วิโรจน์ รุดดูพื้นที่น้ำท่วมปทุมธานี เผยปัญหาหลักเกิดจากประตูน้ำชำรุด 9 จาก 11 แห่ง ทำให้จัดการน้ำไม่ได้ ด้านสมุทรปราการน้ำระบายไม่ทัน หวั่นวันจันทร์จราจรอัมพาต

ปริมณฑลอ่วม ปทุม-สมุทรปราการ กอดคอกันจมบาดาล วิโรจน์ ก้าวไกลเร่งช่วยเหลือ
วิโรจน์ รุดดูพื้นที่น้ำท่วมปทุมธานี เผยปัญหาหลักเกิดจากประตูน้ำชำรุด 9 จาก 11 แห่ง ทำให้จัดการน้ำไม่ได้ ด้านสมุทรปราการน้ำระบายไม่ทัน หวั่นวันจันทร์จราจรอัมพาต

วิโรจน์ ลักขณาอดิศร อดีตผู้สมัครผู้ว่าฯ กทม. และอดีตส.ส. จากพรรคก้าวไกล เดินทางไปยังพื้นทีที่ได้รับผลกระทบจากปริมาณน้ำเอ่อล้น จังหวัดปทุมธานี โดยมีคณะทำงานพรรคก้าวไกล จังหวัดปทุมธานี ร่วมเดินทางไปพบพี่น้องประชาชน และเข้าให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น ด้านวิโรจน์ หลังจากเดินทางไปยังอำเภอลำลูกกา และอำเภอธัญบุรี ได้กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า ปัญหาของสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ปทุมธานี สาเหตุหลัก เกิดจากการทำงานของประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ เนื่องจากที่ผ่านมาประตูน้ำจุฬาลงกรณ์มีปัญหาชำรุด จนไม่สามารถใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพทำให้เกิดปัญหาน้ำท่วมบ้านเรือนพี่น้องประชาชน หลังจากที่ฝนตกลงมาอย่างหนัก และมีปริมาณน้ำสูงขึ้นในคลองรังสิต

ซึ่งวิโรจน์ ได้อธิบายถึงสถานการณ์ ที่เกิดขึ้นไว้ว่า ประชาชนได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมหนักที่สุดในช่วงวันเสาร์ ซึ่งระดับน้ำสูงถึงเอว เมื่อตรวจสอบสาเหตุของน้ำท่วมพบว่า สาเหตุหลักเกิดจากระบบสูบน้ำบริเวณโครงการชลประทานรังสิตใต้ หรือบริเวณประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ชำรุดและไม่ได้รับการซ่อมแซม จึงไม่มีความพร้อมในการรับมือกับสภาพฝนและปริมาณน้ำที่มากของปีนี้ ซึ่งเมื่อเดือนเมษายนปี 2565 มีหลักฐานระบุว่ามีการของบประมาณสำหรับซ่อมแซมประตูน้ำจุฬาลงกรณ์แต่กลับไม่ได้รับงบประมาณเพื่อมาซ่อมแซม ทำให้ระบบสูบน้ำไม่สามารถทำงานได้ตามประสิทธิภาพ เมื่อไม่สามารถทำงานได้ตามประสิทธิภาพจึงทำให้เกิดน้ำท่วมทะลักเข้ายังหมู่บ้านของพี่น้องประชาชน

วิโรจน์ เสนอแนวทางการแก้ไขปัญหาไว้ว่า เบื้องต้นคณะทำงานพรรคก้าวไกล จังหวัดปทุมธานี จะติดตามการทำงานของประตูน้ำจุฬาลงกรณ์เป็นระยะ และเร่งประสานงานกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อช่วยเหลือ สูบน้ำออกจากบ้านเรือนของพี่น้องประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ต่ำให้เร็วที่สุด และหากปัญหาน้ำท่วมยังไม่มีสัญญาณลดลง ตนเสนอว่าให้ทางภาครัฐประกาศพื้นที่ภัยพิบัติให้เร็วที่สุด เพื่อทำการช่วยเหลือและเยียวยาพี่น้องประชาชนได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

