‘ตรีชฎา’ จวกกลับ ‘ทิพานัน’ เลี้ยงเสียข้าวสุก ถามกลับใครครอบงำ พปชร.จนถูกร้องยุบพรรค

‘ตรีชฎา’ จวกกลับ ‘ทิพานัน’ เลี้ยงเสียข้าวสุก ถามกลับใครครอบงำ พปชร.จนถูกร้องยุบพรรค

เมื่อวันที่ 15 กันยายน น.ส.ตรีชฎา ศรีธาดา รองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวกรณี น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ รองโฆษกรัฐบาล กล่าวโจมตีการแสดงความเห็นของ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โดยกล่าวหาว่านายทักษิณชี้นำให้เลือกพรรค พท.ว่า น.ส.ทิพานันต้องตั้งสติ ใช้ปัญญาคิดทบทวนไตร่ตรองให้ดีว่าการเข้ามาทำงานการเมืองในตำแหน่งรองโฆษกประจำสำนักนายกฯ เป็นข้าราชการการเมือง กินเงินเดือนที่มาจากภาษีประชาชน ทำงานในทำเนียบรัฐบาล ควรมีจิตคิดสำนึกทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่องานราชการแผ่นดิน ต่อพี่น้องประชาชน

“อย่าแสดงพฤติกรรมที่ขาดสำนึก การพาดพิงถึงนายทักษิณและพรรค พท. โดยการใช้ตำแหน่งหน้าที่ของตัวเองในทางที่มิชอบ อาจเข้าข่ายกระทำการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 157 ดังนั้น ก่อนที่ น.ส.ทิพานันจะสั่งสอนผู้อื่น ต้องย้อนกลับมาดูที่การกระทำของตนเองด้วย” น.ส.ตรีชฎากล่าว

น.ส.ตรีชฎากล่าวต่อว่า อยากเตือนความจำ น.ส.ทิพานัน ว่าเอาแต่ท่องจำตัวบทกฎหมายมาขู่ฝ่ายตรงข้าม แต่ในความเป็นจริงที่เกิดขึ้นในพรรคตัวเอง กลับลืม คนที่กระทำการสุ่มเสี่ยงครอบงำพรรคอื่นจนถูกร้องยุบพรรค คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ น.ส.ทิพานันเชิดชู เดือนตุลาคม 2564 มีคนร้องเรียน พล.อ.ประยุทธ์ กรณีเรียก 6 รัฐมนตรีของพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เข้าหารือเมื่อวันที่ 25 ตุลาคมอาจเข้าข่ายผิดพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง มาตรา 28 และมาตรา 29 หรือไม่ หรือเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา หัวหน้าพรรค พปชร.ของ น.ส.ทิพานันอย่าง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ก็ออกมายอมรับว่าคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา และเลขาธิการพรรคเศรษฐกิจไทย (ศท.) ในประเด็นไม่ไปกินข้าวเย็นร่วมกับพรรค พท. กลุ่ม 16 และพรรคเล็ก ก็ล้วนเป็นการกระทำที่ก้าวก่ายแทรกแซงการทำงานของพรรคการเมืองอื่น ซึ่งอาจจะนำไปสู่การยุบพรรค พปชร.ทั้งสิ้น

น.ส.ตรีชฎากล่าวอีกว่า น.ส.ทิพานันควรจะกลับไปมองตัวเองก่อนจะเข้ามาจุ้นจ้านกิจการพรรคอื่น หรือโจมตีข้อเสนอดีๆ ที่มีประโยชน์ต่อประเทศของนายทักษิณ ควรกลับไปทำตามนโยบายที่หาเสียงไว้ให้ได้ก่อน เรื่องค่าแรงก็เป็นหนึ่งในนั้น หาเสียงไว้ว่าจะขึ้นเป็น 425 บาทต่อวัน ตอนนี้ไปถึงไหน หรือ น.ส.ทิพานันสะเทือนใจที่พรรคการเมืองที่ตัวเองสังกัด หาเสียงเรื่องขึ้นค่าแรงเอาไว้แล้วทำไม่ได้เลยด้อยค่า อิจฉาริษยาในข้อเสนอของนายทักษิณ ที่เสนอให้รัฐบาลต่อไปเพิ่มค่าแรงเป็นวันละ 800 บาทกันแน่ ทั้งนี้ นายทักษิณเป็นอดีตนายกรัฐมนตรี ที่สร้างคุณูปการให้กับประเทศไทยมากมาย ประสบการณ์การทำงานบริหารราชการแผ่นดินนั้นคนละชั้นกับรัฐบาลนี้ เรียกได้ว่าต่างกันยิ่งกว่าฟ้ากับเหว มีความรู้ ความสามารถ เป็นนายกฯ ที่มาจากการเลือกตั้งของคนไทย ประชาชนลงคะแนนเสียงเลือกมาอย่างถล่มทลายสองสมัย เช่นเดียวกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี ที่มาจากการเลือกตั้งที่ประชาชนเลือกมาด้วยคะแนนสูงสุด แต่มาถูกยึดอำนาจโดยใช้กำลังทหาร

“ประชาชนจ้าง น.ส.ทิพานันมาทำงาน ควรสำนึกไว้บ้างว่าภาษีทุกบาทคือประชาชนจ่าย ควรทำตัวให้เป็นประโยชน์ต่อประชาชน ประชาชนจะว่าเอาได้ว่าเลี้ยงเสียข้าวสุก ไม่ควรไร้มารยาทวิจารณ์พรรคการเมืองอื่นด้วยการนั่งมโนไปเรื่อยๆ คนที่ครอบงำพรรค พท.ได้คือประชาชนที่เลือกพรรค พท.เท่านั้น น.ส.ทิพานันต้องหยุดวาจาใส่ร้ายป้ายสีที่จะกลายเป็นนิสัยที่ติดตัวตลอด ให้อายถึงวงศ์ตระกูลสืบลูกสืบหลาน สำเนียงส่อภาษากิริยาส่อสกุลเช่นนี้คนเขาจะมองย้อนไปถึงบุพการีเอาได้ ว่าสอนกันมาอย่างไร ประชาชนต้องอับอายที่มีนายกฯ ที่ยกมือยิ้มร่ายอมรับว่าตนเองรัฐประหารมาอยู่แล้ว ยังต้องมาอับอายที่ต้องมีรองโฆษกรัฐบาลแบบนี้ ความกลัวทำให้เสื่อม กลัวเพื่อไทยมากจนโงหัวไม่ขึ้น วนเวียนอยู่กับการโจมตีผู้อื่นไปวันๆ เพื่อให้ตัวเองอยู่รอดแบบนี้ไม่ควรอยู่ในตำแหน่งรองโฆษกรัฐบาล” น.ส.ตรีชฎากล่าว