ผู้นำโลกรุมจวกรัสเซีย รุกรานยูเครน-ประชามติผนวกดินแดนไม่ชอบธรรม ซัดย่ำยีกฎบัตรยูเอ็น

วันที่ 21 กันยายน 2565 รอยเตอร์สรายงานว่า บรรดาชาติตะวันตกต่างออกมาประณามรัสเซียระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติ ในเรื่องการรุกรานยูเครน รวมถึงการเร่งรีบจัดทำประชามติเพื่อผนวกดินแดนทั้ง 4 แคว้นของยูเครนที่รัสเซียและกลุ่มแบ่งแยกดินแดนนิยมรัสเซียครอบครองที่จะเกิดในอีกไม่ช้า

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง – ยูเครน-ชาติตะวันตก ประณามแผนรัสเซียเร่งรีบทำประชามติรับรอง 4 เขตยึดครอง

นายโอลาฟ ช็อลทซ์ นายกรัฐมนตรีเยอรมนี ประณามแผนการของรัสเซียในการลงประชามติเป็นการหลอกลวง ขณะที่ประธานาธิบดีเอมมานูเอล มาครง แห่งฝรั่งเศส ระบุว่า การลงประชามติดังกล่าวเป็นการล้อเลียนประชาธิปไตย

นายมาครงกล่าวระหว่างการเข้าร่วมสมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติว่า “หากความคิดการลงประชามติภูมิภาคดอนบัสไม่ใช่เรื่องน่าเศร้าขนาดนั้นคงเป็นเรื่องน่าขำ” และวิงวอนให้บรรดาประเทศที่เป็นกลางเปลี่ยนจุดยืนของตัวเองต่อสงครามในยูเครน โดยระบุว่า การนิ่งเงียบหรือการสมรู้ร่วมคิดเป็นความผิดพลาดทางประวัติศาสตร์

นายเจค ซัลลิแลน ที่ปรึกษาความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐ ระบุว่า สหรัฐจะไม่ยอมรับการลงประชามติดังกล่าว โดยระบุการดูหมิ่นหลักการอธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดน

นอกจากนี้ องค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต) ระบุว่า แผนการลงประชามติจะทำให้สงครามทวีความรุนแรงขึ้น ขณะที่องค์การว่าด้วยความมั่นคงและความร่วมมือในยุโรป (โอเอสซีอี) ระบุในแถลงการณ์ว่า การลงประชามติใดก็ตามที่มาจากกองกำลังรุกรานนั้นเป็นการขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศและจะไม่มีอำนาจทางกฎหมายใดๆ

ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ขอบคุณพันธมิตรที่ให้การสนับสนุนท่ามกลางข่าวอื้ออึงของรัสเซีย

ย่ำยีกฎบัตรสหประชาชาติ

ขณะที่ นายคิชิดะ ฟูมิโอะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น ได้แสดงความเห็นในที่ประชุมสมัชชาใหญ่ ประณามรัสเซียในการรุกรานยูเครนว่าเป็นทำลายเสถียรภาพของระเบียบระหว่างประเทศจนไปถึงหลักการของระเบียบ และกล่าวอีกว่า นิติรัฐย่อมอยู่เหนือการบีบบังคับด้วยอำนาจ

“การรุกรานยูเครนของรัสเซียเป็นการกระทำที่เหยียบย่ำปรัชญาและหลักการของกฎบัตรสหประชาชาติ …เป็นสิ่งที่ไม่ยอมรับได้” นายกฯคิชิดะ กล่าวและยังประณามรัสเซียที่ข่มขู่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์ว่า ภัยคุกคามจากอาวุธนิวเคลียร์ เช่นเดียวกับที่รัสเซียทำในครั้งนี้ นับเป็นภัยคุกคามร้ายแรงต่อสันติภาพและความปลอดภัยของประชาคมระหว่างประเทศ และไม่เป็นที่ยอมรับ

