ผบ.ทอ. สานต่อเครื่องบินเอฟ 35 จำนวน 2 เครื่อง เตรียม 2 แผนรับมือ ระหว่างรอสหรัฐฯ อนุมัติ ยอมรับโอกาสได้ 50/50 ชี้การเมืองระหว่างประเทศมีผล

 

เมื่อวันที่ 7 ต.ค.2565 ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) พล.อ.อ.อลงกรณ์ วัณณรถ ผบ.ทอ. กล่าวว่า ตนมีปณิธานในการทำงาน 3 ข้อ คือสานต่อ สร้างขวัญและพัฒนา ซึ่งการสานต่อคือ การเดินหน้าในงานของอดีตผบ.ทอ.อย่างเต็มกำลังความสามารถ เช่น โครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่โจมตี ซึ่งคณะกรรมการคัดเลือกแบบเป็นเอฟ 35 จัดหาจำนวน 2 เครื่อง จำนวน 7,383 ล้านบาท ไปยังสหรัฐฯ เรียบร้อยแล้ว พร้อมได้รับจัดสรรงบประมาณตั้งแต่ปี 2566-69

ทั้งนี้ อยู่ระหว่างการประสานข้อมูลไปยังรัฐบาลสหรัฐฯ วัตถุประสงค์สำคัญคือ ต้องการรับคำตอบในขั้นตอน พีแอนด์เอ หากได้รับคำตอบในช่วงเดือน ม.ค.ถึงก.ค. งานนี้จะเดินต่ออย่างเต็มที่

ทั้งนี้ คำตอบมี 2 ทาง คือขาย กับ ไม่ขาย ถ้าขายก็จะต้องดำเนินตามขั้นตอน แอลโออาร์ ฟอร์ แอลโอเอ เพื่อทำร่างสัญญา แต่ก่อนจะเข้าขั้นตอนแอลโอเอ ต้องเข้าสู่การพิจารณาของครม.หรือไม่ ต้องไปดูขั้นตอนอีกที แต่ขอให้ขายเถอะ เพราะเป็นสิ่งที่เราปรารถนาอย่างสูงสุด เมื่อผ่านขั้นตอนแอลโอเอแล้ว ต้องอยู่ที่การอนุมัติของสภาคองเกรสสหรัฐฯ ถ้าพีแอนด์เอ ที่ส่งมาเป็น yes ก็ถือว่าผ่าน 90% แล้ว

เมื่อถามว่ามั่นใจการจัดซื้อแค่ไหน เกรงจะเหมือนโครงการเรือดำน้ำของกองทัพเรือที่ต้องชะลอไปเรื่อยๆหรือไม่ พล.อ.อ.อลงกรณ์ กล่าวว่า ตนมั่นใจ เพราะมาตรฐานของเครื่องบินแบบนี้ รวมถึงมาตรฐานของบริษัทล็อกฮีดมาร์ติน ซึ่งเราดูเรื่องขีดความสามารถด้านการส่งกำลังบำรุงการดำเนินการต่างๆ อีกทั้งการส่งอากาศยานแบบนี้จำหน่ายทั่วโลก เป็นตัวชี้วัดมาตรฐานในการขายอากาศยานแบบนี้ให้กับประเทศของเรา แต่ถ้าเราดำเนินการช้า ก็ต้องไปต่อคิวกับประเทศอื่นที่จัดซื้อก่อนหน้าเรา เมื่อเราได้พีแอนด์เอแล้ว เราจึงต้องพยายามรีบลงนามใน แอลโออาร์ ฟอร์ แอลโอเอให้เร็วที่สุด

ส่วนที่สหรัฐฯ ปฏิเสธการขายมา ผบ.ทอ.กล่าวว่า เราทำเต็มที่แล้ว เช่น การให้ข้อมูลต่างๆ กับรัฐบาลสหรัฐฯ ส่วนจะขายให้หรือไม่นั้น ถือว่าเราทำเหตุให้ดีที่สุด ส่วนผลจะออกมาเป็นอย่างไรก็พร้อมรับ

