‘ชัชชาติ’ พร้อมรับฝนระลอกใหม่ ชี้แนวทาง ‘ฟลัดเวย์’ ไม่เวิร์ก

‘ชัชชาติ’ พร้อมรับฝนระลอกใหม่ ชี้แนวทาง ‘ฟลัดเวย์’ ไม่เวิร์ก

 

วันที่ 19 กันยายน 2565 นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่กรุงเทพฯ ว่าสถานการณ์ฝนและน้ำในคลองดีขึ้น คลองมีการพร่องน้ำออกให้อยู่ต่ำกว่าระดับควบคุม แต่ยังมีบางจุดน้ำท่วมขัง ได้ส่งเจ้าหน้าที่ช่วยสูบน้ำออกแล้ว มีการตรวจสอบปริมาณน้ำฝนที่ตกในเดือนกันยายน พบว่าเพิ่มขึ้น 2.5 เท่า หรือกว่า 400 มิลลิเมตร จากปกติค่าเฉลี่ยเดือนกันยายนย้อนหลัง 30 ปี อยู่ที่ประมาณ 100 มิลลิเมตร ซึ่ง กทม.เตรียมพร้อมรับมือฝนระลอกใหม่ทุกจุด เร่งขุดลอกท่อ เร่งระบายน้ำให้ได้มากที่สุด

นายชัชชาติกล่าวต่อว่า ส่วนสถานการณ์น้ำเหนือและน้ำทะเลหนุนยังไม่น่าเป็นห่วง หากเกิดน้ำหนุนยังพอมีช่องว่างให้ระบาย ซึ่งปลายเดือนกันยายนจะมีน้ำหนุนมาอีกที ขึ้นอยู่กับกรมชลประทานจะปล่อยน้ำเหนือมากแค่ไหน จะมีการประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องอย่างเข้มข้น

“แต่ก่อนพื้นที่กรุงเทพฯฝั่งตะวันออกเป็นพื้นที่ Flood way หรือทางวิ่งน้ำท่วมลงมา แต่ปัจจุบันพื้นที่กายภาพเปลี่ยนไปแล้ว มีทั้งถนนกรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ ถนนบางนา-ตราด มีสนามบินสุวรรณภูมิ การใช้แนวคิด Flood way แบบเดิมอาจจะไม่สะดวกแล้ว เพราะมีสิ่งปลูกสร้างต่างๆ เยอะแยะ” นายชัชชาติกล่าว

นายชัชชาติกล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการลุ่มน้ำท่าจีน ว่าเป็นการหารือภาพรวมการระบายน้ำในที่ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับกรุงเทพฯทั้งหมด โดย กทม.เข้าไปนั่งเป็นคณะกรรมการ 3 ลุ่มน้ำ ประกอบด้วย ลุ่มแม่น้ำท่าจีน ลุ่มแม่น้ำเจ้าพระยา และลุ่มแม่น้ำบางปะกง โดยกรมชลประทานมีหน้าที่ในการผันน้ำเป็นหลัก กรุงเทพฯเป็นฝ่ายรับน้ำ

“ก็ต้องรู้ว่าน้ำจะมาตรงไหน เมื่อไร อย่างคลองมหาสวัสดิ์ ฝั่งกรุงเทพฯมีเขื่อนกั้น ส่วนนนทบุรีไม่มีเขื่อนกั้นน้ำ ทำให้เวลาน้ำมาก็ไปท่วมฝั่งนนทบุรี แต่ถ้าทุกจังหวัดมีเขื่อนหมด น้ำก็จะไหลเร็วขึ้น ความร่วมมือระหว่างจังหวัดจึงเป็นเรื่องสำคัญ” นายชัชชาติกล่าว