พ่อแม่เหยื่อสังหารหมู่ศูนย์เด็กเล็ก ถือขวดนม-กอดผ้าห่ม วางกุหลาบอาลัย 37 ร่างผู้เสียชีวิตถึงหนองบัวลำภู หลังชันสูตรทั้งหมด กทม. สั่งเข้ม ‘ตรวจศูนย์เด็ก 24 ชม.’ จ่อซักซ้อมรับมือบุกทำร้าย

 

เมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 7 ตุลาคม ที่องค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ครอบครัว ญาติ ของผู้เสียชีวิต และเจ้าหน้าที่ อบต. ต่างเดินทางมาติดตามสถานการณ์ในพื้นที่ โดยบรรยากาศเป็นไปด้วยความโศกเศร้า ญาติ ๆ ต่างทำใจไม่ได้ ร้องไห้ระงม

บางครอบครัวกอดผ้าห่มและขวดนมของลูก พ่อแม่กอดกันร้องไห้แทบขาดใจ เช่นเดียวกับญาติของผู้สูญเสียอีกหลายครอบครัวที่ต่างร่ำไห้ และกอดให้กำลังใจกันและกัน โดยมีเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาสังคมและนักสุขภาพจิต ได้ดูแลอย่างใกล้ชิด

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เหล่าบรรดาญาติๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่ อบต. ได้นำดอกกุหลาบสีขาวคนละดอก ไปวางบริเวณหน้าศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ด้วยความโศกเศร้า เสียงร่ำไห้ระงม

ทั้งนี้ นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ปฏิบัติหน้าที่โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมพร้อมคณะมีกำหนดการลงพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู โดยมีกำหนดการ เวลาประมาณ 15.20 น. นายกรัฐมนตรีติดตามสถานการณ์และเยี่ยมให้กำลังใจผู้บาดเจ็บและครอบครัวผู้เสียชีวิต ณ อบต.อุทัยสวรรค์ จากนั้น นายกรัฐมนตรีเป็นประธานประชุมสรุปสถานการณ์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ณ องค์การบริหารส่วนจังหวัดหนองบัวลำภู และตรวจเยี่ยมให้กำลังใจผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์โศกนาฏกรรมกราดยิง ณ โรงพยาบาลหนองบัวลำภู

ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เดินทางไปเยี่ยมผู้ได้รับบาดเจ็บ ที่ห้องไอซียู หอผู้ป่วยศัลยกรรมประสาท โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี และเดินทางไปที่แผนกนิติเวช ที่ชันสูตรศพเหยื่อ 37 ศพ โดย นายอนุทิน เปิดเผยว่า ได้ชันสูตรเสร็จแล้ว โดยแพทย์นิติเวชมาจากโรงพยาบาลลำปาง โรงพยาบาลสกลนคร โรงพยาบาลเลย โรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ครั้งแรกคิดว่าจะระดม 10 คน แต่ได้ 6 คน ซึ่งชันสูตรเสร็จเรียบร้อยแล้วครบทุกคน และจะทำตามระเบียบ ร่างของทุกคนจะส่งกลับไปที่หนองบัวลำภู

ขณะที่ นายอนุทิน กล่าวว่า ผู้บาดเจ็บที่นอนรักษาตัวอยู่ตามโรงพยาบาล ขณะนี้อาการปลอดภัยทุกคน มีที่โรงพยาบาลนากลาง โรงพยาบาลหนองบัวลำภู และโรงพยาบาลอุดรธานี รายไหนอาการไม่หนัก แพทย์อนุญาตให้กลับบ้านได้ ส่วน ด.ช.กฤษ (นามสมมุติ) ซึ่งถูกฟันที่ศีรษะ นำมารักษาตัวมาผ่าตัดที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี มี นพ.สมสิทธิ์เป็นผู้รักษา ยืนยันว่าอาการดีขึ้น มีอาการตอบโต้ที่ดี อีก 2-3 วันน่าจะพ้นขีดอันตราย

ในช่วงเวลาประมาณ 10.30 น. แม่ของเด็กนักเรียนที่เสียชีวิตได้นำนมเปรี้ยวขวดนม และของกินสำหรับเด็กมาวางไว้ที่ข้างต้นไม้ด้านหน้าบริเวณด้านหน้าอาคารเรียนของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก ขณะที่ ผู้ว่าฯ หนองบัวลำภู ได้ให้กำลังใจพ่อแม่ผู้ปกครองที่สูญเสียบุตรหลาน