เมื่อถามว่าต้องมีแผนสำรอง หรือเลื่อนลำดับเครืองบินปลดประจำขึ้นมาปรับปรุงใช้ทดแทนหรือไม่ ผบ.ทอ. กล่าวว่า ต้องมาดูกันอีกครั้ง ที่ผ่านมาเราทำยุทธศาสตร์ไว้ตั้งปี 61-80 ในปี 63 และมีการปรับปรุงสมุดปกขาวไปแล้วหนึ่งครั้ง ในปี 66 กองทัพอากาศจะต้องปรับปรุงสมุดปกขาวใหม่ และแจกในที่ประชุมคณะอนุกรรมมาธิการฯว่าแผนงานเป็นอย่างไรต่อไป

เมื่อถามว่าถ้าไม่ได้เอฟ35 ได้มองเครื่องบินรุ่นใดไว้บ้าง ผบ.ทอ. กล่าวว่า ตอนนี้ยังพูดไม่ได้ ยังต้องศึกษาต่อ ถ้าเขาปฏิเสธการขายก็ต้องตั้งคณะทำงานขึ้นมาศึกษาว่าแพลนบีจะเพล์ยเกมอย่างไรต่อไปโดยพิจารณาให้สอดคล้องกับแผนงบประมาณปี 67

ตอนนี้กรอบงบของกองทัพอากาศค่อนข้างจำกัด ซึ่งผลกระทบจากโควิดและสถานการณ์เศรษฐกิจ ทำให้กรอบงบจาก41,000 ล้านบาท ลงมาเหลือ 36,000ล้านบาท ลดลงไป 5,000ล้านบาท ซึ่งเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ เราจึงใช้วิธีปรับปรุงเครื่องบินรุ่นต่างๆ เช่น c-130 ขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมินหลังการปรับปรุงว่าสมบูรณ์หรือไม่ จากนั้นก็เดินหน้าต่อไป

เมื่อถามว่าจะให้รัฐบาล กระทรวงการต่างประเทศ ช่วยโน้มน้าวหรือไม่ พล.อ.อ.อลงกรณ์ กล่าวว่าถ้าได้ก็เป็นสิ่งที่ดี ขึ้นอยู่กับรัฐบาลที่จะช่วยสนับสนุนเรา อีกทั้งขึ้นอยู่กับโอกาสของนายกรัฐมนตรีด้วยว่า จะได้พบกับผู้นำของสหรัฐฯหรือเปล่า ซึ่งนายกฯ ทราบดี แล้วก็พร้อมสนับสนุนกองทัพอากาศอยู่แล้ว

ส่วนสหรัฐฯจะมีเงื่อนไขพิเศษที่จะไม่ขายให้เราหรือไม่ ผบ.ทอ. กล่าวว่า ไม่มี ถ้าได้ก็เป็นสิ่งที่ดี เขาจะพิจารณาความเหมาะสมอีกครั้ง เพราะเอฟ 35 เป็นอากาศยานที่มีความลับสูง

“โอกาสที่จะได้ ลึกๆแล้วตอนนี้ก็ 50: 50 เพราะสหรัฐฯ ต้องประเมินไทยโดยเฉพาะความสัมพันธ์กับมิตรประเทศที่หลากหลาย ซึ่งเป็นปัจจัยการเมืองระหว่างประเทศ ส่วนการฝึกกับทอ.จีน เป็นการเชื่อมโยงความสัมพันธ์ลักษณะการบาลานซ์ เป็นยุทธศาสตร์การสร้างความสมดุล ซึ่งไม่ใช่ยุทธศาสตร์ความเป็นกลาง ถือเป็นยุทธศาสตร์ที่รัฐบาลเน้นย้ำ ส่วนสหรัฐฯจะขายหรือไม่ขายก็เป็นเรื่องของเขา สุดแท้แต่ ไม่มีปัญหา”

เมื่อถามว่าฯสหรัฐฯ ตั้งเงื่อนไขให้เรางดการนำเข้าสินค้าประเทศคู่ขัดแย้งแลกกับการอนุมัติหรือไม่ ผบ.ทอ.กล่าวว่า คงจะตั้งเงื่อนไขกับเราไม่ได้ เรากำหนด.ฝจุดยืนของเราเช่นนี้ อยู่ที่ดุลยพินิจของเขาว่าจะขายให้หรือไม่