สั่งเคลื่อนพลเสริมอีก 3 แสนนาย ขู่ใช้ทุกศาสตราหากอาณาเขตถูกคุกคาม

บีบีซี รายงานความคืบหน้าสงครามในยูเครนว่า ประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย ประกาศระดมพลบางส่วนในรัสเซียสำหรับ “ปฏิบัติทางทหารพิเศษ” ในยูเครน และว่าตะวันตกแสดงออกว่าเป้าหมายคือการทำลายรัสเซียและพยายามทำให้ประชาชนยูเครนกลายเป็นกลายวัตถุเพื่อทำสงคราม พร้อมย้ำว่าเป้าหมายของรัสเซียคือปลดปล่อยภูมิภาคดอนบาส (แคว้นลูฮันสค์และแคว้นโดเนตสค์ ทางตะวันออกของยูเครน) ท่ามกลางการรบยืดเยื้อหลายเดือน ที่รัสเซียเข้ายึดพื้นที่คืบไปเขตซาโปริซเซียและเคอร์ซอน ก่อนกองทัพยูเครนสามารถโต้กลับและขับไล่ทัพรัสเซียพ้นเขตคาร์คิฟพร้อมกอบกู้พื้นที่ได้ทั้งหมด และกำลังโถมเน้นโจมตีเข้าตีแนวป้องกันรัสเซียที่กำลังอ่อนแอในแคว้นโดเนสตก์

ประธานาธิบดีรัสเซียระบุจำเป็นต้องตัดสินใจอย่างเร่งด่วนเพื่อปกป้องบูรณภาพแห่งดินแดน ประชาชนในดินแดนยูเครนที่ได้รับการปลดปล่อยจากรัสเซีย จึงขอให้กระทรวงกลาโหมเห็นชอบการระดมพลบางส่วน และลงนามกฤษฎีกาดังกล่าวแล้วซึ่งเริ่มมีผลตั้งแต่วันนี้ โดยพลเรือนทุกคนที่จะต้องระดมพลจะมีสถานะกองกำลังติดอาวุธเต็มรูปแบบ

ประธานาธิบดีปูตินกล่าวอ้างว่า ตะวันตกแสดงความไม่ต้องการสันติภาพระหว่างยูเครนกับรัสเซีย และกำลังขู่รัสเซียด้วยนิวเคลียร์ แต่ว่ารัสเซียมีอาวุธมากมายที่จะตอบโต้และไม่ได้หลอกลวง นอกจากนี้ ผู้นำรัสเซียสั่งเพิ่มงบประมาณเพื่อเพิ่มการผลิตอาวุธของรัสเซีย

ระดมพล

EPA

“เราจะใช้ทรัพยากรทั้งหมดที่เรามีเพื่อปกป้องประชาชนของเรา ผมเชื่อมั่นในการสนับสนุนของท่าน” ปูตินกล่าวและว่าว่าตนจะมอบสถานะทางกฎหมายแก่อาสาสมัครที่สู้รบในภูมิภาคดอนบาส

ปูตินยังกล่าวว่า ประชาชนที่อาศัยอยู่ใน 4 แคว้นของยูเครนภายใต้การควบคุมของรัสเซียไม่ต้องการอยู่ภายใต้แอกของนีโอนาซี และกล่าวถึงแผนการลงประชามติใน 4 แคว้นดังกล่าวว่า “เราสนับสนุนประชาชนเหล่านี้” ปูตินกล่าว

ปูติน
พล.อ.เซียร์เกย์ ชอยกู และประธานาธิบดีวลาดีมีร์ ปูติน / REUTERS

ต่อมา โทรทัศน์แพร่เทปสัมภาษณ์ล่วงหน้าของพล.อ.เซอเกย์ ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซีย ที่จะการระดมพลทหารกองหนุนราว 300,000 นาย และยืนยันว่าทหารบางส่วนที่จะต้องระดมพลจะเป็น ผู้มีประสบการณ์การรบ

ทั้งนี้ ความสูญเสียของกำลังพลฝั่งรัสเซียจากการสู้รบในยูเครน แม้จะไม่มีตัวเลขอย่างเป็นทางการหรือการพิสูจน์ข้อเท็จจริง แต่ตัวเลขที่มีการประเมินคาดว่ารัสเซียเสียกำลังพลกว่า 54,000 นาย ยังไม่รวมทหารที่สูญหายจากการสู้รบหรือหลบหนี ทำให้มีข่าวและคลิปวิดีโอถูกเผยแพร่บนโลกโซเชียลถึงการประกาศรับสมัครทหารเพิ่มโดยทางการรัสเซีย หรือแม้แต่กองกำลังทหารรับจ้างของรัสเซียอย่างกลุ่มวากเนอร์ ก็มีภาพของเยฟเกนี พลิโกซิน มหาเศรษฐีรัสเซียที่ใกล้ชิดกับปูติน ซึ่งเป็นผู้บริหารบริษัทหน่วยทหารรับจ้างนี้ ได้เข้าไปรับสมัครอาสาสมัครที่เป็นนักโทษถูกจองจำเข้าเป็นทหารไปรบในยูเครน โดยให้ข้อเสนอไปรบในยูเครนครบ 1 ปี ก็ได้รับอภัยโทษ