ขณะที่หน่วยงานต่างๆ ได้เข้ามาช่วยในเรื่องการรับค่าชดเชยต่างๆ และ สุขภาพจิต

 

 

ญาติรับร่าง 37 ผู้เสียชีวิต

ขณะที่ ความคืบหน้าที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี หลังจาก นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข และคณะ เข้าเยี่ยมอาการ ด.ช.กฤษ (นามสมมุติ) อายุ 3 ขวบ เหยื่ออดีตตำรวจคลั่งกราดยิงภายในศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู พร้อมติดตามการชันสูตรศพ 37 ราย ซึ่งทำการชันสูตรเสร็จเรียบร้อยแล้ว

นายอนุทินกล่าวว่า เดินทางมาถึงตั้งแต่เมื่อวานและเดินทางไป จ.หนองบัวลำภู จากเหตุที่เศร้าสลดที่สุดของประเทศ ซึ่งเป็นครั้งแรกที่เคยลงไปสัมผัสในภาคสนามจริงๆ ต่างจากช่วงแก้ไขป้องกันโควิด-19 ได้ไปที่เกิดเหตุและโรงพยาบาล เห็นความร่วมมือ ความพยายาม และความตั้งอกตั้งใจของทุกฝ่าย

“ผมต้องการให้เกียรติผู้เสียชีวิตทุกคน ร่างของเขาจะต้องรับการจัดการที่ดี การคัดแยกร่างและการขนย้าย ขอความร่วมมือจากมูลนิธิและอาสากู้ภัย เราไม่คิดว่าจะจัดการได้เร็วขนาดนี้ ทุกคนพร้อมเข้ามาช่วย การเตรียมสถานที่ชันสูตรที่ รพ.อุดรธานี การส่งแพทย์ชันสูตรเข้ามาช่วย ขอขอบคุณบุคลากรทุกคน” นายอนุทินกล่าว

บริเวณอาคารนิติเวช รพ.ศูนย์อุดรธานี หลังจากคณะแพทย์ชันสูตรศพทั้ง 37 ราย ทั้งที่ร่างเก็บรักษาอยู่ที่ รพ.ศูนย์อุดรธานี และเก็บรักษาไว้ที่มูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานีถูกทยอยมาทำการชันสูตร โดยมีอาสาสมัครมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี อ.เมือง และต่างอำเภอ ตลอดจนใกล้เคียง นำรถกู้ชีพกู้ภัย ทั้งแบบรถตู้และรถกระบะตู้ทึบทยอยเข้ามารับศพบรรจุในโลงไม้สีขาว 1 คัน ต่อ 1 ราย ไม่ว่าจะเป็นศพผู้ใหญ่ หรือเด็ก โดยไม่มีญาติมาคอยรับในจุดนี้

นายอักฤทธิ์ เมืองมั่นคง หัวหน้าชุดปฏิบัติการมูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานี เปิดเผยว่า อาสามูลนิธิส่งเสริมธรรมแห่งอุดรธานีจะนำรถมารับศพทั้ง 37 ราย เดินทางไปที่ อบต.อุทัยสวรรค์ อ.นากลาง จ.หนองบัวลำภู ที่นั่นจะมีแพทย์ชันสูตรและญาติผู้เสียชีวิตมาคอยรับศพ ตรวจสอบความถูกต้องตามขั้นตอนที่กำหนดไว้ จากนั้นอาสาสมัครจะนำศพเดินทางไปยังภูมิลำเนา หรือเป้าหมายที่ญาติต้องการ โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด

ต่อมาเวลา 11.30 น. ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.หนองบัวลำภูว่า เจ้าคณะใหญ่หนตะวันออกมอบหมายให้ พระครูวัชรนิติธาดา พัฒนาจังหวัดหนองบัวลำภู นำผ้าไตรวัดไก่มามอบให้กับครอบครัวผู้เสียชีวิตทั้งหมด 36 ครอบครัว

