หนีถูกระดมพล! ชายรัสเซียแห่เดินทางออกนอกประเทศ ‘เซเลนสกี’ ชี้ถูกส่งไปตาย

หนีถูกระดมพล! ชายรัสเซียแห่เดินทางออกนอกประเทศ ‘เซเลนสกี’ ชี้ถูกส่งไปตาย

บีบีซีรายงานว่าสถานการณ์ตามแนวชายแดนของรัสเซียยังคงวุ่นวายเมื่อผู้คนจำนวนมากพากันเดินทางออกนอกประเทศ หลังจากประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียได้ประกาศระดมกำลังทหารกองหนุนถึง 300,000 นาย ซึ่งถือเป็นการระดมกำลังพลครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 ของรัสเซีย
จำนวนแถวของผู้ไปเข้าคิวยาวเหยียดตามแนวชายแดนของรัสเซีย ขณะที่ชายรัสเซียจำนวนมากพยายามหาทางออกนอกประเทศเพื่อหลบเลี่ยงการถูกเรียกระดมกำลังพลดังกล่าว โดยมีรายงานว่าที่พรมแดนระหว่างรัสเซียกับจอร์เจียมีรถที่ไปเข้าคิวเพื่อรอออกนอกประเทศรัสเซียยาวหลายกิโลเมตร
ผู้เห็นเหตุการณ์หลายคนประเมินว่าจำนวนรถที่มาเข้าแถวรออยู่ที่จุดผ่านแดนมีความยาวถึง 5 กิโลเมตร ขณะที่คนอีกกลุ่มหนึ่งระบุว่าพวกเขาใช้เวลานานถึง 7 ชั่วโมงกว่าจะได้เดินทางออกจากรัสเซีย และยังมีภาพวิดีโอที่แสดงให้เห็นว่าคนขับรถบางคนได้ทิ้งรถของตนเองไว้เป็นการชั่วคราวเมื่อเผชิญกับสภาพการจราจรที่แน่นขนัดจนแน่นิ่ง
จอร์เจียเป็นประเทศเพื่อนบ้านของรัสเซียที่เปิดให้ชาวรัสเซียสามารถเดินทางเข้าไปได้โดยไม่จำเป็นต้องยื่นขอวีซ่า ขณะที่โปแลนด์ ซึ่งมีพรมแดนติดกับรัสเซีย 1,300 กิโลเมตรยังคงต้องมีวีซ่าสำหรับการเดินทาง แต่ก็มีรายงานการเพิ่มขึ้นของผู้เดินทางข้ามแดน ซึ่งฟินแลนด์ระบุว่ายังอยู่ในระดับที่สามารถบริหารจัดการได้
ด้านเป้าหมายอื่นๆ ที่สามารถเดินทางออกจากรัสเซียโดยเครื่องบินได้ อาทิ นครอิสตันบูลของตุรกี กรุงเบลเกรดของเซอร์เบีย และนครดูไบ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ก็มีรายงานว่าราคาตั๋วเครื่องบินพุ่งสูงขึ้นทันทีหลังมีการประกาศเรียกระดมพลเข้าร่วมรบในสงครามดังกล่าว
ในบางเป้าหมายการเดินทางมีรายงานว่า ตั๋วเครื่องบินถูกขายหมดเกลี้ยง ขณะที่สื่อตุรกีรายงานว่าตั๋วเที่ยวเดียวจากรัสเซียที่มุ่งหน้าไปยังตุรกีราคาปรับเพิ่มขึ้นอย่างมาก โดยตั๋วเครื่องบินเครื่องบินเที่ยวเดียวที่มุ่งหน้าไปยังเป้าหมายที่ไม่จำเป็นต้องใช้วีซ่าสำหรับชาวรัสเซีย ราคาถีบสูงถึงหลายพันยูโร หรือมากกว่าแสนบาท
รัฐมนตรีกระทรวงกิจการภายในของเยอรมนีส่งสัญญาณว่า ชาวรัสเซียที่หลบหนีออกนอกประเทศเพื่อหลีกเลี่ยงการเกณฑ์ทหารจะได้รับการต้อนรับเข้ามาในประเทศ อย่างไรก็ดี จะมีการพิจารณาเป็นรายบุคคลหลังผ่านการตรวจสอบข้อมูลและความมั่นคงแล้ว
ขณะที่อีกหลายประเทศ อาทิ ลิทัวเนีย ลัตเวีย เอสโตเนีย และสาธารณรัฐเช็กระบุว่า จะไม่ให้ที่หลบภัยสำหรับชาวรัสเซียแต่อย่างใด
นอกจากนี้มีรายงานว่าผู้ที่เข้าร่วมการประท้วงต่อต้านการเรียกระดมกำลังพลในเมืองหลักๆ ของรัสเซีย ซึ่งถูกจับกุมไปราว 1,300 คน บางรายถูกยื่นหนังสือเรียกเพื่อให้เข้าร่วมการเกณฑ์ทหาร ขณะถูกจับกุมอยู่ที่สถานีตำรวจ ซึ่งนายดมิทรี เปสคอฟ โฆษกรัฐบาลรัสเซียยืนยันว่า การดำเนินการดังกล่าวไม่ถือเป็นเรื่องผิดกฎหมายแต่อย่างใด
ด้านนายโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครน กล่าวปราศรัยในช่วงค่ำคืนโดยใช้ภาษารัสเซียเพื่อบอกกับพลเมืองรัสเซียว่า พวกเขากำลังถูกโยนให้ไปสู่ความตาย และถือเป็นผู้สมรู้ร่วมคิดในการก่ออาชญากรรม การฆาตกรรม และการทรมานชาวยูเครน โดยทางเลือกของชาวรัสเซียในการเอาชีวิตรอดคือการประท้วง ต่อสู้กลับ หลบหนี หรือยอมมอบตัวให้อยู่ภายใต้การจับกุมของยูเครน