“ลิณธิภรณ์” ชี้ไม่น่าภูมิใจ ผู้รับบัตรคนจนเพิ่มขึ้น แนะรัฐบาลเลิกหลอกตัวเองได้แล้ว

วันที่ 25 กันยายน 2565 ดร.หญิง ลิณธิภรณ์ วริณวัชรโรจน์ รองเลขาธิการพรรคเพื่อไทย ได้ออกมาแสดงความกังวลต่อสถานการณ์ความเหลื่อมล้ำทางสังคม และความเชื่อมั่นอย่างผิดๆของรัฐบาล ภายหลังออกมากล่าวอย่างภาคภูมิใจถึงจำนวนผู้ขอบัตรสวัดิสการแห่งรัฐให้กับกลุ่มคนรายได้น้อย หรือบัตรคนจนมากขึ้น ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อและสินค้าแพงสูงขึ้นว่า
ผู้รับบัตรคนจนเพิ่มขึ้น
เราควรภูมิใจอย่างนั้นเหรอ❓
.
.
🔘 ไม่ควรภูมิใจที่มีผู้รับบัตรคนจนเพิ่มมากขึ้น
.
หญิงรู้สึกแอบตกใจนิดหน่อยเมื่อเห็นตัวแทนของรัฐบาลออกมาประกาศความภูมิใจที่คาดว่าปีนี้ 2565 จะมียอดผู้รับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือ “บัตรคนจน” ที่ประชาชนทั่วไปเรียกกัน มากถึง 20 ล้านคน โดยกล่าวในทำนองว่าภูมิใจที่รัฐมีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการทำให้ประชาชนเข้าถึงบัตรคนจนเพิ่มมากขึ้น
.
คำถามของหญิงคือ เราควรภูมิใจจริงๆ ใช่ไหมที่มีจำนวนผู้รับบัตรคนจนเพิ่มมากขึ้นกว่า 6.7 ล้านคน ในระยะเวลาเพียงหนึ่งปีที่ผ่านมาเท่านั้น
.
หรือถ้าจะอ้างว่า “นี่มันคือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ” ไม่ใช่ “บัตรคนจน” อย่างที่เข้าใจ แล้วทำไมเงื่อนไขที่มีมันถึงออกมาในลักษณะช่วยเหลือเฉพาะผู้มีรายได้น้อย ถ้าอ้างว่าเป็น “สวัสดิการรัฐ” มันก็ควรทำให้มันง่ายกว่านี้ไหม ลดขั้นตอน ลดกฎเกณฑ์ ลดเงื่อนไขลง หรือมากไปกว่านั้นก็ทำเป็นสวัสดิการสำหรับประชาชนทุกคนเหมือนสวัสดิการสุขภาพ 30 บาทรักษาทุกโรคไปเลยนะดีไหมคะ คือแจกให้แบบเท่าเทียมกันทั้งหมดเลย จะได้ลดความเหลื่อมล้ำอย่างที่อ้างไงคะ
.
กลับมาที่ความภูมิใจ หญิงคิดว่า “เราควรจะภูมิใจมากกว่าหรือไม่?” หากผู้รับบัตรคนจนตามเงื่อนไขของรัฐนั้นจะมีจำนวนผู้เข้ารับสิทธิน้อยลง เพราะอย่างน้อย ก็ยังจะพอทำให้อ้างได้ว่าประชาชนเริ่มมีฐานะทางเศรษฐกิจที่ดีมากขึ้น อาจจะเพราะจากการบริหารงานทางด้านเศรษฐกิจอันแสนจะมีประสิทธิภาพรัฐบาล เลยทำให้ประชาชนมีกิน มีใช้ จนไม่จำเป็นต้องพึ่งพาบัตรคนจนที่การเข้าถึงก็ยาก การคัดกรองก็วุ่นวาย ขั้นตอนก็แสนจะยุ่งเหยิง หญิงว่าเราควรจะภูมิใจกว่าไหมหากเป็นไปในลักษณะนี้มากกว่าไหม?
.
🔘 ตัวเลขบ่งชัดคนไทยจนเพิ่มขึ้น
.
นอกจากเรื่องบัตรคนจนที่มีจำนวนประชาชนขอใช้สิทธิที่เพิ่มมากขึ้นแล้ว หญิงไม่แน่ใจว่าทุกคนยังจำกันได้หรือไม่ที่ พลเอกประยุทธ์ได้ประกาศไว้ว่า “คนจน” จะหมดไปจากประเทศไทยภายในเดือนกันยายน 2565
.
แต่ทำไมตัวเลขทางสถิติกับพบว่าจำนวนคนจนที่อยู่ต่ำกว่าเส้นความยากจนหรือประชาชนที่มีรายได้ต่อเดือนต่ำกว่า 2,762 บาทมีมากกว่าถึง 5 ล้านคน แถมยังจะมาภูมิใจว่ามีผู้รับบัตรคนจนเพิ่มมากขึ้นอีก
.
รู้ไหมคะว่า ในปี 2562 มีรายงานว่ามีจำนวนคนไทยที่อดอยากยากจนสูงถึงกว่า 10 ล้านคน หากดูจากยอดผู้รับบัตรคนจนในช่วงเวลานั้นจะเห็นว่ามีจำนวนมากถึง 13.30 ล้านคน
.
