัวผู้ต้องหา ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจจะอนุญาตให้เข้าไปใน สน.โดยไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปในเขต สน.

เวลา 15.12 น. ทีมงานคณะราษฎรหยุดเอเปค 2022 ทำการรื้อถอนป้ายบนเวทีออก

มีการจับกุมบุคคลอย่างน้อย 25 ราย ควบคุมตัวไว้ที่ สน. ทุ่งสองห้อง ดังนี้

1.นางวรวรรณ แซ่อั้ง (ป้าเป้า)
2.นางยุพา ฤทธินาคา
3.นางสาวรุ่งทิวารัตน์ ภูนกยูง
4.นายพิชัย เลิศจินตวงษ์
5.นายหัสสะ เกสรินทร์
6.นายเอเชีย รัทมหาวิรุฬห์ก่อน
7.นายณัฐพล ไพลิน
8.นายเปาฤทธิ์ แย้มยิ้ม
9.นายวิทยา ไชคำหล้า
10.นายพิภู มีศรี
11.นายบารมี ชัยรัตน์ กลุ่มสมัชชาคนจน
12.นายพลาธิป ดำมีศรี
13.นายวรัญญู คงสถิตย์ธรรม
14.นางสาวกัญญาณี กวางทองดี
15.นายณัฐภูมิ สระทองออ
16.นายชาติชาย ธรรมโม
17.นายอารัติ แสดงอุบล
18.นายณัฐวุฒิ อุปปะ แกนนำเอ็นจีโอภาคเหนือตอนล่าง
19.นายเจกะพันธ์ พรหมมงคล
20.นายดาวดิน ชาวหินฟ้า (สมณะดาวดิน)

21.นายกำลังใจ ประจงภักดี
22.นายองอาจ นนทศิริ
23.นายขุนไกล บุญเกิด
24.นายโอภาส คำพระ
25.นายไพฑูรย์ สร้อยสด

 

 

….รายงานข่าวชิ้นนี้ยังอยู่ระหว่างการอัพเดตข้อมูลต่อเนื่อง…..