“ทูตรัศม์” ไล่รัฐบาลรับยาช่องสาม หลงตัวเองขั้นสุด อยากเด่นในเวทีโลกแต่สภาพจริงตกต่ำ

เมื่อวานนี้ (8 ตุลาคม 2565) รัศม์ ชาลีจันทร์ อดีตเอกอัครราชทูตและเจ้าของเพจ “ทูตนอกแถว” ได้ออกมาแสดงความคิดเห็นความหลงตัวเองแบบไม่ยอมรับความจริงของรัฐบาลไทยที่พยายามดันตัวเองมีบทบาทในเวทีโลก ทั้งที่แสดงจุดยืนประเด็นระหว่างประเทศและปัญหาภายในที่ทำให้ภาพลักษณ์ไทยในสายตาโลกตกต่ำต่อเนื่องว่า

รับยาช่องสามหน่อยครับ

อาการหนึ่งของเหล่าเผด็จการเสพติดอำนาจที่มักเป็นกันมากคืออาการปฏิเสธความจริงและหลอกตัวเองไปวันๆ ล่าสุดที่เป็นเอาหนักคือ ปธน. ปูติน ที่ยังหลงละเมอในแสนยานุภาพของกองทัพรัสเซีย แต่ไม่ได้ดูหรือยอมรับสถานการณ์การสู้รบและเงื่อนไขต่างๆในพื้นที่ตามความเป็นจริงเลย
.
ยังคงเดินหน้าเกณฑ์ชายรัสเซียเข้าสู่สงครามนี้เพิ่มอีก ทั้งที่ส่วนใหญ่ไม่ได้มีสภาพร่างกายและจิตใจพร้อมรบ ไหนจะปัญหาอาวุธยุทโธปกรณ์ที่ล้าหลัง ตลอดจนเรื่องการบริหารจัดการเส้นทางลำเลียงเสบียงพลต่างๆ ฯลฯ ซึ่งไม่ต่างอะไรกับการส่งทหารรัสเซียไปตายเพิ่มแท้ๆ เพื่อสนองอัตตาตนเองแค่นั้น
อาการหลอกตัวเองแถวๆนี้ก็มีให้เห็นกันประจำ ชนิดไม่ได้ตักน้ำชะโงกดูเงาสภาพตนเองเลย แค่นจะไปสมัครคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติ (UNHRC) อีก ซึ่งที่จริงในปี 2557 ก็เคยเสนอหน้าไปสมัครและหน้าแตกกลับมาครั้งหนึ่งแล้ว โดยได้คะแนนที่โหล่จากกลุ่มประเทศเอเชียห้าประเทศ จึงไม่ได้รับเลือกตั้งเป็นสมาชิกกับเขา ซึ่งส่วนหนึ่งก็เพราะเขารังเกียจรัฐบาลเผด็จการที่เที่ยวปล้นอำนาจประชาชนมานั่นเอง
ล่าสุดไม่กี่วัน คงนึกว่าชาวโลกเขาลืมกันง่าย ก็ไปเสนอหน้ายื่นสมัครใหม่อีก จนองค์สิทธิอย่างฟอร์ติฟายไรทส์ต้องออกมาตอกหน้าให้รัฐบาลไทยหยุดละเมิดและรู้จักเคารพสิทธิมนุษยชนในประเทศเสียก่อนที่จะมาสมัคร พอดีเรื่องนี้เกิดขึ้นที่เวทีสหประชาชาติ เราจึงอาจเปรียบได้เหมือนกับการถูกลากเอามาตบหน้ากลางสี่แยกทางหลวงระดับนานาประเทศนะครับ
แล้วก็ยังหลอกตัวเองว่าประเทศไทยเนื้อหอม (ทั้งที่เหม็นโฉ่) อันเป็นผลมาจากการบริหารประเทศในแปดปีที่ไร้ประสิทธิภาพที่ทำให้มีแต่ความตกต่ำในทุกด้าน ไม่ว่าเศรษฐกิจ การเมือง สังคมฯลฯ
เรื่องปราบโกง ก็หลอกตัวเองไปวันๆ เพราะถ้าขนาดผู้นำยังไม่ยอมเปิดเผยทรัพย์สินส่วนตัวแล้วจะไปหลอกใครได้อีก
.
เรื่องความสงบที่คุยนักคุยหนาก็ไม่ได้มีอยู่จริง
เหตุการณ์กราดยิงที่ จ. หนองบัวลำภูล่าสุด นับเป็นอีกหนึ่งตัวชี้วัดให้เห็นถึงระดับความตกต่ำของสภาพสังคมไทยในปัจจุบัน
ล่าสุดสื่อที่ชื่อ The Diplomat ที่เป็นสื่อด้านการต่างประเทศก็ออกมาตอกย้ำสถานะความตกต่ำของไทยในการจัดประชุมเอเปค 2022 ที่ชี้ว่านอกจากผู้นำสหรัฐฯแล้ว ของรัสเซียก็คงไม่มาเช่นกัน
(แต่เขาไป G 20 บาหลี อินโดนีเซียกันนะ)
เรื่องของผลงาน เรื่องภาพลักษณ์ของประเทศนั้น มันไม่ใช่ว่าเราจะเที่ยวมาพูดเองเออเองได้อย่างที่แถวนี้ชอบทำ จนเผลอหลงเชื่อไปเอง แต่ต่างประเทศเขาพิจารณาจากสภาพความเป็นจริงทั้งหมด จากดรรชนีและข้อมูลต่างๆ จากการรายงานขององค์กรต่างๆ รวมทั้งการประเมินสถานเอกอัครราชทูตของเขาเป็นหลักด้วย
มันไปหลอกคนทั้งโลกเขาไม่ได้หรอกครับ ว่าสภาพประเทศเราเป็นเช่นไร ถ้ามันดีจริง เขาก็เห็น แค่ถ้าไม่ใช่ มันก็อย่างที่รู้ๆกันนั่นแหละ
.
แต่การมัวแต่หลอกตัวเองนานๆเข้า ระวังจะหลอนนะครับ
.
แล้วตัดไปที่ภาพการเกณฑ์ญาติผู้เสียชีวิตที่หนองบัวลำภูต้องมานั่งรอถือป้ายต้อนรับผู้บริหารรัฐบาล มันมีสำนึกในมนุษยธรรมหรือสะท้อนความตระหนักถึงสิทธิอะไรบ้าง? อันที่จริงเรื่องเช่นนี้มันน่าอับอายด้วยซ้ำ เรื่องแค่นี้ยังคิดไม่ได้ ก็ไม่ต้องหาสมัครอะไรหรอกครับ
.
และที่คิดว่าจะได้ภาพความสง่างามของความเป็นผู้นำไทยคอยต้อนรับบรรดาผู้ประเทศต่างอย่างสมเกียรติสมศักดิ์ศรีในช่วงการประชุมเอเปคอะไรนั้น
.
เชิญรับยาเถอะครับ