ขอบคุณข้อมูลจาก | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
นักเรียนหญิงอิหร่าน ถอด “ฮิญาบ” เดินขบวนประท้วงต้านรัฐบาล
วันที่ 4 ต.ค. บีบีซี รายงานความคืบหน้าของการประท้วงในอิหร่านที่เข้าสู่สัปดาห์ที่สามว่า นักเรียนหญิงอิหร่าน แต่งดำและถอดผ้าโพกหัว (ฮิญาบ) โบกกลางอากาศ และตะโกนต่อต้านเจ้าหน้าที่ทางศาสนา อันเป็นความเคลื่อนไหวที่ไม่เคยมีมาก่อน เพื่อสนับสนุนการประท้วงที่ลุกลามประเทศ
วิดีโอในสื่อสังคมออนไลน์เผยการประท้วงจำนวนหนึ่งภายในสนามโรงเรียนหลายแห่งและบนถนนในหลายเมือง เป็นการสะท้อนความไม่สงบในวงกว้างจากการเสียชีวิตของน.ส.มาห์ซา อามีนี ผู้หญิงชาวเคิร์ด วัย 22 ปี ที่ถูกตำรวจศีลธรรมคุมตัวเมื่อวันที่ 13 ก.ย. ในกรุงเตหะราน ในข้อหาละเมิดกฎหมายที่บังคับให้ผู้หญิงสวมฮิญาบปกปิดเส้นผม กระทั่งเธอโคม่าและสิ้นใจในโรงพยาบาลในอีก 3 วันต่อมา
ครอบครัวของน.ส.อามีนีกล่าวหาเจ้าหน้าที่ใช้กระบองทุบตีศีรษะและจับหัวโขกกับรถยนต์ของเจ้าหน้าที่ แต่ตำรวจปฏิเสธข้อครหาที่ว่าน.ส.อามีนีไม่ได้รับการปฏิบัติที่ดี และว่าน.ส.อามีนีเกิดหัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน จนการประท้วงปะทุครั้งแรกในพื้นที่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของที่อิหร่านที่ชาวเคิร์ดอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก และลุกลามไปทั่วประเทศอย่างรวดเร็ว
มีรายงานว่า ในเมืองคาราจ จังหวัดแอลโบร์ซ ทางเหนือของอิหร่าน เด็กผู้หญิงหลายคนบังคับให้เจ้าหน้าที่การศึกษาออกไปจากโรงเรียน วิดีโอในสื่อสังคมออนไลน์เผยเด็กผู้หญิงตะโกน “ความอัปยศต่อคุณ” และเขวี้ยงขวดน้ำเปล่าหลายใบใส่เจ้าหน้าที่การศึกษาคนดังกล่าว จนเจ้าตัวถอยกลับออกประตูรั้ว
ส่วนในอีกวิดีโอจากเมืองคาราจเช่นกัน นักเรียนหลายคนตะโกน “หากเราไม่รวมตัวกัน พวกเขาจะฆ่าเราทีละคน”
ขณะที่ในเมืองชีราซ ทางใต้ของอิหร่าน เมื่อวันจันทร์ที่ 3 ต.ค. นักเรียนหญิงหลายสิบคนกีดขวางจราจรบนถนนสายหลัก ขณะโบกฮิญาบกลางอากาศและตะโกน “ความตายต่อจอมเผด็จการ” ซึ่งหมายถึงอยาตอลเลาะห์ อาลี คาเมนี ผู้นำสูงสุดอิหร่าน ซึ่งเป็นผู้ชี้ขาดในทุกเรื่องของประเทศ
นอกจากนี้ มีการประท้วงของนักเรียนหญิงหลายจุดในเมืองคาราจ กรุงเตหะราน และ 2 เมืองทางตะวันตกเฉียงเหนือ ได้แก่ ซาเกซ และซานันดาจ
ขณะที่นักเรียนหลายคนยังปรากฏบนภาพถ่ายในชั้นเรียนโดยไม่โพกฮิญาบ บางคนชูนิ้วกลางใส่รูปเหมือนของอยาตอลเลาะห์ คาเมนี และอยาตอลเลาะห์ รูฮุลเลาะห์ โคไมนี ผู้ก่อตั้งสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน
การประท้วงของนักเรียนหญิงเริ่มขึ้นหลังอยาตอลเลาะห์ คาเมนี กล่าวหาสหรัฐอเมริกากับอิสราเอล ศัตรูตัวฉกาจของอิหร่าน เป็นผู้บงการ “จลาจล” ในประเทศ และยังให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่แก่กองกำลังความมั่นคง ซึ่งตอบโต้การประท้วงด้วยการปราบปรามอย่างรุนแรง และคาเมนียังให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่แก่กองกำลังความมั่นคง ซึ่งตอบโต้การประท้วงด้วยการปราบปรามอย่างรุนแรง
ขณะที่อิหร่าน ฮิวแมน ไรตซ์ กลุ่มสิทธิมนุษยชนในนอร์เวย์ รายงานเมื่อวันอังคารที่ 4 ต.ค. ว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจากน้ำมือของกองกำลังความมั่นคงอิหร่านอยู่ที่อย่างน้อย 154 ราย และในจำนวนนี้ 63 รายเสียชีวิตในการปะทะในเมืองซาเฮดัน ทางตะวันออกเฉียงใต้ เมื่อวันศุกร์ที่ 30 ก.ย. ตามข้อมูลของกลุ่มนักเคลื่อนไหวชนเผ่าบาโลช