เขื่อนเจ้าพระยาระบายน้ำมากกว่า 2,500 ลบ.ม. ‘สรรพยา’ จมกว่า 2 พันหลัง ปชช.พักบนนถนน

เขื่อนเจ้าพระยาระบาย 2,500 ลบ.ม. อ.สรรพยา จมบาดาลกว่า 2 พันหลังคาเรือน

เมื่อวันที่ 30 กันยายน ผู้สื่อข่าวรายงานสถานการณ์น้ำที่เขื่อนเจ้าพระยา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท กุญแจสำคัญในการบริหารจัดการน้ำลงสู่ภาคกลาง พบว่าน้ำที่ไหลลงสู่เขื่อนเจ้าพระยาผ่านจุดวัดน้ำค่ายจิรประวัติ จ.นครสวรรค์ เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากปริมาณน้ำฝนจากทางตอนบนประเทศวัดได้อัตรา 2,598 ลบ.ม./วินาที โดยระดับน้ำเหนือเขื่อนเจ้าพระยาล่าสุดวัดได้ +17.04 เมตร

ขณะที่เขื่อนเจ้าพระยา จ.ชัยนาท ได้เพิ่มอัตราการระบายน้ำขึ้นไปที่ 2,507 ลบ.ม./วินาที เพื่อรักษาสมดุลของน้ำเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน และเพื่อเร่งสร้างพื้นที่ว่างในลำน้ำเหนือเขื่อน รองรับมวลน้ำเหนือที่จะมีมากขึ้นในช่วง 1 สัปดาห์นับจากนี้ ทั้งนี้ จากการคงการระบายน้ำในเกณฑ์ดังกล่าวส่งผลให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนสูงขึ้น เมื่อเวลา 16.00 น.ที่ผ่านมาวัดได้ +15.89 เมตรจากระดับน้ำทะเลปานกลาง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทั้งหมดนี้ทำให้น้ำล้นตลิ่งทะลักท่วมพื้นที่ชุมชนวัดมะปราง ต.โพนางดำออก และชุมชนวัดศรีมงคล พื้นที่ ต.หาดอาษา อ.สรรพยา จ.ชัยนาท ทำให้ชาวบ้านต้องรีบเก็บข้าวของขึ้นบนชั้น 2 รวมทั้งทำนั่งร้านเพื่อยกของหนีน้ำอย่างเร่งด่วน

ชาวบ้านบอกว่า ปีนี้หมู่บ้านมีมติร่วมกันแล้วว่าจะไม่มีการกั้นแนวกระสอบทราย ขอปล่อยให้เป็นไปตามวิถีของธรรมชาติ ปัจจุบันมีบ้านเรือนประชาชนชุมชนวัดมะปราง และชุมชนวัดศรีมงคลจมน้ำความสูง 60-120 ซม. กว่า 1,500 หลังคาเรือน

นอกจากนี้ ยังมีพื้นที่น้ำท่วมที่ได้รับรายงานเพิ่มเติมอีก 4 ตำบล คือ ต.ตลุก ต.บางหลวง ต.โพนางดำออก และ ต.โพนางดำตก ซึ่งเมื่อรวม 6 ตำบลของ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท มีบ้านเรือนประชาชนถูกน้ำท่วมรวมแล้วกว่า 2,000 หลังคาเรือน ทำให้มีชาวบ้านนับพันครอบครัวเร่งออกมาสร้างเพิงพักบนถนนคันคลองมหาราชและถนนสายต่างๆ เพื่อใช้เป็นที่หลับนอนชั่วคราว ทางราชการกำลังเร่งจัดหาความช่วยเหลือเข้าพื้นที่อย่างเร่งด่วน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากแนวโน้มสถานการณ์น้ำปัจจุบัน ราชการขอให้ประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำริมตลิ่ง ซึ่งมีความเสี่ยงสูงเฝ้าระวังและติดตามประกาศจากทางราชการอย่างใกล้ชิดต่อไป เพราะช่วงวันที่ 1-6 ตุลาคม ยังมีฝนตกหนักในพื้นที่ตอนบนของประเทศ จากอิทธิพลลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งเขื่อนเจ้าพระยาจะคงอัตราการระบายไว้ที่ 2,500-ลบ.ม./วินาที ระหว่างวันที่ 1-7 ตุลาคม หรือมีการปรับแผนเพื่อให้สอดคล้องกับมวลน้ำเหนือที่เติมลงมา อาจทำให้ระดับน้ำท้ายเขื่อนยกตัวขึ้นได้อีก

โดยจะส่งผลกระทบกับพื้นที่ริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยาตั้งแต่ อ.สรรพยา จ.ชัยนาท อ.อินทร์บุรี อ.เมืองสิงห์บุรี อ.พรหมบุรี จ.สิงห์บุรี พื้นที่ลุ่มต่ำ คลองโผงเผง อ.ป่าโมก อ.ไชโย จ.อ่างทอง คลองบางบาล อ.บางบาล ต.หัวเวียง อ.เสนา ต.ลาดชิด ต.ท่าดินแดง อ.ผักไห่ จ.พระนครศรีอยุธยา จ.ปทุมธานี จ.นนทบุรี กรุงเทพมหานคร และ จ.สมุทรปราการ จึงขอให้พื้นที่ตามประกาศเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์น้ำที่จะเพิ่มสูงขึ้นด้วย