อัยการสูงสุด รีบกู้ภาพลักษณ์ ตั้งโฆษกชุดใหม่ ดึง ธรัมพ์-โกศลวัฒน์ กลับมาฟอร์มทีม

อัยการสูงสุด เซ็นตั้งทีมโฆษกชุดใหม่ 5 คน ดึง ธรัมพ์-โกศลวัฒน์ อัยการดังกลับมาฟอร์มทีม วางภารกิจกู้ภาพลักษณ์ สร้างศรัทธาองค์กรทันต่อเหตุการณ์

 

วันที่ 5 ต.ค. 2565 น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุด (อสส.) ได้ลงนามคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ 1761/2565 ลงวันที่ 4 ต.ค. เรื่อง แต่งตั้งโฆษกและรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ความว่า เนื่องจากคณะโฆษกตามคำสั่งสำนักงานอัยการสูงสุด ที่ 2244/2563 เรื่อง แต่งตั้งที่ปรึกษาโฆษก สำนักงานอัยการสูงสุด และโฆษกและรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ลงวันที่ 4 ธ.ค. 2563 ได้มีการลาออก และสับเปลี่ยนโยกย้ายหลายตำแหน่ง

เพื่อให้การสื่อสาร สร้างความเข้าใจ และให้ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้อง รวดเร็ว และทันต่อเหตุการณ์ อีกทั้งส่งเสริมภาพลักษณ์ของสำนักงานอัยการสูงสุดในการปฏิบัติภารกิจให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ จึงให้ยกเลิกคำสั่งดังกล่าว และแต่งตั้งโฆษกและรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด โดยมีองค์ประกอบดังนี้

คณะโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ประกอบด้วย
1.นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ อธิบดีอัยการ สํานักงานคณะกรรรมการอัยการ รักษาการในตำแหน่ง ผู้ตรวจการอัยการ เป็น โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด
2.นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง รองอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีศาลแขวง รักษาการในตำแหน่ง รองอธิบดีอัยการสำนักงานคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) เป็น รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด
3.นายคถา สถลสุด อัยการจังหวัดประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานที่ปรึกษากฎหมาย เป็น รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด
4.นายทรงพล สุวรรณพงศ์ ผู้ช่วยเลขานุการอัยการสูงสุด เป็น รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด
5.นายจิตภัทร พุ่มหิรัญ อัยการประจำสำนักงานอัยการสูงสุด สำนักงานคดีแพ่งกรุงเทพใต้ เป็น รองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด

ทีมโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด มีอำนาจหน้าที่
1.แถลงข่าวและชี้แจงข้อมูลต่างๆ ในนามสำนักงานอัยการสูงสุด ตลอดจนพิจารณาให้ข้อมูลข่าวสาร ที่ตรงกับข้อเท็จจริงและทันต่อเหตุการณ์ในทุกกรณีตามความเหมาะสม โดยให้ถือปฏิบัติตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง
2.เชิญพนักงานอัยการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในสำนักงานอัยการสูงสุดส่งข้อมูลและข่าวสาร รวมทั้งสนับสนุนการแถลงข่าวหรือประชาสัมพันธ์ตามความจำเป็น

3.รับฟังข้อมูลข่าวสารและข้อคิดเห็นจากประชาชนหรือสื่อมวลชน เพื่อนำมาพิจารณาดำเนินการ ในส่วนที่เกี่ยวข้อง
4.ติดตาม รวบรวม และตรวจวิเคราะห์ข่าวสารที่เกี่ยวกับสำนักงานอัยการสูงสุดจากสื่อประชาสัมพันธ์ และช่องทางต่าง ๆ โดยเฉพาะข่าวสารที่มีผลกระทบต่อสำนักงานอัยการสูงสุด

5.วิเคราะห์ข้อมูลข่าวสารที่ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์สำนักงานอัยการสูงสุด และพิจารณา หาแนวทางแก้ไขผลกระทบที่เกิดขึ้น พร้อมเสนอแนวทางแก้ไขต่ออัยการสูงสุด รวมทั้งดำเนินการแก้ไขผลกระทบ ตามที่อัยการสูงสุดมอบหมายโดยเร่งด่วน พร้อมติดตามผลการแก้ไขเรื่องที่ได้ดำเนินการแล้ว ผ่านการตรวจติดตาม ข่าวอย่างใกล้ชิด โดยจัดทำรายงานข่าว พร้อมบทวิเคราะห์ผลกระทบต่อภาพลักษณ์สำนักงานอัยการสูงสุด และ รายงานอัยการสูงสุดทราบ

6.แต่งตั้งคณะทำงานหรือบุคคลที่เห็นสมควร เพื่อร่วมดำเนินการในการประชาสัมพันธ์ ตามความเหมาะสม
7.รายงานการดำเนินการให้อัยการสูงสุดทราบ
8.ปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่อัยการสูงสุดมอบหมาย ทั้งนี้ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า น่าสังเกตว่า นายธรัมพ์ ชาลีจันทร์ นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง นายคถา สถลสุตนั้น ทั้งหมดล้วนมีประสบการณ์ เคยเป็นทีมเลขานุการช่วยงานสำคัญให้กับนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อดีตอัยการสูงสุด ซึ่งดำรงตำแหน่งนานถึง 4 ปี ซึ่งถือเป็นผู้นำที่มีความสามารถ พัฒนาองค์กรอัยการจนเป็นที่ยอมรับมากที่สุด

คาดว่าคงเป็นนโยบายหนึ่งของ น.ส.นารี ตัณฑเสถียร อัยการสูงสุดคนใหม่ ที่จะกอบกู้ภาพลักษณ์องค์กรให้ดีขึ้นหลังจากองค์กรอัยการได้รับมรสุมและผลกระทบอย่างรุนแรงตั้งแต่คดีบอส กระทิงแดงเป็นต้นมา

ส่วนรองโฆษกอีก 2 คนคือ นายทรงพล เป็นทีมหน้าห้องของอสส. ตั้งเเต่ยุคนายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ จนถึงคนปัจจุบัน ส่วนนายจิตภัทร เคยผ่านงานรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุดมาก่อนเเละยังเคยเป็นนักร้องและพิธีกรชื่อดังก่อนรับราชการเป็นอัยการ