ขอบคุณข้อมูลจาก | ข่าวสดออนไลน์ |
---|---|
เผยแพร่ |
“ชัชชาติ” เผยคลองในกรุงฯ ยังวิกฤต3คลอง รับ กังวลปริมาณฝนเต็มคลอง-คลองระบายช้า วางอนาคตระดมติดตั้งเครื่องสูบตามพื้นที่ย่อย หันถามสื่อ ไม่เก็ทศัพท์ ‘วางงาน’ ก่อนร้อง ‘โอ๊ยยย ไม่มี’ ขรก.ทำงานเต็มที่ ย้ำชีวิตต้องคิดบวก
วันที่ 11 ก.ย. 65 ที่สำนักงานเขตบางเขน นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม. กล่าวถึงสถานการณ์น้ำท่วมว่า ปัจจุบันคลองที่อยู่ในระดับวิกฤต มี 3 คลอง ได้แก่ คลองเปรมประชากร คลองลาดพร้าว และคลองประเวศบุรีรมย์ ซึ่งต้องใช้เวลาในการสูบออก ซึ่งที่ผ่านมามีฝนตกหนักเกิน 100 มิลลิเมตรต่อชั่วโมงทุกวัน ทำให้ยังคงมีน้ำท่วมอยู่ประมาณ 10 จุด เช่น สุขุมวิท 71 ทองหล่อ เป็นต้น และบางส่วนที่สามารถระบายได้เร็ว
โดยเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา ตามถนนสายหลักแห้งหมดแล้ว ยกเว้นจุดพหลโยธินที่อยู่ติดคลอง ซึ่งต้องเร่งระบายน้ำออก ควบคู่ไปกับการดูแลประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อน อย่างไรก็ตามเขตบางเขน หลักสี่ สายไหม ดอนเมือง ลาดกระบัง จะเร่งตั้งศูนย์พักพิงชั่วคราว เพื่อดูแลและให้ความช่วยเหลือให้ประชาชน โดยเฉพาะผู้พักอาศัยริมคลองที่ไม่สามารถพักในบ้านได้
ทั้งนี้เขตบางเขน ฝั่งรามอินทราเลขคี่ยังสามารถระบายน้ำออกที่คลองลาดพร้าวได้ ส่วนแยกบางเขน รวมถึงพหลโยธินช่วงต่อกับถนนตัดใหม่ที่มาจากทางถนนสุขาภิบาล 5 ยังคงมีน้ำท่วมขังอยู่ ส่วนพื้นที่เขตดอนเมือง ระดับน้ำในคลองเปรมประชากรน้ำยังสูงอยู่ ทำให้ชาวบ้านริมคลองเปรมประชากรด้านบน เพราะทางเข้าชุมชนเป็นทางเดิน ทำให้รถไม่สามารถสัญจรเข้าไปได้ ซึ่งต้องใช้เรือ
จึงก็ประสานงานกับหน่วยงานทุกภาคส่วน โดยเฉพาะกรมชลประทาน ที่ดูแลน้ำในภาพรวม ขณะที่ฝั่งปทุมธานี ฝั่งแปดริ้ว ฉะเชิงเทรา ได้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลและจัดสรรทรัพยากรต่าง ๆ เช่น ปั๊มน้ำ เป็นต้น ส่วนเขตสายไหมยังดีที่พอมีถนนให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปให้ความช่วยเหลือชาวบ้านที่อยู่ริมคลองได้
สำหรับน้ำเหนือกับน้ำหนุน ไม่ได้มีปัจจัยอะไรมาก เพราะน้ำเจ้าพระยาจะสูงกว่าคลองสายหลักอยู่แล้ว แต่อาจจะมีน้ำจากฝั่งปทุมธานีที่อยู่ในคลองรังสิตประยูรศักดิ์ ดังนั้นจึงต้องดันน้ำจากในคลองรังสิตฯออกสู่เจ้าพระยาให้เร็วที่สุด ซึ่งไม่ว่าจะน้ำเหนือหรือน้ำหนุน ขออย่าให้ล้นคันกั้นน้ำ ซึ่งขณะนี้อยู่ในระดับที่รับมือได้ ยกเว้นจุดฟันหลอบางจุด
นายชัชชาติ กล่าวด้วยว่า สิ่งที่กังวลที่สุดคือ ปริมาณน้ำฝนที่เต็มคลองและคลองที่ยังระบายน้ำได้ช้า อนาคตจะลงทุนเครื่องสูบน้ำมากขึ้น เเละต้องเปลี่ยนแนวคิดจากการก่อสร้างอุโมงค์ยักษ์ มาเน้นเรื่องการปรับปรุงคุณภาพคลอง ขณะเดียวกันปัจจุบันจะเร่งลอกท่อระบายน้ำ และปรับปรุงประสิทธิภาพการสูบน้ำในพื้นที่ย่อยๆตามชุมชน โดยเร่งนำเครื่องสูบน้ำเข้าไปให้มากขึ้น อย่างไรก็ตามยืนยันว่าจากเหตุการณ์น้ำท่วม ตนและคณะทำงานรับฟังความคิดเห็น คำแนะนำจากทุกคน อะไรที่ทำได้ตามคำแนะนำ จะนำไปปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งยินดีรับฟังเสมอ
นอกจากนี้ ชัชชาติ ได้กล่าวถึงกรณีที่ นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง และนักธุรกิจชื่อดัง เขียนข้อความเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กระบุว่า นายชัชชาติโดนวางงาน
โดยนายชัชชาติ กล่าวว่า ไม่มีอะไร ตนเชื่อว่าข้าราชการทุกคนทำงานเต็มที่ เราต้องคิดในแง่บวกว่าทุกคนอยากทำงาน อยากทำให้ประชาชน แต่ว่าทุกคนก็มีเงื่อนไขจำกัด อย่างเขตบางเขนก็มีเครื่องสูบน้ำอยู่ 8 เครื่อง เพราะฉะนั้น ในอนาคตก็ต้องเพิ่มกำลังให้เขา เพิ่มประสิทธิภาพให้เขาในการช่วยเหลือประชาชน
จากนั้น นายชัชชาติได้หันไปถามสื่อมวลชนว่า “วางงาน แปลว่าอะไรนะ ตั้งใจทำให้มีปัญหาเหรอ” สื่อมวลชนจึงตอบกลับว่า “วางยา”
นายชัชชาติจึงตอบกลับว่า ไม่มี ต้องมองบวก
“โอ๊ยไม่มี คือต้องคิดบวกนะ ชีวิตผมต้องมองบวก ผมเชื่อว่าทุกคนอยากจะทำงานร่วมกันในข้อกำหนดที่มี แต่ต้องขอบคุณที่ช่วยแนะนำมุมมองที่เราไม่เคยคิด เชื่อว่าทุกคนก็เห็น อะไรที่ปรับปรุงได้ก็ปรับปรุง แต่เท่าที่ดูผมว่าทุกคนร่วมมือกัน เรื่องโยกย้ายอาจจะมีคนผิดหวัง แต่ผมเชื่อว่าไม่มีผลอะไรที่จะมาทำให้เกิดผลลบได้ เพราะข้าราชการส่วนใหญ่ก็อยากที่จะทำงานอยู่แล้ว”