ขอบคุณข้อมูลจาก | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
ผู้นำสาธารณรัฐเชเชน จะส่งลูกชายวัย 14, 15 และ 16 ปี ไปแนวหน้ารบในยูเครน
วันที่ 3 ต.ค. นายรัมซาน คาดีรอฟ ผู้นำสาธารณรัฐเชเชน ทางใต้ของรัสเซีย โพสต์ข้อความทางแอปพลิเคชั่นสนทนา เทเลแกรม ว่า ลูกชาย 3 คนของผู้นำจะเดินทางไปแนวหน้ารบในยูเครน เพื่อสู้รบกับกองกำลังรัสเซีย ซึ่งใช้ชื่อ “ปฏิบัติการทางทหารพิเศษ” พร้อมวิดีโอขณะที่ลูกชายทั้งสามยิงอาวุธต่างๆ ที่สนามฝึก
“เยาวชนไม่ควรยุ่งเกี่ยวกับการฝึกของผู้พิทักษ์มาตุภูมิของเรา แต่ อาห์มัต วัย 16 ปี, เอลี วัย 15 ปี และ อาดัม วัย 14 ปี หลานของ อาห์มัต-คาจี คาดีรอฟ ประธานาธิบดีคนแรกแห่งสาธารณรัฐเชเชน วีรบุรุษแห่งรัสเซีย (พ่อของนายรัมซาน) เริ่มฝึกทหารมานานแล้วแทบตั้งแต่อายุยังน้อย แค่ยิงปืนเป็นไม่พอ ยังเรียนการใช้อาวุธต่างๆ ใช้อาวุธในทุกระยะ และพื้นฐานทางทฤษฎี ในฐานฝึกของมหาวิทยาลัยกองกำลังพิเศษรัสเซีย (สเปตซ์นาซ) ผมเชื่อเสมอว่า เป้าหมายหลักของพ่อทุกคนคือปลูกฝังความกตัญญและสอนให้พวกเขาปกป้องคุ้มครอง ประชาชน และปิตุภูมิ หากต้องการสันติภาพ เตรียมตัวทำสงคราม!
“อาห์มัด เอลี และอาดัม พร้อมใช้ทักษะของตัวเองในพื้นที่ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร และผมไม่ได้ล้อเล่น เวลาที่จะแสดงตัวในสงครามของจริงมาถึงแล้ว และนี่เป็นความปรารถนาของพวกเขา ผมแค่รู้สึกยินดี อีกไม่นานพวกเขาจะไปแนวหน้ารบและจะอยู่ในพื้นที่ที่สลับซับซ้อนที่สุดของแนวปะทะ
“ผมขอกล่าวถึงคนพูดลอยๆ ว่า ญาติพี่น้องของผมไม่ได้เข้าร่วมในปฏิบัติการพิเศษทางทหาร และในอนาคตอันใกล้ คุณจะมีโอกาสอยู่ในจุดเดียวกับเด็กหนุ่มพวกนี้และมั่นใจว่าอาห์มัตแข็งแกร่ง! จงแสดงจิตวิญญาณของคุณ อุดมการณ์ของคุณ และสิ่งที่คุณเป็น เพื่อพิสูจน์ว่าอย่างน้อยคุณเป็นผู้ชาย
“ผมขอกล่าวถึงคุณที่วิจารณ์ว่า เราเป็นนักรบเชเชนบนเก้าอี้โซฟาที่นั่งหน้าคอมพิวเตอร์ในยุโรป จงมาเลย มายูเครน ทำให้เราเชื่อว่าคุณไม่ได้สวมกระโปรงและอย่าเป็นอีแอบข้างหลังพวกเขา เราเชื่อมั่นว่า แม้แต่เด็กไม่บรรลุนิติภาวะสามารถบดขยี้คุณเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยได้ เพราะคุณไม่มีจิตวิญญาณ ไม่มีเกียรติ หรือศักดิ์ศรี รออยู่นะ!” นายคาดีรอฟระบุ
บีบีซี รายงานว่า รัสเซียลงนาม พิธีสารเลือกรับของอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก เรื่อง ความเกี่ยวพันของเด็กในความขัดแย้งกันด้วยอาวุธ ที่มีวัตถุประสงค์ในการคุ้มครองเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จากการเข้าร่วมในสงครามโดยตรง
นอกจากนี้ ศาลอาญาระหว่างประเทศพิจารณาว่า การใช้เด็กอายุต่ำกว่า 15 ปี เข้าร่วมในสงครามเป็นอาชญากรรมสงคราม อย่างไรก็ตาม รัสเซียไม่ได้รับรองเขตอำนาจศาลของศาลอาญาระหว่างประเทศ
ทั้งนี้ นายคาดีรอฟเป็นผู้สนับสนุนตัวยงของประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน และกองกำลังเชเชนสู้รบในยูเครนตั้งแต่สงครามเปิดฉากเมื่อเดือนก.พ. แต่หลังการล่าถอยของกองกำลังยูเครนในแคว้นคาร์คีฟและโดเนตสค์ เริ่มวิจารณ์ผู้นำกองทัพรัสเซีย โดยระบุว่าผู้บัญชาการนายหนึ่งมีคุณภาพธรรมดา และบ่นการขาดแคลนด้านพลาธิการพื้นฐาน
นายคาดีรอฟยังรัสเซียดำเนินมาตรการรุนแรงมากขึ้นกับยูเครน รวมถึงการใช้อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี หลังกองกำลังรัสเซียล่าถอยจากเมืองลีมาน ในแคว้นโดเนสตค์ของยูเครน ซึ่งเป็นการล่าถอยทางยุทธศาสตร์ครั้งสำคัญสำหรับรัสเซีย แต่ทางการรัสเซียตอบว่า การตัดสินใจเช่นนั้นไม่ควรทำด้วยอารมณ์
การยืดคืนเมืองลีมานมีความสำคัญสำหรับกองกำลังยูเครน เนื่องจากเมืองดังกล่าว ยูเครนสามารถใช้เป็นฐานตั้งหลักเพื่อเข้าถึงพื้นที่ยูเครนที่รัสเซียยึดครองได้มากขึ้น และรัสเซียยังใช้เป็นศูนย์กลางด้านพลาธิการด้วย
นอกจากนี้ ชัยชนะของกองกำลังยูเครนในเมืองลีมานเป็นสัญลักษณ์เช่นกัน เนื่องจากเกิดขึ้นเพียง 1 วันหลังประธานาธิบดีปูตินทำพิธีลงนามยิ่งใหญ่เพื่อผนวก 4 พื้นที่ยูเครนรัสเซียยึดครองบางส่วน ได้แก่ แคว้นโดเนตสค์ แคว้นลูฮันสค์ แคว้นซาโปริฌเฌีย และแคว้นเคียร์ซอน