รมว.เฮ้ง ห่วงแรงงานไทยเสียชีวิตในโปรตุเกส สั่งกรมการจัดหางานตรวจสอบสิทธิประโยชน์ช่วยเหลือโดยด่วน

รมว.เฮ้ง ห่วงแรงงานไทยเสียชีวิตในโปรตุเกส สั่งกรมการจัดหางานตรวจสอบสิทธิประโยชน์ช่วยเหลือโดยด่วน

นายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยถึงกรณีที่เฟสบุ๊คของสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส ได้เผยแพร่ข่าวแรงงานไทยที่ไปเก็บหอยในโปรตุเกสประสบอุบัติเหตุทางน้ำเสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 กันยายนที่ผ่านมา ทันทีที่ทราบข่าวดังกล่าว พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้มีความห่วงใยและแสดงความเสียใจกับครอบครัวแรงงานไทยที่เสียชีวิตจึงได้ให้กระทรวงแรงงานตรวจสอบสถานะและดูแลช่วยเหลือสิทธิประโยชน์ที่เกี่ยวข้องตามกฎหมาย ผมได้ขานรับข้อสั่งการดังกล่าว และสั่งการให้กรมการจัดหางานตรวจสอบข้อมูล พร้อมกำชับบริษัทจัดหางานดูแลประสานสิทธิประโยชน์ของแรงงานไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศอีกทางหนึ่งด้วย ซึ่งจากการตรวจสอบข้อมูลของกองบริหารแรงงานไปต่างประเทศ กรมการจัดหางาน พบว่า นางธนพร สุขปราบ อายุ 52 ปี เป็นชาวจังหวัดขอนแก่น ได้เดินทางไปทำงานในตำแหน่งคนงานภาคเกษตรที่โปรตุเกส และเป็นสมาชิกกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ โดยบริษัทจัดหางานเป็นผู้จัดส่ง เมื่อวันที่ 29 ตุลาคม 2563 สิ้นสุดสัญญาจ้างเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2564 หลังสิ้นสุดสัญญาจ้างยังคงทำงานอยู่กับนายจ้างในต่างประเทศ ซึ่งกรณีดังกล่าวสมาชิกกองทุนเสียชีวิตในต่างประเทศยังได้รับสิทธิประโยชน์ความคุ้มครองจากกองทุนฯ ทายาทสามารถยื่นคำร้องขอรับเงินสงเคราะห์เหมาจ่ายคนละ 40,000 บาท ตลอดจนค่าใช้จ่ายในการจัดการศพในต่างประเทศเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 40,000 บาท ทั้งนี้ กรณีไม่มีนายจ้างหรือหน่วยงานรับผิดชอบ หรือมีค่าใช้จ่ายส่วนเกิน โดยกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ จะพิจารณาจากคำร้องและเอกสารประกอบคำร้องของผู้เสียชีวิตอีกครั้ง ขณะเดียวกันผมได้ทราบข้อมูลจากทางสถานทูต ณ กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกสว่าขณะนี้กำลังอยู่ระหว่างดำเนินการติดตามสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ที่ทายาทของผู้เสียชีวิตพึงได้รับ

ด้าน นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ปลัดกระทรวงแรงงาน กล่าวว่า ผมได้สั่งการให้ 5 เสือกระทรวงแรงงานจังหวัดขอนแก่น ลงพื้นที่ไปเยี่ยมบ้าน เพื่อชี้แจงสิทธิประโยชน์และอำนวยความสะดวกในการยื่นคำร้องขอรับเงินสงเคราะห์จากกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศแก่ทายาท เพื่อสร้างขวัญกำลังใจแก่ครอบครัวผู้เสียชีวิตและให้ความช่วยเหลือในส่วนที่เกี่ยวข้องตามภารกิจ นอกจากนี้ ยังได้เน้นย้ำให้แรงงานไทยที่ไปทำงานในต่างประเทศ ขอให้เดินทางไปอย่างถูกต้องตามกฎหมาย และสมัครเป็นสมาชิกเพื่อช่วยเหลือคนหางานไปทำงานในต่างประเทศ เพื่อจะได้สิทธิประโยชน์การคุ้มครองกรณีเกิดเหตุฉุกเฉินในต่างประเทศอีกด้วย ซึ่งจากการลงพื้นที่ไปเยี่ยมบ้านของ 5 เสือกระทรวงแรงงานจังหวัดขอนแก่น ทราบว่า ก่อนไปทำงานที่โปรตุเกส ผู้เสียชีวิตเคยเป็นผู้ประกันตน มาตรา 33 ทายาทมีสิทธิ์ได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ จำนวน 51,931 บาท ไม่รวมดอกผล และขณะนี้สามีของผู้เสียชีวิตได้เดินทางไปประสานการรับอัฐิของภรรยาที่กรุงเทพมหานคร เพื่อนำกลับไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านจังหวัดขอนแก่นต่อไป