เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม เวลา 7.00น. ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณถนนราชดำเนินกลาง เจ้าหน้าที่ได้มีการทำความสะอาดบริเวณต่างๆ ทั้งบริเวณพระเมรุมาศจำลอง หน้ากองสลากเก่า บริเวณจุดวางดอกไม้จันทน์และฟุตปาธ พร้อมทำการเก็บแผงกั้นเหล็กบางส่วน เนื่องจากประชาชนที่มาร่วมงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพจำนวนมากทยอยเดินทางกลับแล้ว แต่ยังคงมีประชาชนส่วนหนึ่งปักหลักนอนพักตามจุดต่างๆ โดยตั้งใจจะมีโอกาสเข้าไปในพื้นที่สนามหลวง

นางดรุณี อินทรบัว ข้าราชการครู อายุ 59 ปี กล่าวว่า เดินทางมาจากจังหวัดบึงกาฬตั้งแต่วันที่ 20 ตุลาคม ได้มาดูในช่วงซ้อมแต่ก็อยู่รอบนอกไกลๆ ส่วนในช่วงงานพระราชพิธี ตนมาร่วมตั้งแต่วันแรกแต่ไม่ได้เข้าไปในพื้นที่สนามหลวง เพราะเข้าเข้าแถวยาวนานไปไม่ไหว จึงเลือกเท่าที่สะดวก โดยปักหลักอยู่บริเวณถนนราชดำเนินกลาง

“ที่มาในวันนี้เพราะอยากทำเพื่อพ่อหลวงรัชกาลที่ 9 สักครั้ง เพราะถ้าไม่มีพระองค์ท่าน พวกเราคงไม่มีวันนี้ นอกจากพ่อแม่ก็มีพระองค์ท่านที่เรามากยิ่งกว่าชีวิต วันนี้ตั้งใจอยากจะเห็นพระเมรุมาศชัดๆ ครั้งนี้ตั้งใจจะเข้าแถวรอเพื่อเข้าไปด้านในสนามหลวง อยากไปให้ใกล้มากที่สุดเท่าที่จะสามารถทำได้ ก่อนจะเดินทางกลับวันพรุ่งนี้ แต่ถ้าเข้าไม่ได้ก็ไม่เสียใจ เพราะตั้งใจไว้ว่าช่วงที่เปิดให้เข้าชมพระเมรุมาศจะกลับมาอีกครั้งให้ได้ ตนคิดว่าการมาร่วมงานพระเมรุมาศเป็นเหตุการณ์สำคัญครั้งหนึ่งในชีวิต คงจะไม่มีอีกแล้ว เหตุครั้งนี้จะเป็นประวัติศาสตร์ของเรา” นางดรุณี กล่าว

ขณะที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย นายบุญรักษ์ ยอดเพชร เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.), นพ.พงศ์เกษม ไข่มุกด์ รองอธิบดีกรมสุขภาพจิต พร้อมด้วยจิตอาสามูลนิธิTO BE NUMBER ONE (ทูบีนัมเบอร์วัน) 241 คน เตรียมพร้อมเข้าพื้นที่สนามหลวง เพื่อดูแลประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุ ด้วยการพูดคุย แจกยาดม เป็นต้น

ต่อมาเวลา 07.40 น. ประชาชนเริ่มทยอยเดินทางมาเพิ่มมากขึ้น โดยส่วนหนึ่งมุ่งหน้าเข้าแถวเพื่อเข้าจุดคัดกรองพระแม่ธรณีบีบมวยผม อีกส่วนหนึ่งจับจองพื้นที่ริมขอบฟุตปาธเพื่อเฝ้ารับรถขบวนเสด็จ