ขณะเดียวกัน เจ้าหน้าที่ได้ประชาสัมพันธ์ผ่านเครื่องขยายเสียง ขอให้ญาติผู้เสียชีวิตเตรียมเอกสารมารอรับศพที่จะเดินทางมาจาก จ.อุดรธานี พร้อมกันนี้ขอให้ญาติไปรอรับศพตามรายชื่อต่างๆ ที่แจ้งประชาสัมพันธ์ ซึ่งมีอยู่ 3 แห่งคือ วัดศิริชัย บ้านท่าอุทัยเหนือ หมู่ 12, วัดหนองกุงศรี บ้านหนองกุงศรี ต.อุทัยสวรรค์ และ วัดศรีสำราญ บ้านหนองด่าน ต.หนองด่าน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเจ้าหน้าที่ทยอยเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิตเข้ามาใน อบต. เมื่อญาติๆ เห็นต่างร้องไห้ระงมบรรยากาศสุดเศร้าเป็นอย่างยิ่ง

 

กทม.สั่งคุมเข้ม 24 ชม. จ่อซักซ้อมรับมือเหตุ

เมื่อวันที่ 7 ตุลาคม นายเอกวรัญญู อัมระปาล โฆษกของกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงเหตุการณ์ความสูญเสียที่เกิดขึ้นวานนี้ ณ ศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก องค์การบริหารส่วนตำบลอุทัยสวรรค์ อำเภอนากลาง จังหวัดหนองบัวลำภู ว่า กรุงเทพมหานครขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ดังกล่าว ทั้งนี้ เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับพ่อแม่ผู้ปกครอง รวมถึงผู้ดูแลเด็ก กรุงเทพมหานครได้มอบหมายให้สำนักเทศกิจประสานกับสำนักงานเขตพื้นที่และสำนักพัฒนาสังคม เพื่อจัดส่งเจ้าหน้าที่เทศกิจซึ่งปกติได้มีการออกตรวจพื้นที่เป็นประจำ ให้เพิ่มการตรวจตราดูแลความเรียบร้อยของศูนย์พัฒนาเด็กก่อนวัยเรียนให้เข้มข้นขึ้น พร้อมทั้งพูดคุยสอบถามกับผู้ดูแลศูนย์ฯ อย่างต่อเนื่อง และซักซ้อมกรณีต้องการความช่วยเหลือให้ติดต่อแจ้งเหตุได้ที่เจ้าหน้าที่ตำรวจและเจ้าหน้าที่เทศกิจในพื้นที่

นอกจากนี้ กรุงเทพมหานครยังได้มีการพิจารณาการฝึกอบรม ทบทวนการรับมือในสถานการณ์ต่างๆ ซึ่งรวมถึงการรับมือในสถานการณ์การบุกทำร้ายให้กับศูนย์เด็กเล็ก ต่อไปด้วย

นายเอกวรัญญูกล่าวอีกว่า ในส่วนของโรงเรียนในสังกัดกรุงเทพมหานคร ปัจจุบันมีมาตรการดำเนินการด้านความปลอดภัยดังนี้

1. มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตรวจตรารักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมง ทุกโรงเรียน

2. มีเวลาเปิด-ปิดโรงเรียนในทุกวันที่มีการเปิดการเรียนการสอน มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยประจำทางเข้าโรงเรียนเพื่อตรวจตราบุคคลที่ผ่านเข้า-ออก และจะห้ามมิให้บุคคลภายนอกเข้า-ออกในโรงเรียนในช่วงมีการเรียนการสอนโดยเด็ดขาด

3. โรงเรียนซึ่งอยู่ในการดูแลของสำนักงานเขตในปัจจุบัน จะมีเจ้าหน้าที่เทศกิจ/เจ้าหน้าที่ตำรวจคอยอำนวยความสะดวกด้านการจราจรให้กับนักเรียนในช่วงเวลาเช้าก่อนเข้าเรียน และเวลาหลังเลิกเรียน

4. โรงเรียนจะมีพื้นที่ปลอดภัย (Safe Zone) ในทุกโรงเรียน สำหรับกรณีที่มีเหตุการณ์ฉุกเฉินที่อาจจะต้องมีการอพยพเคลื่อนย้ายเด็กนักเรียน

5. โรงเรียนจะมีระบบการติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในกรณีที่มีเหตุการณ์ฉุกเฉิน อาทิ สถานีตำรวจในพื้นที่ ศูนย์บริการสาธารณสุข หน่วยงานทหาร ฯลฯ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่

6. สำนักการศึกษาได้ประชุมเน้นย้ำกับผู้อำนวยการโรงเรียน เรื่องการให้การดูแลความปลอดภัยให้กับเด็กนักเรียนในสังกัดมาโดยตลอด เพื่อให้เกิดความมั่นใจให้กับผู้ปกครองที่ส่งบุตรหลานมาเรียนในโรงเรียนสังกัดกรุงเทพมหานคร