“เพื่อไทย” แจงหลัง “ภูมิใจไทย” ดราม่าถูกถอนร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ ยัน ไม่เห็นด้วยใช้เชิงสันทนาการ แนะ เปิดใจกว้างฟังคนอื่น อย่าทำเหมือนเด็ก

เมื่อวันที่ 16 กันยายน ที่รัฐสภา นายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) แถลงจุดยืนพรรคต่อร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) กัญชา กัญชง (ฉบับที่…) พ.ศ. … ที่ถูกถอนออกไปปรับปรุงแก้ไข ว่า ร่างพ.ร.บ.ดังกล่าวสามารถทำได้ แต่ต้องไม่ใช่กัญชาเพื่อสันทนาการ จุดยืนของเราต้องเป็นกัญชาทางการแพทย์มาตลอด ทั้งนี้ พรรค พท.เฝ้ามองมาตลอดว่า ถ้ารัฐบาลทำในกรอบทางการแพทย์จะสนับสนุน แต่ถ้าเกินจากกรอบนี้เราไม่สนับสนุน ที่ผ่านมาตั้งแต่ปี 2562 รัฐบาลมีเวลาในการวางแผน และจัดระเบียบเรื่องการควบคุม ซึ่งรัฐบาลและพรรคภูมิใจไทย (ภท.) ควรเสนอกฎหมายควบคุมก่อนค่อยออกประกาศกระทรวงสาธารณสุข แต่สิ่งที่เกิดขึ้นมีประกาศกระทรวงสาธารณสุข เพื่อปลดล็อกกัญชา เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ 2564 ขณะที่ยังไม่มีกฎหมายควบคุม นี่คือข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้น

นายสุทิน กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังพบว่าในประกาศกระทรวงสาธารณสุขไม่ใช่กัญชาทางการแพทย์อย่างเดียว แต่เป็นกัญชาทางสันทนาการ เรายิ่งมีความเป็นห่วง เพราะไม่มีข้อใดที่ห้ามเสพ ห้ามพี้ รวมถึงรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ยังเชิญชวนให้พี้ได้ ซึ่งพรรค พท. ท้วงติงมาตลอดว่าประกาศกระทรวงสาธารณสุขเลยเถิดเกินไป แต่ที่พรรคเพื่อไทยให้โอกาสรัฐบาลเสนอร่างพ.ร.บ.กัญชาฯ เข้ามาในสภาฯ เพื่อที่จะควบคุมการใช้เราจึงยกมือรับหลักการให้วาระแรก โดยตั้งความหวังว่าในชั้นกรรมาธิการ (กมธ.) จะไปแก้ไขปรับปรุงให้มีการควบคุมที่ดี โดยเฉพาะสิ่งที่สังคมกังวล ซึ่งมีความเราคาดหวังว่า

“แต่สุดท้ายพบว่าไม่มีการควบคุมการนำไปใช้ในทางที่ผิดเลย และยังพบว่า ในร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ ส่งเสริมให้ใช้ในทางสันทนาการด้วย ดังนั้น เมื่อเข้าสู่สภาฯอีกครั้ง มีความเป็นห่วงจากทุกองค์กรที่ได้ส่งข้อมูลให้ส.ส.ช่วยยับยั้งร่างกฎหมายฉบับนี้ พรรคเพื่อไทยต้องฟังเสียงทุกฝ่าย ประกอบกับที่เราติดตามมาตลอด เห็นตรงกันว่า ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้น่าผิดหวังอย่างมาก ซึ่งเกินหลักการที่ให้ไว้ และมีการเพิ่มมาตราจำนวนมาก โดยเป็นการเพิ่มเพื่อส่งเสริมให้ใช้กัญชาทางสันทนาการ”

“ไม่ได้มีเพียงพรรคเพื่อไทยกับพรรคประชาธิปัตย์ที่ลงมติให้ถอนร่างออกไปก่อน ในพรรครัฐบาลเองก็มี หากพรรคภูมิใจไทยไปตรวจสอบดูจะเห็นว่าพรรคพลังประชารัฐ กับพรรคประชาธิปัตย์ ก็เห็นตรงกันกับพรรคเพื่อไทย จะมาบอกฝ่ายค้านเตะถ่วงคงไม่ใช่ เพราะรัฐบาลก็ขัดขวางกันเอง ส่วนจะมีพรรคฝ่ายค้านไปลงมติเห็นด้วย ไม่ใช่ว่าเขาไม่ค้าน แต่ให้พิจารณาไปก่อนแล้วค่อยคว่ำ จึงฝากให้สังคมพิจารณาว่าไม่ใช่เฉพาะพรรคเพื่อไทย แต่มีพรรคประชาธิปัตย์กับพรรคพลังประชารัฐด้วย พรรคภูมิใจไทยต้องเปิดใจกว้างฟังประชาชน องค์การทางสังคม สภาฯ และพรรคร่วมรัฐบาลด้วย แต่นี่ไม่ฟังใครเลย ซึ่งเป็นที่น่าสังเกตว่าไม่ฟังขนาดนี้เพื่ออะไร และพอร่างถูกถอนออกไป ก็มีดราม่าว่าพรรคเพื่อไทย และพรรคประชาธิปัตย์ ขัดขวางหากเกิดปัญหาต้องรับผิดชอบ การพูดแบบนี้เหมือนเป็นเด็ก” นายสุทิน กล่าว

นายสุทิน กล่าวต่อว่า วันนี้ถ้ายังออกกฎหมายฉบับนี้คนจะล้นคุก คนจะเสพยาเต็มบ้านเต็มเมือง อาชญากรรมจะเกิดขึ้นจนคุกไม่มีที่ขัง แต่ถ้าให้กัญชากลับไปเป็นยาเสพติดก็ไม่ต้องตกใจ เพราะไม่มีการตามจับย้อนหลังอยู่แล้ว วันนี้ที่เป็นแบบนี้เพราะรัฐบาลกลัดกระดุมเม็ดแรกผิด ที่ประกาศให้กัญชาออกจากบัญชียาเสพติด ดังนั้น ปัญหาทั้งหมดที่เกิดขึ้น พรรค พท.เป็นคนตามแก้ให้ไม่ใช่ขัดขวาง ซึ่งไม่ใช่เฉพาะพรรค พท. แต่พรรครัฐบาลด้วย รวมถึงองค์กรทางการแพทย์ ซึ่งมีแต่พรรครัฐบาลบางพรรคที่ไม่ฟังทุกฝ่ายเลย

ด้าน นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรค พท. กล่าวถึงกรณีที่มีการระบุว่าคนของพรรค พท.ไปทำธุรกิจกัญชา ว่า เราไม่ได้ไปดูเรื่องการลงทุน เพราะเป็นธุรกิจของเขาเราไม่เกี่ยว ทั้งนี้ พรรค พท.ไม่เคยตกใจกับนโยบายของพรรคไหนเลย ไม่เกี่ยวกับประเด็นการเมือง แต่เราจะทำอย่างไรที่จะปกป้องสังคมส่วนรวมได้ ดังนั้น ก่อนจะโทษใครต้องมองตัวเองก่อน ไม่ต้องไปโยนให้พรรคอื่น