จากยอดบัตรคนจน 13.30 ล้านคนดังที่กล่าวไป ปรากฎรัฐบาลกับประกาศภูมิใจอีกว่าในปีนี้หรือปี 2565 จะมีคนไทยผู้เข้าถึงบัตรคนจนมากถึง 20 ล้านคน นั่นแสดงให้เห็นว่านอกจากคนจนจะไม่หมดไปแล้ว ยังมียอดจำนวนคนจนเพิ่มมากขึ้นอีกถึง 6.7 ล้านคน ซึ่ง 20 ล้านคนเนี่ยคิดเป็นจำนวนกว่า 49% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศเลยนะ
.
ไม่เพียงเท่านั้นหนี้ครัวเรือนไทยก็เพิ่มสูงขึ้นอีกถึง 14.24 ล้านล้านบาท สภาพัฒน์ฯ เองก็เผยว่าไตรมาส 3 ของปี 2564 คนไทยมีอัตราการว่างงานสูงถึงกว่า 8.7 แสนคน สูงที่สุดตั้งแต่มีวิกฤตแฮมเบอร์เกอร์ที่เกิดขึ้นในปี 2550 พูดง่ายๆ ว่าคนไทยตกงานสูงสุดในรอบ 14 ปีที่ผ่านมาเลยนะคะ แล้วแบบนี้ยังจะภูมิใจกันอีกเหรอคะ แล้ววิธีคิดการแก้ปัญหาอยู่ไหน หญิงยังไม่เห็นความชัดเจนของรัฐบาลที่จะเร่งแก้ปัญหาเรื่องการว่างงานของประชาชนเลย
.
🔘 เงินก็เฟ้อ สินค้าก็แพง
.
ไม่เพียงเท่านั้นในขณะที่คนไทยจนมากขึ้น ขอรับสิทธิบัตรคนจนเพิ่มมากขึ้น ราคาสินค้าก็แพงขึ้นทุกวันๆ ด้วยเช่นกัน ซึ่งเป็นผลจากสภาวะเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้น รู้ไหมคะในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2565 อัตราเงินเฟ้อทั่วไปของประเทศไทยเนี่ย ขยายตัวมากถึง 5.28% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปี 2564 ซึ่งเป็นอัตราการขยายตัวสูงสุดในรอบ 13 ปีเลยนะคะ
.
และจากผลกระทบจากเงินเฟ้อที่เพิ่มสูงขึ้นนี้ มันเลยทำให้ราคาสินค้าสูงเพิ่มขึ้นตามไปด้วย รู้ไหมคะว่า สำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้ายังระบุอีกว่า มีสินค้าที่มีราคาเพิ่มขึ้นมากถึง 260 รายการ ไม่ว่าจะน้ำมันเชื้อเพลิง ค่าไฟฟ้า น้ำประปา เนื้อหมู ไข่ไก่ กับข้าวสำเร็จรูป ข้าวแกง ข้าวราดแกง น้ำมันพืช เป็นต้น และ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่เป็นปัจจัยพื้นฐานของประชาชนส่วนใหญ่ที่ต้องกิน ต้องใช้กันทั้งหมดเลยนะคะ
.
พูดง่ายๆ คือทุกอย่างมันสวนทางกันไปหมดเลย คำพูดนายกฯ ไปทางหนึ่ง สภาพความเป็นจริงไปทางหนึ่ง คำถามของหญิงคือ แล้วแบบนี้คนไทยจะหายจนตามที่นายกฯ พูดไว้ได้อย่างไรกัน?
.
เงินไม่มี หนี้ก็เยอะ ราคาสินค้าก็มาแพงขึ้นอีก หญิงถามจริงๆ แล้วเรายังจะมาภูมิใจอีกเหรอในสถานการณ์แบบนี้ ในสถานการณ์ที่ชีวิตพี่น้องประชาชน ปากท้องพี่น้องประชาชนต้องเป็นแบบนี้ อุ๊ย!! ดีใจจังคนใช้บัตรคนจนมากขึ้น กว่าปีที่ผ่านๆ มาถึง 6.7 ล้านคนแหน่ะ อย่างนี้เหรอคะ?
.
ดังนั้นสิ่งที่รัฐบาลต้องทำคือ “เลิกหลอกตัวเอง แล้วยอมรับว่า “คนไทยจนมากขึ้น” “คนไทยมีหนี้มากขึ้น” ประเทศไทยตอนนี้ตกอยู่ในสภาวะเงินเฟ้อ ทำเอาของแพง และคนไม่มีเงินนะคะ มันสวนทางกันของแพง แต่ประชาชนไม่มีเงินจะมาซื้อของมากินมาใช้ค่ะ
.
นี่คือสิ่งที่รัฐบาลต้องยอมรับ และต้องเร่งหามาตรการมาแก้ไขปัญหาอย่างจริงจัง ไม่ใช่มาภูมิใจกับจำนวนผู้รับบัตรคนจนที่เพิ่มขึ้น คือมันไม่ใช่เรื่องที่ควรจะเอาภูมิใจกันไหมคะ
.
📌 เอาจริงๆ นะคะ ถ้าคิดได้แค่นี้ หรือ ภูมิใจกันได้แค่นี้ หญิงบอกตรงๆ นะคะ ยุบสภาแล้วลองให้พรรคเพื่อไทยเข้ามาดูแลปากท้องประชาชนน่าจะดียิ่งกว่าไหม?