ด้านคณะทำงานพรรคก้าวไกล จังหวัดปทุมธานี ที่ได้ร่วมเดินทางไปกับวิโรจน์ ได้ให้ข้อมูลเพิ่มเติมแก่ผู้สื่อข่าวว่า บริเวณอำเภอลำลูกกาและอำเภอธัญบุรี เป็นพื้นที่ที่ใกล้ชิดกับคลองรังสิต ซึ่งเป็นพื้นที่รับน้ำจากทุกเส้นทาง ยกตัวอย่างบางเส้นทางเช่น รับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านประตูระบายน้ำพระอินทร์เข้าคลองระพีพัฒน์แล้วไหลเข้าคลอง 1 ถึง คลอง 12 ทางด้านเหนือ แล้วไหลลงคลองรังสิตทางด้านใต้ รับน้ำบางส่วนจากแม่น้ำนครนายกบางส่วนเข้าคลองรังสิต คลองรังสิตรับน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาผ่านคลองเปรมประชากร น้ำจากกรุงเทพถูกผันไปที่คลองรังสิตผ่านทางคลอง 2 หรือแม้กระทั่งปัจจัยน้ำทะเลหนุนสูง ก็ส่งผลกระทบกับคลองรังสิตโดยตรง นอกจากนี้ ทางคณะทำงานพรรคก้าวไกล จังหวัดปทุมธานี ได้สำรวจสถานีสูบน้ำที่ปากคลองรังสิต พบว่าชำรุดและใช้งานไม่ได้จำนวน 9 เครื่อง ใช้งานได้ 11 เครื่อง ปัจจัยเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อปัญหาน้ำท่วมบ้านเรือนพี่น้องประชาชนโดยตรง พร้อมกับสภาพอากาศที่มีฝนตกตลอดทั้งสัปดาห์

นอกจากจังหวัดปทุมธานีที่ได้รับผลกระทบจากปัญหาน้ำท่วม จังหวัดสมุทรปราการก็เป็นอีกพื้นที่หนึ่งที่ประสบปัญหา คณะทำงานพรรคก้าวไกล จังหวัดสมุทรปราการ ได้แจ้งว่า พรรคก้าวไกล จังหวัดสมุทรปราการ เดินทางไปช่วยเหลือพี่น้องประชาชนในระดับเบื้องต้นที่ตำบลบางเพรียง อำเภอบางบ่อ และตำบลบางเสาธง ซึ่งเป็นบริเวณที่ประสบปัญหาน้ำท่วมอย่างหนัก ทางคณะทำงานจังหวัดได้นำข้าวกล่อง น้ำดื่ม ไปแจกจ่าย เพื่อช่วยเหลือปัญหาเฉพาะหน้าให้กับพี่น้องประชาชนที่ประสบภัยน้ำท่วม เพราะการเข้าออกลำบากหมู่บ้านถูกน้ำท่วม ทำให้การดำเนินชีวิตของประชาชนไม่สามารถดำเนินไปตามปกติ

หนึ่งในทีมงานพรรคก้าวไกลสมุทรปราการระบุว่า ตนเองก็เป็นหนึ่งในผู้ประสบภัยเช่นกัน เพราะบ้านอยู่ในพื้นที่ตำบลบางเพรียง ซึ่งเป็นพื้นที่น้ำท่วม “เราสอบถามกับทางสำนักการระบายน้ำ ซึ่งแจ้งว่าหากไม่มีฝนตกซ้ำ ปริมาณน้ำจะลดลงภายในสองวัน แต่ปัจจุบันน้ำยังไม่ลดลงแต่อย่างใดโดยหมู่บ้านที่ไม่มีการจัดการที่ดีก็ยังประสบปัญหาอยู่” หนึ่งในคณะทำงานกล่าว พร้อมแสดงความกังวลกับผู้สื่อข่าวว่า น้ำจะลดไม่ทันวันจันทร์ ทำให้เกิดความเดือดร้อนหนักแน่นอน เนื่องจากประชาชนต้องเดินทางออกไปทำงาน