ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐได้ขึ้นกล่าวถ้อยแถลงในเวทีที่ประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 77 ณ ที่ทำการใหญ่สหประชาชาติในนครนิวยอร์ก โจมตีรัสเซียว่าได้ทำการละเมิดหลักการสำคัญขององค์การระหว่างประเทศอย่างไร้ยางอายด้วยการทำสงครามในยูเครน พร้อมกับเรียกร้องให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกยืนหยัดในการให้การสนับสนุนการต่อต้านรัสเซียของยูเครน

ไบเดนได้ประณามอย่างรุนแรงต่อการรุกรานยูเครนของรัสเซียที่กินเวลานาน 7 เดือนแล้ว โดยระบุว่ารายงานเกี่ยวกับการทารุณกรรมต่อพลเรือนของรัสเซีย และความพยายามที่จะลบยูเครนรวมถึงอารยธรรมของยูเครนนั้นเป็นสิ่งที่น่าหวาดกลัวอย่างมาก

ไบเดนยังกล่าวถึงการที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซีย เพิ่งสั่งให้มีการระดมกำลังสำรองบางส่วนว่าเป็นการกระทำที่ไม่ได้รับการยอมรับอย่างมาก ซึ่งจุดชนวนให้เกิดการประท้วงขึ้นภายในรัสเซีย ทั้งยังวิพากษ์วิจารณ์รัสเซียที่จัดการลงประชามติหลอกๆ ขึ้นภายในสัปดาห์นี้ในดินแดนที่ของยูเครนที่ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย

“ประเทศสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติได้บุกรุกเพื่อนบ้าน พยายามลบรัฐที่มีอธิปไตยเป็นของตนเองออกจากแผนที่ รัสเซียได้ละเมิดหลักการสำคัญของกฎบัตรสหประชาชาติอย่างไร้ยางอาย”ไบเดนกล่าว

นอกจากนี้ผู้นำสหรัฐยังพูดถึงการท่าทีที่เป็นการคุกคามทางนิวเคลียร์ครั้งใหม่ของปูตินต่อยุโรป ว่าแสดงให้เห็นถึงการเพิกเฉยและไม่สนใจต่อความรับผิดชอบของรัสเซีย ในฐานะประเทศที่ได้ลงนามในสนธิสัญญาว่าด้วยการไม่แพร่ขยายอาวุธนิวเคลียร์

ไบเดนยังเน้นย้ำถึงผลกระทบจากการรุกรานยูเครนซึ่งถือเป็นแหล่งอาหารของโลก และให้คำมั่นว่าจะให้ความช่วยเหลือด้านความมั่นคงทางอาหารทั่วโลกเป็นมูลค่า 2.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือกว่า 1 แสนล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่เกิดจากสงครามรวมถึงผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ พร้อมกับยกย่องบทบาทของสหประชาชาติในการเปิดช่องทางสำหรับส่งออกธัญพืชของยูเครนทางทะเล และเรียกร้องให้มีการดำเนินการในข้อตกลงดังกล่าวต่อไปแม้จะเกิดความขัดแย้งอย่างต่อเนื่องก็ตาม

สำนักข่าวต่างประเทศระบุว่าถ้อยแถลงของไบเดนเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามที่จะโดดเดียวรัสเซียในเวทีโลกอันเนื่องมาจากสงครามยูเครน ไบเดนได้เรียกร้องให้ทุกประเทศไม่ว่าจะปกครองภายใต้ระบอบประชาธิปไตยหรือเผด็จการให้แสดงจุดยืนต่อต้านสงครามที่โหดร้ายและไม่จำเป็นของรัสเซีย รวมถึงสนับสนุนความพยายามของยูเครนในการป้องกันตนเอง พร้อมกับย้ำว่าเราจะยืนหยัดเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในการต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย