วันที่ 14 กันยายน เวลา 11.40 น. นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. ถ่ายทอดสดผ่านเฟซบุ๊กที่ศูนย์บริการสาธารณสุข 46 สาขาขุมทอง เขตลาดกระบัง กรุงเทพฯ หลังจากพลเอก อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ลงพื้นที่เยี่ยมชมจุดติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ปภ. สะพานคลองพระยาเพชร ถนนหลวงแพ่ง เขตลาดกระบัง

ในตอนหนึ่ง นายชัชชาติกล่าวว่า เมื่อสักครู่ตนได้คุยกับ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่าขณะนี้ต้องระบายน้ำเท่าที่มีก่อน ต้องดูแลเรื่องการระบายน้ำฝั่งตะวันออกในภาพรวมเพราะจะเกี่ยวข้องกับหลายจังหวัด ทั้งฉะเชิงเทรา สมุทรปราการ ต้องเป็นแผนรวมของประเทศ นอกจากนี้ยังได้คุยเรื่องการวางแผนระยะยาว จะเห็นได้ว่ากรุงเทพฯข้างในสามารถระบายน้ำได้เร็วขึ้น แต่ก็มีจุดที่ทำไม่ดีต้องปรับปรุง แต่เส้นเลือดใหญ่ในระยะยาวต้องดูแผนใหม่ แต่เส้นเลือดใหญ่ฝั่งตะวันออกเอาน้ำเข้ากรุงเทพฯเหมือนเดิมไม่ได้แล้ว กรุงเทพฯของเราล้อมด้วย 3 ด้าน ล้อมด้วย อ.แปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา , อ.ปากน้ำ จ.สมุทรปราการ และล้อมด้วยกรุงเทพฯฝั่งตะวันตก อย่างกรุงเทพฯเราทำอยู่แล้วเพราะเรานำน้ำเข้าคลองประเวศบุรีรมย์ เพราะฉะนั้น ต้องดูภาพรวมว่าเส้นเลือดใหญ่ฝั่งตะวันออกจะทำอย่างไร กทม.ทำคนเดียวไม่ได้ต้องเป็นแผนน้ำรวมของประเทศ

“ณ เวลานี้มันต้องเอาเส้นเลือดใหญ่เท่าที่มีก่อนและใช้ให้เต็มกำลัง ส่วนเส้นเลือดฝอยมันสามารถปรับปรุงได้ในระยะเวลาอันสั้น เช่น ลอกท่อ ซึ่งก็ดำเนินการอยู่ ท่อที่อุดตันจากการก่อสร้าง ท่อที่ไม่ได้ลอก หรือคลองที่ขุดได้ก็ขุด ส่วนเส้นเลือดใหญ่คงติ้งมาทบทวนแผนซึ่งเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน” นายชัชชาติกล่าว

นอกจากนี้ นายชัชชาติกล่าวด้วยว่า การลงพื้นที่ทำให้เราได้คุยกับคนหน้างานจริงๆว่าปัญหาคืออะไร และมีบางคนกังวลว่าเราโดนหลอก เราสั่งงานข้ามหัวกัน ซึ่งไม่มี เพราะทุกคนลงมาพร้อมกัน การลงพื้นที่และได้คุยกับคนหน้างานทำให้เราได้ข้อมูลจริง ช่วยให้เราตัดสินใจได้ดีขึ้น ผู้ว่าฯกทม.เองก็ไม่ได้มีอำนาจไปสั่งเปิดประตูน้ำ เพราะคนเปิดต้องรู้เทคนิคจริงๆ เพราะฉะนั้นไม่มีการสั่งข้ามหัวกัน ตนคิดว่ามันเป็นลำดับชั้นอยู่แล้ว ต้องฟังประสบการณ์