คลัง ปลื้ม คนละครึ่ง-เพิ่มกำลังซื้อบัตรคนจน ได้คะแนนประเมินดีมาก

เมื่อวันที่ 30 กันยายน นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง ในฐานะโฆษกกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่าโครงการคนละครึ่งและโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง มีผลการดำเนินงานในภาพรวมอยู่ในระดับดีมาก (A) ตามรายงานการประเมินผลโครงการหรือแผนงานภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนา 2019 พ.ศ.2563 (พ.ร.ก.เงินกู้ฯ) รอบ 6 เดือน ครั้งที่ 1 โดยสำนักงานบริหารหนี้สาธารณะร่วมกับบริษัท ทริส คอร์ปอเรชั่น จำกัด

นายพรชัยกล่าวว่า โดยการประเมินด้วยแบบจำลองทางสถิติประกอบกับเกณฑ์การประเมิน 5 ด้าน ได้แก่ ด้านความสอดคล้องและความเชื่อมโยง ด้านประสิทธิภาพ ด้านประสิทธิผล ด้านผลกระทบ และด้านความยั่งยืน ทั้งนี้ การประเมินผลดังกล่าวพบว่า โครงการคนละครึ่งและโครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐสามารถดำเนินการได้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายของโครงการอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล สามารถช่วยเหลือ เยียวยา และบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายให้แก่ประชาชน กระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างมีนัยสำคัญ และยังเป็นการกระจายรายได้สู่ภูมิภาค รวมทั้งยังสร้างความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจและช่วยสร้างรายได้กลับคืนแก่รัฐ นอกจากนี้ ยังช่วยเสริมสร้างทักษะความเข้าใจและการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและสนับสนุนให้ประเทศไทยก้าวไปสู่สังคมไร้เงินสดเพื่อรองรับโลกในอนาคตอีกด้วย

สำหรับความคืบหน้าการใช้สิทธิมาตรการรักษาระดับการบริโภคภายในประเทศ ปี 2565 ระยะที่ 2 ณ วันที่ 29 กันยายน 2565 เวลา 23.00 น. มีผู้ใช้สิทธิรวม 37.30 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายสะสมทั้งสิ้น 32,520.73 ล้านบาท แบ่งเป็น 1.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ระยะที่ 5 มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 12.91 ล้านคน และมียอดใช้จ่าย 2,579.02 ล้านบาท 2.โครงการเพิ่มกำลังซื้อให้แก่ผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือเป็นพิเศษ ระยะที่ 3 มีผู้ใช้สิทธิจำนวน 983,401 คน และมียอดใช้จ่ายสะสม 196.26 ล้านบาท

3.โครงการคนละครึ่ง เฟส 5 มีผู้ใช้สิทธิทั้งหมดจำนวน 23.40 ล้านคน และมียอดใช้จ่ายรวม 29,745.45 ล้านบาท โดยแบ่งเป็นเงินที่ประชาชนจ่ายจำนวน 15,113.48 ล้านบาท และเงินที่รัฐร่วมจ่ายจำนวน 14,631.97 ล้านบาท ทั้งนี้ สำหรับยอดใช้จ่ายสะสมแบ่งตามประเภทร้านค้า ได้แก่ ร้านอาหารและเครื่องดื่ม 12,287.01 ล้านบาท ร้านธงฟ้า 6,064.77 ล้านบาท ร้านโอท็อป 1,415.03 ล้านบาท ร้านค้าทั่วไป 9,468.48 ล้านบาท ร้านบริการ 474.41 ล้านบาท และกิจการขนส่ง 35.75 ล้านบาท สำหรับผู้ประกอบการร้านค้าที่เข้าร่วมโครงการคนละครึ่ง เฟสที่ 5 มีผู้ประกอบการร้านค้าเข้าร่วมแล้วจำนวน 9.61 แสนราย โดยเป็นผู้ประกอบการรายใหม่ 2.21 หมื่นราย

“โครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ยังคงมีสิทธิคงเหลือที่ประชาชนทั่วไปสามารถลงทะเบียนเข้าร่วมโครงการได้จนถึงวันเสาร์ที่ 1 ตุลาคม 2565 ผ่านแอพพลิเคชั่นเป๋าตังหรือ www.คนละครึ่ง.com ระหว่างเวลา 06.00-22.00 น. โดยประชาชนที่เคยได้รับสิทธิโครงการคนละครึ่ง เฟส 5 ไปก่อนหน้านี้แต่ไม่ได้ใช้จ่ายครั้งแรกภายในระยะเวลาที่กำหนด สามารถลงทะเบียนรอบสิทธิคงเหลือดังกล่าวได้เช่นกัน” นายพรชัยกล่าว