ธิดารัตน์ โฆษกพรรคไทยสร้างไทยหนุนพัฒนาการศึกษาให้ครอบคลุม-มีคุณภาพ ชูนโยบายปฏิรูปการศึกษาพร้อมเรียนฟรีถึง ป. ตรี

วันที่ 22 กันยายน 2565 จากการที่ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีได้กล่าวถ้อยแถลงในการประชุมระดับผู้นำว่าด้วยการพลิกโฉมการศึกษา (Transforming Education Summit) ประจำปี 2022 ของสหประชาชาติ โดยมีสาระสำคัญคือ “ไทยให้ความสำคัญกับการศึกษามาโดยตลอด เนื่องจากเป็นพื้นฐานสำคัญของการพัฒนากำลังคนและประเทศ โดยได้บรรจุการพัฒนาการศึกษาไว้ในแผนงานสำคัญของประเทศที่มุ่งเน้นการพัฒนา 3 ด้านหลัก ได้แก่ ผู้เรียนรู้ ผู้สอน และ ระบบการศึกษา ผ่านการใช้ประโยชน์ทางเทคโนโลยี และนวัตกรรม มุ่งมั่นในการสร้างหลักประกันการกลับเข้าสู่การเรียนอย่างปลอดภัยสำหรับทุกคน โดยกำหนดมาตรการที่เหมาะสมเพื่อรักษามาตรฐานและคุณภาพของระบบการศึกษา การลดภาระของผู้เรียนและเพิ่มขีดความสามารถให้แก่สถาบันการศึกษา และการพัฒนาครูให้สามารถใช้ทักษะด้านการสอนเชิงนวัตกรรมและมีความสร้างสรรค์ที่เน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง”

นางสาวธิดารัตน์ ยิ่งเจริญ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย ให้ความเห็นต่อถ้อยแถลงดังกล่าวว่าเห็นด้วยกับการกำหนดการพัฒนาการศึกษาไทยให้สอดคล้องกับเป้าหมายของการพัฒนาอย่างยั่งยืนหรือ (Sustainable Development Goals: SDGs) ในเป้าหมายที่ 4 คือ “การสร้างหลักประกันว่าทุกคนมีการศึกษาที่มีคุณภาพอย่างครอบคลุมและเท่าเทียม และสนับสนุนโอกาสในการเรียนรู้ตลอดชีวิต” เพราะเป้าหมายที่แท้จริงของการจัดศึกษาคือการพัฒนามนุษย์ ให้สามารถหลุดพ้นจากความยากจน ความหิวโหย และพัฒนาตนเองให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นตลอดช่วงอายุขัยตั้งแต่เกิดจนแก่ อย่างเสมอภาคและเท่าเทียม

ซึ่งปัจจุบันไทยยังไม่สามารถบรรลุเป้าหมายข้างต้นได้อย่างสมบูรณ์ โดยเฉพาะประเด็นความครอบคลุมและเท่าเทียมทางการศึกษา โดยตัวเลขจาก UNICEF ที่พบว่าแม้เด็กไทยที่อายุถึงเกณฑ์จะเข้าเรียนในระดับประถมถึง 95% แต่ในขณะเดียวกันเด็กไทยที่อายุถึงเกณฑ์ไม่ได้เข้าเรียนในระดับมัธยมศึกษาถึง 14% ปัญหาโรงเรียนขนาดเล็กที่มีนักเรียนต่ำกว่า 20 คนกว่า 15,244 แห่งที่ได้รับงบประมาณไม่เพียงพอต่อการจัดการเรียนการสอนให้เป็นไปตามมาตรฐาน จนนำมาสู่ความเหลื่อมล้ำระหว่างโรงเรียนขนาดใหญ่และขนาดเล็กที่คุณภาพในการจัดการศึกษาไม่เท่ากัน

ปัญหาเหล่านี้สะท้อนออกมาในรูปของผลสอบวัดคุณภาพผู้เรียนนานาชาติหรือ PISA ในปีล่าสุด ซึ่งค่าเฉลี่ยลดลงจนไทยถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 55 ในด้านวิทยาศาสตร์ อันดับที่ 59 ในด้านคณิตศาสตร์ และอันดับที่ 68 ในด้านการอ่าน จากทั้งหมด 79 ประเทศ นำหน้าเพียงฟิลิปปินส์และอินโดนีเซียเท่านั้น นอกจากนี้ การแพร่ระบาดของ COVID-19 ยังมีส่วนผลักดันผู้เรียนบางส่วนออกจากระบบและลดคุณภาพในการศึกษาลงจนส่งผลกระทบต่อนักเรียนแทบจะทุกคน ทำให้เป้าหมายในการจัดทำนโยบายการศึกษา ณ ปัจจุบัน ทั้งในจีน เวียดนาม สิงคโปร์ และฟิลิปปินส์ คือการดึงผู้เรียนให้กลับมาในระบบการศึกษาที่ถูกปรับปรุงให้มีคุณภาพในการเพิ่มพูนความรู้และพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนในระยะยาว

ด้วยเหตุนี้ พรรคไทยสร้างไทยจึงออกแบบนโยบายการศึกษาของพรรคให้สอดคล้องกับทั้งเป้าหมาย SDGs และบริบทของไทยเองภายใต้เป้าหมายเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงการศึกษา ยกระดับคุณภาพการศึกษา สนับสนุนให้เด็กค้นหาตัวตนได้เร็ว หาความรู้แบบวิทยาศาสตร์เองได้ และปรับตัวในโลกที่เปลี่ยนแปลงเร็วได้ โดยนโยบายของพรรคคือการเรียนฟรีตั้งแต่อนุบาลจนถึงปริญญาตรี ผ่านการเรียนแบบผสมผสานทั้งออนไลน์และออนไซต์ ด้วยหลักสูตรใหม่ที่กระชับ ยืดหยุ่น ให้ความสำคัญกับความรู้เชิงบูรณาการ สอดคล้องกับความต้องการในศตวรรษที่ 21 ภายใต้เวลาเรียนที่น้อยลง เปิดโอกาสให้นักเรียนเลือกเส้นทางการเรียนและสถาบันที่ต้องการ และใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยเสริมคุณภาพโรงเรียนขนาดกลางและขนาดเล็กให้ใกล้เคียงโรงเรียนขนาดใหญ่

การปฏิรูปการศึกษาตามแนวทางของพรรคจะช่วยเพิ่มคุณภาพและลดต้นทุน ทั้งต้นทุนในการจัดการเรียนการสอนและต้นทุนการเข้าถึงการศึกษาของนักเรียน ทำให้เยาวชนทุกคนในประเทศได้รับการศึกษาที่มีคุณภาพ ตอบโจทย์กับความต้องการทั้งของตัวเยาวชนเอง ครอบครัว ตลาดแรงงานและสังคมไทย ด้วยระยะเวลาที่สั้นลง ให้เด็กใช้ชีวิตกับครอบครัวมากขึ้น หาประสบการณ์ หารายได้เร็วกว่าเดิม เติบโตมาเป็นพลเมืองที่มีคุณภาพ สร้างคุณประโยชน์ต่าง ๆ ที่สามารถส่งต่อให้กับคนรุ่นใหม่และประเทศต่อไป