รัฐมนตรีต่างประเทศลิทัวเนีย ระบุจะไม่รับลี้ภัยคนรัสเซีย ชี้ควรอยู่และสู้ต้าน “ปูติน”

รัฐมนตรีต่างประเทศลิทัวเนีย ระบุจะไม่รับลี้ภัยคนรัสเซีย ควรอยู่และสู้ต้าน “ปูติน”

 

วันที่ 24 ก.ย. นายกาบรีเอลีอุส ลันด์ซเบร์กิส รัฐมนตรีต่างประเทศลิทัวเนีย โพสต์ข้อความทางทวิตเตอร์ว่า “ลิทัวเนียจะไม่รับลี้ภัยผู้แค่หนีจากความรับผิดชอบ คนรัสเซียควรอยู่และสู้ต้านปูติน”

 

ถ้อยแถลงของรัฐมนตรีต่างประเทศลิทัวเนียมีขึ้นขณะที่พลเมืองชายหนุ่มรัสเซียพยายามหนีออกนอกประเทศอย่างต่อเนื่องเพื่อเลี่ยงการเกณฑ์ทหาร หลังประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย สั่งระดมพลทหารกองหนุนบางส่วน 300,000 นายเมื่อพุธวันที่ 21 ก.ย. เพื่อเสริมกำลังการทำสงครามในยูเครน

เอเอฟพี รายงานว่า กลุ่มรัฐบอลติก ได้แก่ ลัตเวีย เอสโตเนีย และลิทัวเนีย ซึ่งมีพรมแดนกับรัสเซีย เพิ่มความเข้มงวดในการออกวีซ่าของตัวเองสำหรับผู้มาจากฟินแลนด์ไปแล้ว ซึ่งเป็นเพื่อนบ้านสหภาพยุโรป (อียู) สุดท้ายของรัสเซียที่ผู้ถือวีซ่าเชงเกนจะสามารถใช้เป็นประเทศเดินทางผ่านไปประเทศอื่นได้

ฟินแลนด์
Vehicles queue to cross the border from Russia to Finland at the Nuijamaa border checkpoint in Lappeenranta, Finland, on September 22, 2022. – Finnish border authorities said on September 22, 2022 that they had seen an increase in traffic from Russia following Putin’s announcement, but stressed that the influx was still at relatively low levels. Russian President Putin’s decision this week to mobilise several hundred thousand reservists has spurred a fresh exodus over the country’s borders. (Photo by Lauri Heino / Lehtikuva / AFP) / Finland OUT

ขณะที่รัฐบาลฟินแลนด์ประกาศเมื่อวันศุกร์ที่ 23 ก.ย. ตามเวลาท้องถิ่นว่า ฟินแลนด์จะจำกัดการเข้าเมืองของพลเมืองรัสเซียอย่างมีนัยสำคัญในช่วงไม่กี่วันข้างหน้า หลังเผชิญการไหลเข้ามาของคนรัสเซียตรงพรมแดนตะวันออกของฟินแลนด์ ตั้งแต่ปูตินสั่งระดมพลทหารกองหนุนบางส่วน

นายเปกกา ฮาวิสโต รัฐมนตรีต่างประเทศฟินแลนด์ กล่าวต่อผู้สื่อข่าวว่า เฉพาะผู้ข้ามพรมแดนเพื่อการท่องเที่ยวจะถูกห้ามเข้าประเทศ ซึ่งมีผลทั้งคนรัสเซียที่เดินทางด้วยวีซ่าท่องเที่ยวที่รัฐบาลฟินแลนด์ออกให้และวีซ่าท่องเที่ยวที่ประเทศในเชงเกนออกให้ และการตัดสินใจดังกล่าวจะสิ้นสุดในไม่กี่วันข้างหน้า

โฆษกสำนักงานชายแดนฟินแลนด์บอกเอเอฟพีว่า จำนวนคนรัสเซียเข้าฟินแลนด์เพิ่มเป็นเท่าตัว ด้วยจำนวนมากกว่า 6,000 คน เมื่อวันพฤหับสดีที่ 22 ก.ย. ตั้งแต่รัสเซียประกาศระดมพลทหารกองหนุนบางส่วนเพื่อสงครามในยูเครน

ส่วนนายกรัฐมนตรีซันนา มาริน ระบุจำเป็นต้องหยุดการท่องเที่ยวและการเดินทางของคนรัสเซีย รวมถึงการใช้ฟินแลนด์เป็นประเทศเดินทางผ่านไปประเทศอื่น

ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นหลังฟินแลนด์เรียกร้องให้อียูตัดสินใจจำกัดจำนวนวีซ่าสำหรับพลเมืองรัสเซียไปแล้ว แต่รัฐมนตรีต่างประเทศฟินแลนด์ระบุเมื่อวันพุธที่ 23 ก.ย. ไม่สามารถรับประกันได้ว่าการผลักดันนี้จะเกิดขึ้นได้อย่างรวดเร็ว

ตั้งแต่ฟินแลนด์ผ่อนคลายข้อจำกัดโควิด-19 เมื่อเดือนกรกฎาคม คนรัสเซียเดินทางเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตลอดจนกระแสต่อต้านเพิ่มขึ้นในยุโรปที่ไม่ให้นักท่องเที่ยวรัสเซียเข้ามาขณะที่สงครามในยูเครนยังคุกรุ่น

ฟินแลนด์
Passengers of a bus from Russia to Finland walk to the border control at the Vaalimaa border check point in Virolahti, Finland, on September 23, 2022. – According to the Finnish Border Guard traffic at border crossings into Finland has been increasingly busy so that the number of Russians coming to Finland has doubled in a week. (Photo by Sasu Makinen / LEHTIKUVA / AFP) / Finland OUT

ก่อนหน้านี้ หลายประเทศกำลังรับมือกับการทะลักเข้ามาของคนรัสเซียเช่นกัน

แนนซี แฟเซอร์ รัฐมนตรีกิจการภายในเยอรมนี บอกเป็นนัยเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 22 ก.ย. ว่า ผู้หลบหนีการเกณฑ์ทหารที่ถูกคุกคามด้วยการปราบปรามอย่างรุนแรงจะได้รับการคุ้มครองเป็นรายกรณีในเยอรมนีหลังการตรวจสอบความปลอดภัย

แต่หลายประเทศในยุโรป รวมถึงลิทัวเนีย ลัตเวีย เอสโตเนีย และสาธารณรัฐเช็ก ระบุจะไม่ให้คนรัสเซียลี้ภัย แถมผลักดันให้อียูดำเนินการแนวทางที่หนักขึ้นต่อรัสเซีย

นายยาน ลิปาฟสกี รัฐมนตรีต่างประเทศสาธารณรัฐเช็ก ระบุ เข้าใจว่าคนรัสเซียกำลังหนีจากการตัดสินใจที่สิ้นหวังมากขึ้นโดยประธานาธิบดีปูติน แต่คนเหล่านี้หนีเนื่องจากไม่ต้องการปฏิบัติตามหน้าที่ที่รัฐบาลรัสเซียกำหนด จึงไม่ผ่านเกณฑ์การขอวีซ่าเพื่อมนุษยธรรม

สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการระดมพลบางส่วนของปูติน กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุเมื่อวันศุกร์ที่ 23 ก.ย. ว่า คนทำงานเทคโนโลยีสารสนเทศ (ไอที) นายธนาคาร และนักข่าวที่ทำงานให้สื่อทางการ จะได้รับการยกเว้นจากการไปรายงานตัวต่อสัสดี

อย่างไรก็ตาม หนังสือพิมพ์คอมเมียร์ซัน สื่อรัสเซีย รายงานว่า ผู้ชายหลายคนที่ไม่ผ่านคุณสมบัติด้วยเหตุผลสุขภาพกลับถูกสัสดีท้องถิ่นเรียกระดมพลในแคว้นอีร์คุตสค์ ทางตะวันออกเฉียงใต้ของไซบีเรีย