ปิดช่องรัฐบาลชิงยุบสภาหลังเอเปค! ‘ฝ่ายค้าน’ จ่อยื่นญัตติอภิปรายม.152 กลางเดือนพ.ย.

‘ฝ่ายค้าน’ เตรียมยื่นญัตติอภิปรายม.152 กลางเดือน พ.ย. ปิดช่องรัฐบาลชิงยุบสภาหลังเอเปค เน้นนโยบายเร่งด่วน 12 ข้อ โดยเฉพาะยาเสพติด บ่อน และผู้มีอิทธิพล

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 ตุลาคม โรงแรม อมารี ดอนเมือง แอร์พอร์ต กรุงเทพฯ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) ให้สัมภาษณ์ในฐานะผู้ฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 152 ของพรรคร่วมฝ่ายค้าน ว่า จากเดิมที่เห็นว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องด่วนจะยื่นตั้งแต่เปิดสภา แต่มีเหตุการจำเป็นที่จะต้องนำเรื่องด่วนมากกว่ารือญัตติด่วนเรื่องโศกนาฏกรรมที่หนองบัวลำภูและปัญหาน้ำท่วมซ้ำ.าก จึงจำเป็นต้องเลื่อนการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปตามมาตรา 152 ไปเป็นช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน คาดว่าเป็นช่วง 15-16 พฤศจิกายน และคาดว่าจะได้อภิปรายในช่วงกลางเดือนธันวาคม

นพ.ชลน่าน กล่าวว่า การยื่นอภิปรายตามมาตรา 152 เป็นการตรวจสอบการบริหารราชการแผ่นดิน สอบถามปัญหาและเสนอแนะแนวทางให้ผู้บริหารนำไปปรับใช้ โดยยอมรับว่ามีความกังวลว่าการอภิปรายในช่วงเวลาดังกล่าวอาจไม่ได้รับความสนใจจากประชาชนเท่าที่ควรเนื่องจากเป็นช่วงเทศกาลท่องเที่ยวปลายปี แต่เมื่อดูสถานการณ์ปัจจุบัน หากไม่ยื่นอภิปรายในช่วงนี้ก็อาจไม่มีโอกาสอภิปราย เพราะอาจมีอุบัติเหตุทางการเมืองหลังการประชุมเอเปค เช่น มีการยุบสภาเกิดขึ้นในช่วงวันที่ 24 ธันวาคมตามกระแสข่าว จึงใช้เงื่อนไขนี้มาประเมินช่วงเวลาในการยื่นอภิปราย ซึ่งในการอภิปรายยุคนี้มีข้อดี ไม่จำเป็นต้องรอฟังสด แต่ประชาขนสามารถย้อนดูได้ผ่านสื่อต่างๆ ดังนั้นไม่ว่าจะอยู่ตรงไหนก็สามารถติดตามการอภิปรายได้

เมื่อถามถึงความมั่นใจว่าจะมีการยุบสภาในวันที่ 24 ธันวาคม นพ.ชลน่าน กล่าวว่า เป็นเพียงการคาดการณ์ ไม่มีใครรู้เพราะผู้มีอำนาจยุบสภาคือนายกรัฐมนตรี แต่ด้วยสถานการณ์ทางการเมืองก็มาประมวลภาพรวมว่าน่าจะมีการยุบสภาเกิดขึ้นก่อนครบวาระ ซึ่งมีความมั่นใจ 90 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งหากมีการยุบสภา ก็เนื่องจากเป็นช่วงที่รัฐบาลจะได้ประโยชน์มากที่สุด ทั้งในเรื่องการเลือกตั้งที่ประชาชนไว้วางใจให้ทำหน้าที่ต่อ และต้องมีมาตรการที่ทำให้ประชาชนเชื่อมั่น เช่นของขวัญปีใหม่จากงบประมาณแผ่นดิน จัดโครงการแจกแถม เช่น การเร่งให้ลงทะเบียนบัตรสวัสดิการแห่งรัฐในตอนนี้ เมื่อโครงการเหล่านี้ได้ดำเนินการแล้ว ก็จะเป็นประโยชน์กับรัฐบาลในช่วงที่มีการยุบสภา สำหรับเนื้อหาที่จะยื่นอภิปราย จะใช้กรอบนโยบายเร่งด่วน 12 ข้อของรัฐบาลเป็นหลัก ซึ่งจะมีรายละเอียดครอบคุมทุกมิติ โดยจะเจาะลึกข้อเท็จจริงในประเด็นต่างๆ โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด บ่อนและการปราบปรามผู้มีอิทธิพล